xs
xsm
sm
md
lg

“จอย” บุกชี้แจงฝ่าไฟแดง โล่งตร.เพิกถอนหมาย หลังเช็คแล้วไม่ผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จอย ศิริลักษณ์” โล่ง เข้าชี้แจงบก.จราจรตรวจสอบแล้ว ตนไม่ผิด ถูกเพิกถอนหมายเรียก คาดถูกแก๊งสวมทะเบียนรถขับฝ่าไฟแดง แนะตำรวจรอบคอบตรวจสอบตัวอักษรเลขทะเบียนรถ ก่อนส่งหมาย ยันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถ หรือทะเบียนใหม่ แค่ต้องระวังตัวมากขึ้น

หลังจากวิ่งโร่ขึ้นโรงพักวังทองหลาง และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากสงสัยรถยนต์ของตัวเอง จะถูกแก๊งสวมทะเบียนขับฝ่าไฟแดงจนถูกใบสั่ง ล่าสุดวันนี้ (31 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจจราจร นางเอกสาว “จอย ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” ได้นำหมายเรียกเสียค่าปรับฐานขับรถฝ่าไฟแดง เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกับ “พล.ต.ต.วีระพัฒน์ ตันศรีสกุล” ผู้บังคับการตำรวจจราจร

โดยยันว่ารถในหมายเรียกไม่ใช่รถของตน อีกทั้งวันเกิดเหตุก็ไม่ได้ขับผ่านไปแยกนิด้าด้วย ซึ่งภายหลังได้มีการพูดคุยกัน ทาง “พล.ต.ต.วีระพัฒน์” ได้เผยว่า เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ยืนยันจะสืบหารถต้นเหตุนี้ให้ได้

“ก็คงเรียนให้ทราบว่า กรณีที่เรามีรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ซึ่งหมายเลขทะเบียนรถคงตรวจสอบลำบากนิดนึงว่า เป็นหมายเลข ค หรือว่า ศ และ อ หรือ ฮ แต่หมายเลขท้ายคือ 6000 แน่นอน เราก็ได้ตรวจสอบทั้ง ค อ, ค ฮ ก็ไม่มีข้อมูล ส่วน ศ อ ก็เป็นหมายเลขของรถคุณจอย ส่วน ศ ฮ เป็นรถมาสด้า 3 สีดำ ดังนั้นข้อมูลก็จะถูกส่งไปที่คุณจอย และข้อมูลที่ส่งเราก็ไม่ได้ส่งมั่วแต่อย่างใด”

“แต่เมื่อกี้ผมได้ไปยืนดูรถของคุณจอย มันก็มีไม่ตรงกันหลายอย่างตามที่คุณจอยืนยัน ไม่ว่าจะเป็นไฟท้าย กรอบทะเบียน ตัวสเกิร์ต และเสาอากาศ ตัวอักษรท้ายรถ vitz กับ yaris ไม่ตรงกัน ก็เลยเป็น 5 จุดที่เราตรวจสอบแล้ว ไม่ตรงกับเอกสารที่เราได้รับ เราก็คงจะต้องเพิกถอนใบสั่งหมายเรียกอันนี้กลับคืน แล้วก็ดำเนินการตามกฎหมาย”

“คือรถคันนี้อาจจะเป็นรถที่มีการสวมทะเบียนปลอม หรืออาจจะเป็นรถที่ถูกโจรกรรม หรืออาจจะเป็นคนที่มีรถยาริส สีแดง แต่ไม่ต้องการที่จะต่อทะเบียน หรือไม่ต้องการที่จะจดทะเบียน ก็เลยเอาป้ายลักษณะคล้ายๆ กับของคุณจอย ไปใส่ครอบทะเบียนแบบเดียวกันแล้วก็วิ่ง ซึ่งเขาอาจจะหลบเลี่ยงภาษีได้ ก็เป็นข้อมูลสองกรณีคือ การโจรกรรม หรือหลีกเลี่ยงภาษีในช่วงเบื้องต้น”

“ที่ผ่านมาก็เคยเจอกรณีนี้ เราก็ส่งข้อมูลไปด้านโจรกรรมรถยนต์เพื่อตรวจสอบอีก ส่วนรถต้องสงสัยคันนี้ เราก็ต้องส่งภาพไปให้กับศูนย์โจรกรรมรถยนต์ติดตาม เพื่อสืบหารถคันนี้ต่อไป แต่ที่ผ่านมาในกรณีอย่างนี้เรายังติดตามไม่ค่อยได้ เพราะสมมติเป็นรถที่โจรกรรมมา เขาก็จะเปลี่ยนป้ายทะเบียนทันทีแน่นอน หรือรถที่หลบเลี่ยงภาษี วันนี้เขาอาจจะรีบไปจดก็ได้ เพื่อเอาทะเบียนของเขามาติด รถคันนี้ก็จะหายไปในท้องตลาด อันนี้ก็เป็นข้อมูลที่เราต้องสืบต่อไป ซึ่งแต่ละเดือนกับเคสนี้เจอไม่เยอะ ตั้งแต่เราส่งหมายไปสักสามแสนฉบับ เจอประมาณ 2-3 เคสเอง”

จากนั้น “พล.ต.ต.วีระพัฒน์” ได้หันไปถามสาว “จอย” ว่า ยังติดใจอะไรอยู่หรือไม่ นางเอกสาวเผยไม่ติดใจอะไรแล้ว เชื่อเป็นการเข้าใจผิดจริงๆ

