ศปจร.ตร.ยึดรถหรูรวม 28 คัน ผบ.ตร. ควง “จุมพล” แถลงข่าว ระบุสถิติปี 2551 ที่ผ่านมามีรถยนต์ถูกโจรกรรมเฉียด 3,000 คัน โดยมีสถิติเพิ่มมากขึ้นทุกปี
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่กองบังคับการกองปราบราม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปจร.ตร.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พร้อมตำรวจ บช.ส.บก.ป. บก.ปศท. แถลงข่าวการตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อหรูจำนวน 28 คัน ซึ่งต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร นำรถเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร และฉ้อโกงหรือยักยอกบริษัทให้เช่าซื้อรถยนต์ โดยตรวจยึดได้จากอู่ซ่อมและแต่งรถ และสถานที่จอดรถย่านลาดพร้าว พื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า การตรวจยึดรถยนต์ครั้งนี้สืบเนื่องจากการจัดตั้ง ศปจร.ตร. เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกำหนดนโยบายกำกับดูแล และติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดเอกภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามในภาพรวม โดยมีการฟื้นฟูและจัดตั้ง ศปจร.ตร.ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากพบสถิติคดีโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ 2 ปีย้อนหลัง มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยปรากฏว่าในปี 2550 มีแจ้งรถยนต์สูญหาย 2,976 คัน รถจักรยานยนต์สูญหาย 19,853 คัน ส่วนปี 2551 รับแจ้งรถยนต์สูญหาย 2,712 คัน รถจักรยานยนต์สูญหาย 20,039 คัน
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนของตำรวจพบการกระทำความผิดมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เช่น ฉ้อโกงบริษัทประกันภัยหรือบริษัทผู้ให้เช่ารถยนต์ ลักลอบนำรถมาจากนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านขั้นตอนทางศุลกากร ไม่มีการจดทะเบียนชำระภาษี การนำรถที่ได้จากการโจรกรรมมาสวมทะเบียนกับรถที่เกิดอุบัติเหตุ ฯลฯ จึงมีแนวคิดจัดตั้งระบบตรวจสอบและรับแจ้งเหตุผ่านเว็บไซต์ www.lostcars.go.th เพื่อนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นเครื่องมือสนับสนุนภารกิจของ ศปจร.ตร.
“เว็บไซต์ดังกล่าวประชาชนสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลรถที่ถูกโจรกรรม วันเดือนปีที่ถูกโจรกรรม ท้องที่เกิดเหตุ หมายเลขทะเบียน ตำหนิรูปพรรณ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบว่ารถที่จะซื้อนั้นมีการแจ้งว่าถูกโจรกรรมไว้หรือไม่” พล.ต.ท.สมยศกล่าว