xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอเร่งสางคดีคาร์บอมบ์เผยโจรใต้ใช้กลยุทธ์ใหม่ควักเงินซื้อรถทำระเบิดแทนโจรกรรม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ดีเอสไอเร่งสางคดีคาร์บอมบ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เผย พบข้อมูลกลยุทธ์ใหม่โจรใต้ใช้วิธียอมควักเงินซื้อรถ แทนการโจรกรรม เพื่อมาทำระเบิด


วันนี้ 4 พ.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนในคดีคาร์บอมบ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการก่อวินาศกรรมโดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะทั้ง 4 ครั้ง ตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดหน้าโรงแรมมารีนา อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อปี 2548 เหตุคาร์บอมบ์หน้าโรงแรมซีเอส จ.ปัตตานี เมื่อเดือน มี.ค.2551 เหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณใกล้หอประชุม ในเขตพื้นที่ ที่ว่าการอำเภอสุคีริน จ.นราธิวาส ในเดือน พ.ย. 2551 และเหตุระเบิดหน้าโรงแรมปาร์ควิว อ.เมือง จ.ยะลา ในเดือน ธ.ค.ปีเดียวกัน พบว่า มีการซื้อรถยนต์เพื่อนำมาใช้ในการก่อเหตุโดยเฉพาะ และมีการต่อวงจรระเบิดที่สลับซับซ้อนมากขึ้น โดยหลักฐานของทั้ง 4 คดีพบความเชื่อมโยงกัน โดยผู้ที่กระทำการเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน และมีผู้สั่งการคนเดียว

“ข้อดีของการเป็นคดีพิเศษทำให้ดีเอสไอสามารถนำผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองเข้ามาช่วยกันตรวจสอบ โดยเป้าหมายสำคัญ คือ ต้องการทราบว่ามีใครอยู่ในขบวนการนี้ และไม่ว่าคดีนี้จะสาวไปถึงผู้บงการหรือไม่ก็ตาม แต่เราสามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาใช้การข่าวเพื่อวางกรอบยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ได้” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ประเด็นการใช้รถยนต์คาร์บอมบ์นั้น พบว่า มีความผิดปกติหลายอย่างเนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายมักจะใช้รถจักรยานยนต์ ที่ขโมยมาจากพื้นที่ต่างๆ แล้วสวมทะเบียนปลอม แต่กรณีนี้พบว่ามีการซื้อรถยนต์เพื่อนำมาใช้ก่อเหตุในราคาคันละ 60,000 -130,000 บาท อย่างไรก็ตาม การใช้คาร์บอมบ์เคยเกิดขึ้นครั้งแรกที่บริเวณหน้าห้างพิธานพาณิชย์ สาขาปัตตานี เมื่อปี 2547 โดยขณะนั้นทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว ซึ่งเป็นผู้ต้องคนเดียวกันที่วางระเบิดหน้าหน้าโรงแรมซีเอส และสนามบินหาดใหญ่ ดังนั้น เหตุการณ์ก่อวินาศกรรมโดยการระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ 5-6 จุดที่ผ่านมา อาจไม่ใช่ผู้ที่มีหมายจับอย่าง นายมะแซ อุเซ็ง แต่อาจเป็นบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ที่มีอำนาจสั่งการคนเดียว

พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า ปัญหาเฉพาะหน้าที่หน่วยงานทางด้านความมั่นคงในพื้นที่ต้องระวังและจับตาเป็นพิเศษ คือ ต่อไปฝ่ายตรงข้ามมีแนวโน้มสูงที่ใช้ผู้ก่ออาชญากรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีประวัติอาชญากรทำงานในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น