จอย : “จอยไม่ได้ติดใจอะไรค่ะ ตั้งแต่แรกเข้าใจอยู่แล้วว่า วันนึงรถมันเยอะ ตำรวจก็ต้องทำงานตลอดเวลาและก็รวดเร็ว และด้วยความที่เป็นยาริส มันก็ไม่น่าจะเป็น ค ความที่ป้ายนี้เขาจงใจให้มันไม่เคลียร์ มองไม่ชัด ก็เป็นไปได้ที่ตำรวจอาจจะสันนิษฐาน หรือแม้แต่เราเป็นคนธรรมดา ก็สันนิษฐานว่าอาจจะ ศ หรืออะไร เพราะประกอบกับรุ่นของรถ ก็อาจจะทำให้มองคลาดเคลื่อนได้”

“ก็ถือว่าจอยโชคดีด้วย ที่เขาไปขับฝ่าไฟแดง ถ้าเกิดเขาไปทำอย่างอื่นที่มันผิดกฎหมายกว่านี้ และบังเอิญถ้าจอยไม่ได้แต่งรถ ซึ่งรถมันคล้ายกันมาก จอยอาจจะต้องมาคุย และอาจจะต้องมีการสืบที่มันยุ่งยากกว่านี้”

พล.ต.ต.วีระพัฒน์ : “ถ้าท่านได้รับหมายเรียกจากกองบังคับการตำรวจจราจร ถ้าสงสัยว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ท่านไม่ได้ขับรถแน่ในช่วงนั้นก็มาตรวจสอบ เราจะเปิดย้อนหลังให้ท่านดู อันนี้คุณจอยได้รับหมายมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ก็นานแล้วเราก็ยังตรวจสอบได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นดาราครับ ตรวจสอบได้ทุกท่านเช่นกัน”

“แต่ถ้าใครกระทำผิดจริง แต่ไม่ยอมรับผิด ก็จะโดนข้อหาแจ้งความเท็จเหมือนกัน ซึ่งค่าปรับมันก็สูงกว่า 500 บาท อันนี้เราจะดูเจตนาแต่ละคน”

จอย : “จอยจะห่วงแค่เรื่องสวมทะเบียนแล้วไปทำอะไรที่มันร้ายแรง คือตอนแรกแค่สงสัยก่อน ก็เลยมาให้ทางนี้เช็คข้อมูลให้แน่นอนว่าเป็นความเข้าใจผิด เป็นทะเบียนที่คล้ายกัน รถคล้ายกัน เป็นการเข้าใจผิด ถ้าโดนสวมทะเบียนจริง อย่างน้อยจอยก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ตำรวจรับทราบแล้ว”

“จอยก็สบายใจในเรื่องที่ว่า ไม่ต้องห่วงถ้ามีเรื่องร้ายแรงกว่านี้โดยรถคันที่ถูกทำให้เข้าใจผิด จอยก็จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนด้วย และจอยก็รู้สึกว่าในความโชคไม่ดี ก็มีความโชคดีที่เรารู้ตัวก่อน”

“อันนี้เป็นระบบใหม่ของบ้านเรา ด้วยความเคารพก็อยากให้ทางตำรวจจราจรเอง อาจจะต้องเสียเวลาเพิ่มนิดนึงในการดูตัวอักษรคล้ายกัน คนที่เขาคิดไม่ดี เขามีเจตนาบดบังค่ะ ก็อยากให้เสียเวลาดูตัวอักษรที่ใกล้เคียงกันด้วย ประชาชนเองก็ต้องช่วยกันในการตรวจดูว่า เอกสารตัวเองใช่หรือไม่ใช่ เพราะถ้าจะให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งตำรวจและประชาชนต้องช่วยกัน”

ซึ่งภายหลังได้มีการชี้แจงเสร็จแล้ว “จอย ศิริลักษณ์” ก็ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า ต่อไปนี้คงต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะทุกคนรู้หมดแล้วว่า รถของตนมีลักษณะเป็นอย่างไร

“ก็จากที่สงสัยสันนิษฐานทั้งสองแบบว่า อาจจะทะเบียนคล้ายกัน และมีรถเหมือนกันพอดี กับอีกอันนึงคือโดนสวมทะเบียน วันนี้ก็ได้มาสอบถามแล้ว เมื้อกี้ผู้การก็บอกว่าโดนสวมทะเบียนแน่นอน เพราะว่าทะเบียนที่ใกล้เคียงเป็นรถรุ่นอื่น ไม่ได้ใกล้กับของเราเลย ก็เลยเพิกถอนหมายเรียกอันนั้นให้เรียบร้อยค่ะ”

“ตอนนี้ก็สบายใจขึ้น จริงๆ ในส่วนของค่าปรับมันไม่ได้สูงเกินกำลังของเรา แต่ว่าถ้ามันโดนสวมทะเบียนแล้วในเคสที่ไปทำผิดกฎหมายร้ายแรง มันจะมีปัญหาภายหลังได้ ถ้าเกิดว่าจอยเงียบๆ ไป หรือไม่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ วันนี้ก็ถือว่าได้ป้องกันตัวเองทั้งสองทางแล้ว”

“ถามว่าจอยต้องปรับเปลี่ยนรถใหม่มั้ย เพราะข่าวออกไปแล้ว คนรู้หมดแล้วว่ารถจอยมีตำหนิอะไรบ้าง เมื่อกี้ปรึกษาผู้การ ท่านก็บอกว่าไม่ต้องหรอก แค่เวลาไปไหนมาไหนต้องดูแลความปลอดภัยมากขึ้นแค่นั้น เพราะคนรู้ว่าเป็นรถเรา ส่วนเลขทะเบียนคงไม่เปลี่ยนหรอกมั้ง ไม่ทราบเหมือนกัน คงไปตามกาลเวลาว่า จะเปลี่ยนรถเมื่อไหร่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ”




กำลังโหลดความคิดเห็น