ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรม โครงการ “ภูเก็ตเมืองปลอดถุงพลาสติก” โดยการเชิญชวนหน่วยงานราชการ ประชาชนหันมาใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก เชื่อสามารถช่วยลดปริมาณขยะได้ปีละไม่ต่ำกว่า 5,000 ตัน
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการจัดงาน “ภูเก็ตเมืองปลอดถุงพลาสติก” ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ “ภูเก็ตเขียวเฉลิมพระเกียรติ” ว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก จึงได้รับสมญานามว่า เมืองไข่มุกแห่งอันดามัน นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสนใจที่จะมาท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก ทำให้ปริมาณขยะในพื้นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 500 ตัน แต่เตาเผาขยะสามารถเผาได้เพียงวันละ 250 ตัน เท่านั้น ทำให้ขยะล้นเมือง กลิ่นเหม็น และบดบังทัศนียภาพทางสายตา
ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะ และลดการใช้พลังงาน ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้กำหนดจัดโครงการ “ภูเก็ตเขียวเฉลิมพระเกียรติ” ขึ้นซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ 1.พิทักษ์สิ่งแวดล้อม 2.นำพลังงานทดแทนมาใช้ทุกรูปแบบ และ 3.ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล (น้ำมันดิบ) สำหรับโครงการ “ภูเก็ตเมืองปลดถุงพลาสติก” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าว โดยลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากสารไฮโดรคาร์บอน และรณรงค์ให้ประชาชนและหน่วยงานราชการนำถุงผ้ามาใช้แทนถุงพลาสติก ที่ปัจจุบันถุงพลาสติกเป็นที่นิยมใช้กันมากในประเทศไทย เนื่องจากสะดวกสบายใช้ง่าย
แต่ปรากฏว่าเป็นมหันตภัยในการดำรงชีวิตในหลายด้าน เมื่อนำไปทิ้งกว่าจะย่อยสลายต้องใช้เวลาหลายร้อยปี หากนำไปเผาก็จะเกิดก๊าซพิษในอากาศส่งผลต่อภาวะโลกร้อน จังหวัดภูเก็ตจึงใครขอความร่วมมือส่วนราชการได้ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยช่าวยกันจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเป็นผู้ริเริ่มปฏิบัติแล้ว เชิญชวนประชาชนผู้มาติดต่อได้เข้าร่วมโครงการ
นายวิชัย กล่าวต่อไปว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนำถุงผ้ามาใช้แทนถุงพลาสติกจะได้รับการสนับสนุนจากทุกหน่วยงานราชการ อันนำไปสู่เป้าหมายสูงสุด คือ “ภูเก็ตเมืองปลอดถุงพลาสติก” ซึ่งหากไม่ใช้ถุงพลาสติกแล้วจังหวัดภูเก็ต จะสามารถลดปริมาณขยะได้ปีละไม่น้อยกว่า 5,000 ตัน ซึ่งจังหวัดได้กำหนดแผนปฏิบัติงานพร้อมกันในวันที่ 1 กันยายน 2552 เป็นต้นไป
นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการจัดงาน “ภูเก็ตเมืองปลอดถุงพลาสติก” ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ “ภูเก็ตเขียวเฉลิมพระเกียรติ” ว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก จึงได้รับสมญานามว่า เมืองไข่มุกแห่งอันดามัน นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสนใจที่จะมาท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งจำนวนประชากรที่มีจำนวนมาก ทำให้ปริมาณขยะในพื้นที่เพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 500 ตัน แต่เตาเผาขยะสามารถเผาได้เพียงวันละ 250 ตัน เท่านั้น ทำให้ขยะล้นเมือง กลิ่นเหม็น และบดบังทัศนียภาพทางสายตา
ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะ และลดการใช้พลังงาน ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้กำหนดจัดโครงการ “ภูเก็ตเขียวเฉลิมพระเกียรติ” ขึ้นซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ 1.พิทักษ์สิ่งแวดล้อม 2.นำพลังงานทดแทนมาใช้ทุกรูปแบบ และ 3.ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล (น้ำมันดิบ) สำหรับโครงการ “ภูเก็ตเมืองปลดถุงพลาสติก” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าว โดยลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สกัดมาจากสารไฮโดรคาร์บอน และรณรงค์ให้ประชาชนและหน่วยงานราชการนำถุงผ้ามาใช้แทนถุงพลาสติก ที่ปัจจุบันถุงพลาสติกเป็นที่นิยมใช้กันมากในประเทศไทย เนื่องจากสะดวกสบายใช้ง่าย
แต่ปรากฏว่าเป็นมหันตภัยในการดำรงชีวิตในหลายด้าน เมื่อนำไปทิ้งกว่าจะย่อยสลายต้องใช้เวลาหลายร้อยปี หากนำไปเผาก็จะเกิดก๊าซพิษในอากาศส่งผลต่อภาวะโลกร้อน จังหวัดภูเก็ตจึงใครขอความร่วมมือส่วนราชการได้ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยช่าวยกันจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเป็นผู้ริเริ่มปฏิบัติแล้ว เชิญชวนประชาชนผู้มาติดต่อได้เข้าร่วมโครงการ
นายวิชัย กล่าวต่อไปว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนำถุงผ้ามาใช้แทนถุงพลาสติกจะได้รับการสนับสนุนจากทุกหน่วยงานราชการ อันนำไปสู่เป้าหมายสูงสุด คือ “ภูเก็ตเมืองปลอดถุงพลาสติก” ซึ่งหากไม่ใช้ถุงพลาสติกแล้วจังหวัดภูเก็ต จะสามารถลดปริมาณขยะได้ปีละไม่น้อยกว่า 5,000 ตัน ซึ่งจังหวัดได้กำหนดแผนปฏิบัติงานพร้อมกันในวันที่ 1 กันยายน 2552 เป็นต้นไป
