ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักท่องเที่ยวต่างชาติร้องถูกเจ็ตสกี-จักรยานยนต์รับจ้างเอาเปรียบ ผู้ว่าฯ ภูเก็ตบี้หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหาเรียกประชุมสัปดาห์หน้าสังคายนากำหนดมาตรการจัดการเด็ดขาดเหตุทำลายภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงปัญหาการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวซึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบจากการเช่าเจ็ตสกี และใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ขณะนี้ปัญหาการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตแล้วถูกเอารัดเอาเปรียบนั้นมีเข้ามาจำนวนมาก
โดยเฉพาะจากการใช้บริการเช่าเจ็ตสกี และใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้จากการเข้าพบของคณะทูตของออสเตรเลียก็ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวออสเตรเลียได้ร้องเรียนปัญหาเหล่านี้ไปยังสถานทูตเนื่องจากเขามีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดความเป็นจริงจากผู้ประกอบการเจ็ตสกี และขณะนี้ในส่วนของจังหวัดทั้งตนและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้รับการสั่งการจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
“จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้วจากการให้บริการเช่าเจ็ตสกี ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเช่าไปแล้วเกิดความเสียหายก็จะมีการเรียกค่าเสียหายในราคาที่สูงทั้งที่มีราคากลางอยู่แล้ว และจากการตรวจสอบคาดว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยในเรื่องของการตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของอันตรายที่นักท่องเที่ยวได้รับเนื่องจากถูกเจ็ตสกีเฉี่ยวชนและอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะการให้เช่าเจ็ตสกีเท่านั้นที่มีการร้องเรียนเข้ามา แต่รวมไปถึงการใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างด้วยที่ไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ เช่น นำนักท่องเที่ยวไปทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ โดยไม่ส่งให้ถึงจุดหมาย นอกจากนั้นยังมีในเรื่องของรถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อนที่ย้ายถิ่นมาจากที่อื่นซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก”นายวิชัย กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของนักท่องเที่ยวที่เกิดจากการถูกรัดเอาเปรียบจะต้องมีการสังคายนาการทำงานของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการมาร่วมกันกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเชื่อว่าการกระทำในลักษณะที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวนั้นเป็นการประทำของคนส่วนน้อยแต่ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นทั้งจังหวัด
สำหรับการพูดคุยนั้นจะกำหนดมาตรการขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาให้หมดไปซึ่งจะรวมไปถึงเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด เพราะปัจจุบันนี้ทราบว่ามีการสวมทะเบียนเจ็ตสกีกันเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีการนำเจ็ตสกีที่จดทะเบียนจากที่อื่นมาใช้ในพื้นที่ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงปัญหาการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวซึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบจากการเช่าเจ็ตสกี และใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตว่า ขณะนี้ปัญหาการร้องเรียนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตแล้วถูกเอารัดเอาเปรียบนั้นมีเข้ามาจำนวนมาก
โดยเฉพาะจากการใช้บริการเช่าเจ็ตสกี และใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้จากการเข้าพบของคณะทูตของออสเตรเลียก็ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวออสเตรเลียได้ร้องเรียนปัญหาเหล่านี้ไปยังสถานทูตเนื่องจากเขามีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดความเป็นจริงจากผู้ประกอบการเจ็ตสกี และขณะนี้ในส่วนของจังหวัดทั้งตนและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้รับการสั่งการจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
“จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้วจากการให้บริการเช่าเจ็ตสกี ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเช่าไปแล้วเกิดความเสียหายก็จะมีการเรียกค่าเสียหายในราคาที่สูงทั้งที่มีราคากลางอยู่แล้ว และจากการตรวจสอบคาดว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยในเรื่องของการตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้นยังมีเรื่องของอันตรายที่นักท่องเที่ยวได้รับเนื่องจากถูกเจ็ตสกีเฉี่ยวชนและอื่นๆ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะการให้เช่าเจ็ตสกีเท่านั้นที่มีการร้องเรียนเข้ามา แต่รวมไปถึงการใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างด้วยที่ไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ เช่น นำนักท่องเที่ยวไปทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ โดยไม่ส่งให้ถึงจุดหมาย นอกจากนั้นยังมีในเรื่องของรถจักรยานยนต์รับจ้างเถื่อนที่ย้ายถิ่นมาจากที่อื่นซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก”นายวิชัย กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของนักท่องเที่ยวที่เกิดจากการถูกรัดเอาเปรียบจะต้องมีการสังคายนาการทำงานของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการมาร่วมกันกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะเชื่อว่าการกระทำในลักษณะที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวนั้นเป็นการประทำของคนส่วนน้อยแต่ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นทั้งจังหวัด
สำหรับการพูดคุยนั้นจะกำหนดมาตรการขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาให้หมดไปซึ่งจะรวมไปถึงเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด เพราะปัจจุบันนี้ทราบว่ามีการสวมทะเบียนเจ็ตสกีกันเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีการนำเจ็ตสกีที่จดทะเบียนจากที่อื่นมาใช้ในพื้นที่ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
