นครศรีธรรมราช - ทหารพรานมือยิงผู้โดยรถไฟสุไหงโก-ลก - กทม.ยังคลั่งหนักปีนห้องขังวุ่น เหยื่อดับเป็นนักศึกษาพยาบาล เจ็บสาหัสอีก 4 ราย ที่เหลืออีก 10 เจ็บระนาว
วันนี้ (10 ธ.ค.) กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ก่อเหตุยิงถล่มผู้โดยสารบนขบวนรถไฟที่ 38 ต้นทางสุไหงโก-ลก - กรุงเทพฯ เหตุเกิดบนโบกี้นั่งพัดลมชั้น 3 คันที่ 10 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย เหตุเกิดขณะรถไฟขบวนดังกล่าวกำลังแล่นผ่านรอยต่อระหว่าง อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 22.00 น.ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมาโดยขบวนรถได้ไปจอดที่ชานชาลา ชุมทางทุ่งสง อ.ทุ่งสง เพื่อลำเลี้ยงขนย้ายผู้บาดเจ็บลงจากขบวนรถและคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ทันทีหลังจากเกิดเหตุ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10.ธ.ค. เจ้าหน้าที่ได้มีการสรุปจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องรักษาตัวที่ รพ.ทุ่งสง มีจำนวน 4 ราย คือ 1.น.ส.ซาบียะ ซาเยาะ อายุ 22 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าแผ่นหลัง 1 นัด 2.นายกามา บิบิง อายุ 23 ปี ถูกยิงกลางหลัง 1 นัด 3.นายอับดุลเลาะห์ ยีมะดีเลาะห์ อายุ 25 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณต้นขา และอวัยวะเพศ ทั้ง 3 รายมีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.นราธิวาสทั้งหมด และรายที่ 4.คือนายพงศกร อนุสิทธิ์ อายุ 21 ปี อยู่ 373 ม.16 ต.พันสาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พนักงานบริการอาหารและเครื่องดื่มประจำขบวนรถถูกยิงเข้ากลางแผ่นหลัง 2 นัด อยู่ในอาการสาหัส
ส่วนผู้เสียชีวิต คือ น.ส.นัจวา สะนิ อายุ 19 ปี อยู่ 120/1 ม.8 ต.ป่ากอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นนักศึกษาพยาบาล ประจำวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พระพุทธบาท จ.สระบุรี มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณท้ายทอยทะลุหน้าผาก นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยที่ได้รับการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแล้วได้ออกเดินทางต่อไปกับขบวนรถต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุในส่วนของผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำขบวนรถไฟได้คุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ออโตเมติค 1 กระบอกกระสุนยังค้างอยู่ในแมกกาซีน 1 นัด และส่งมอบให้กับ พ.ต.ท.สมบัติ อุตสาหกิจ สว.ตำรวจรถไฟทุ่งสง นำตัวไปสอบสวนชั้นต้นพบว่าอยู่ในสภาพพูดจาไม่รู้เรื่อง ค้นหลักฐานในกระเป๋าเดินทางพบว่าชื่อ อส.ทพ. (อาสาสมัครทหารพราน)เอกลักษณ์ ผุดผ่อง อายุ 21 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 44 ประจำการใน จ.นราธวาส ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ จ.ชุมพร โดยมีพนักงานสอบสวนจาก 2 ท้องที่คือ พ.ต.ท.วินิจฉัย ชมประคต พนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ และ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง เข้าร่วมสอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าวเพื่อดำเนินคดี
พ.ต.ท.วินิจฉัย ชมประคต พนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในส่วนของ อส.ทพ.เอกลักษณ์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ฝากคุมตัวไว้ที่ สภ.ทุ่งสง ตั้งแต่เมื่อคืนเนื่องจากดูสภาพแล้วยังไม่ปกติเพื่อความปลอดภัย จึงคุมตัวไว้ที่ห้องควบคุม สภ.ทุ่งสงไว้ก่อน
“จากการสอบสวนพยานในเบื้องต้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟได้ความว่า จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ที่ช่วง ม.8 ต.ร่อนพิบูลย์ ขณะเกิดเหตุรถไฟกำลังแล่นมุ่งหน้าไปยังชุมทางทุ่งสง โดยมีจุดหมายปลายทางที่ กทม. ซึ่ง พขร.เมื่อทราบเหตุแล้วได้ประสานกับชุมทางทุ่งสงพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะเดียวกันประสานตำรวจท้องที่เข้าร่วมทำการตรวจสอบ ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุจะไปรับตัว อส.ทพ.เอกลักษณ์ มาดำเนินคดี โดยจะต้องพิจารณาหลังจากรับตัวมาแล้วว่ามีอาการทางจิตเวทหรือไม่อย่างไรโดยต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจสอบก่อนที่จะมีการดำเนินคดีตามขั้นตอน” พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุกล่าว
ขณะที่ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าได้เข้าตรวจสอบขบวนรถไฟดังกล่าวพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้วนอกจากนั้นเป็นรอยกองเลือดหลายจุดด้วยกัน เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนั้น อส.ทพ.เอกลักษณ์ ได้โดยสารขบวนรถไฟสายดังกล่าวจาก จ.นราธิวาส พื้นที่ประจำการกลับไปเยี่ยมบ้านใน จ.ชุมพร โดยมีผู้โดยสารคนอื่นๆ นั่งมาในโบกี้จนเต็มโบกี้
“ช่วงที่เกิดเหตุได้ความว่าเขาลุกจากที่นั่งแล้วเดินเข้าห้องน้ำแล้วกลับมา ก่อนที่จะมาถึงจุดที่นั่งได้ชักปืนออกมายิงผู้โดยสารภายในโบกี้หลายนัดอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำขบวนรถอยู่ในโบกี้ใกล้กันเข้ามาไล่ควบคุมตัว อส.ทพ.เอกลักษณ์ไว้ได้พร้อมด้วยอาวุธปืนของกลาง โดยมีการโวยวายว่าเขากำลังจะถูกรุมทำร้าย และจะถูกจับโยนจากขบวนรถ พร้อมอ้างตัวว่าเป็นตำรวจบ้างเป็นทหารพรานบ้าง จนกระทั่งพบหลักฐานว่าเขาเป็นทหารพราน”
พ.ต.ท.จันทร์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ สภ.ทุ่งสง ได้ลงบันทึกประจำวันควบคุมตัว อส.ทพ.เอกลักษณ์ ไว้ที่ สภ.ทุ่งสง ในเบื้องต้นเพื่อรอ สภ.ร่อนพิบูลย์มารับตัว ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาอยู่ในห้องควบคุม อส.ทพ.เอกลักษณ์ อยู่ในสภาพที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ตะโกนโวยวายตลอด เจ้าหน้าที่เดินผ่านไปดูก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่เจ้าหน้าที่ และมีการปีนป่ายลูกกรงเหล็กห้องควบคุมตลอดทั้งคืน ซึ่งจะได้มอบตัวส่งให้ สภ.ร่อนพิบูลย์ ไปดำเนินการต่อไปแล้ว
