“นายก ส.ท่องเที่ยวสมุย” ชี้ท่องเที่ยวขยายตัวบ่อเกิดปัญหาขยะ-น้ำเสียเพิ่ม

สุราษฎร์ธานี - “นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย” ระบุการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวเกาะสมุย ส่งผลให้เกิดปัญหาขยะ และน้ำเสียเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งทุกฝ่ายต้องเร่งหาทางออกแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน

นายเสนีย์ ภูวเศรษฐถาวร นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยกล่าวว่า การขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยวบนเกาะสมุยช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปีนี้มีปริมาณห้องพักเพิ่มมากขึ้นจากเดิม 15,000 ห้องจากปีที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 16,000 ห้องในปีนี้ ส่งผลให้ความต้องการด้านสาธารณูปโภค ทั้งจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยว และของประชาชนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่นๆ ตามมา ทั้งปัญหาขยะที่ขณะนี้ เตาเผาขยะที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน และยังมีปัญหาเรื่องบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่ยังมีไม่เพียงพอ ซึ่งเกรงว่า หากไม่เร่งแก้ปัญหาจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในระยะยาว

“เรื่องขยะตอนนี้เตาเผาสองเตาก็ล้นแล้ว ไม่เพียงพอที่จะกำจัด หากรัฐบาลสามารถผลักดันเตาเผาให้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเตาก็จะเป็นการดี ส่วนระบบบำบัดน้ำเสีย มีอยู่ 3 จุด ด้วยกัน คือ ที่หาดละไม หาดเฉวง และหาดหน้าทอน ถือว่ายังไม่เพียงพอเพราะยังมีชุมชนใหญ่อีก 3 แห่ง เช่น แม่น้ำ บ่อผุด หัวถนน น้ำที่จะลงสู่ทะเล ต้องรีบบำบัด ป้องกันน้ำทะเลเน่าเสียส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยวโดยตรง”

นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากภาวะที่มีนักท่องเที่ยวน้อยสืบเนื่องมาจากการได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ปัญหาเศรษฐกิจโลก ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวควรจะได้ใช้วิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส หันมามีส่วนร่วมในกิจกรรมโครงการดูแลสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ เกาะสมุยได้มีการประกาศตัวใน “โครงการกรีนไอร์แลนด์โปรเจกต์” ที่ให้ผู้ประกอบการนักท่องเที่ยว และประชาชนได้ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เพื่อให้เกาะสมุย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ต่อไป