สุราษฏร์ธานี - รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเกาะสมุยกล่าวยอมรับเกาะสมุยประสบปัญหาการกำจัดขยะเนื่องจากประชาชนขาดจิตสำนึกในการร่วมกันคัดแยกขยะ ส่งผลให้มีปริมาณขยะที่รอการนำเข้าสู่เตาเผารวม กว่า 15,000 ตัน
นายสุรพงษ์ วิริยานนท์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเกาะสมุยที่กำกับดูแลงานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเกาะสมุย กล่าวยอมรับว่าปัจจุบันอำเภอเกาะสมุยมีปัญหาขยะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวส่งผลให้เตาเผาขยะของอำเภอเกาะสมุยในปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อการกำจัดขยะทำให้มีปริมาณขยะที่รอการกำจัดสูงถึง 15000 ตัน
ทั้งนี้ เกิดจากการที่ประชาชนขาดจิตสำนึกในการคัดแยกขยะ และนำขยะเปียกเข้าสู่เตาเผาส่งผลให้โรงเตาเผาขยะมูลฝอยของเทศบาลเมืองเกาะสมุยมีอายุการใช้งานที่สั้นลง
ปัญหาเรื่องการจัดเก็บไม่มีปัญหา แต่ว่าปัญหาที่หนักที่สุด คือ ปัญหาเรื่องการจัดการขยะ ต้องยอมรับว่า ใช้เตาเผาในการกำจัดขยะนั้นมันไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านการสร้างเตาเผาขยะที่แก้ปัญหาขยะเมื่อสิบปีที่แล้วมันเป็นสิ่งที่ทำลายจิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมของคนเกาะสมุย ขยะทุกส่วนนำเข้าเตาเผาแต่ขยะที่นำเข้าเตาเผาไม่ได้คุณสมบัติมีความชื้นสูงก็เป็นสาเหตุทำให้เตาเผาของเราอายุการใช้งานสั้นลง เพราะฉะนั้นต้องกล้าพูดความจริง ว่าขยะที่กองอยู่ข้างนอก 15,000 ตันจะจัดการกันอย่างไร ที่ผ่านมาทางเทศบาล รับผิดชอบการจัดเก็บขยะและกำจัดขยะโดยการระดมกำลังทุกภาคส่วนกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจะลดภาระของเตาเผาให้สามารถใช้งานต่อไป
รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเกาะสมุยกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อเร็วๆนี้ เทศบาลเมืองเกาะสมุยกำหนดจัดกิจกรรมโครงการนำร่องธนาคารขยะในโรงเรียนขึ้นที่โรงเรียนเกาะสมุยโดยมีโรงเรียนนำร่อง 10 โรงเรียนในอำเภอเกาะสมุยเข้าร่วมกิจกรรมโดยคาดหวังให้มีการสร้างต้นแบบในการจัดการสิ่งแวดล้อมให้เกิดการเรียนรู้แก่เยาวชนและเผยแพร่สู่ชุมชนต่อไป ทั้งนี้จะมีตัวแทนโรงแรม รีสอร์ท และสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการจัดการสิ่งแวดล้อมมาเป็นต้นแบบในการจัดการขยะและร่วมจัดนิทรรศการด้วย ในส่วนของเมืองเกาะสมุยก่อนหน้านี้ได้รับการคัดเลือกจากสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นพื้นที่ดำเนินงาน 1 ใน 15 แห่งของเทศบาลทั่วประเทศ เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมการจัดการวัสดุรีไซเคิลระดับเทศบาลในปี 2552
นายสุรพงษ์ วิริยานนท์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเกาะสมุยที่กำกับดูแลงานด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเกาะสมุย กล่าวยอมรับว่าปัจจุบันอำเภอเกาะสมุยมีปัญหาขยะเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวส่งผลให้เตาเผาขยะของอำเภอเกาะสมุยในปัจจุบันมีไม่เพียงพอต่อการกำจัดขยะทำให้มีปริมาณขยะที่รอการกำจัดสูงถึง 15000 ตัน
ทั้งนี้ เกิดจากการที่ประชาชนขาดจิตสำนึกในการคัดแยกขยะ และนำขยะเปียกเข้าสู่เตาเผาส่งผลให้โรงเตาเผาขยะมูลฝอยของเทศบาลเมืองเกาะสมุยมีอายุการใช้งานที่สั้นลง
ปัญหาเรื่องการจัดเก็บไม่มีปัญหา แต่ว่าปัญหาที่หนักที่สุด คือ ปัญหาเรื่องการจัดการขยะ ต้องยอมรับว่า ใช้เตาเผาในการกำจัดขยะนั้นมันไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านการสร้างเตาเผาขยะที่แก้ปัญหาขยะเมื่อสิบปีที่แล้วมันเป็นสิ่งที่ทำลายจิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมของคนเกาะสมุย ขยะทุกส่วนนำเข้าเตาเผาแต่ขยะที่นำเข้าเตาเผาไม่ได้คุณสมบัติมีความชื้นสูงก็เป็นสาเหตุทำให้เตาเผาของเราอายุการใช้งานสั้นลง เพราะฉะนั้นต้องกล้าพูดความจริง ว่าขยะที่กองอยู่ข้างนอก 15,000 ตันจะจัดการกันอย่างไร ที่ผ่านมาทางเทศบาล รับผิดชอบการจัดเก็บขยะและกำจัดขยะโดยการระดมกำลังทุกภาคส่วนกำจัดขยะตั้งแต่ต้นทาง เพื่อจะลดภาระของเตาเผาให้สามารถใช้งานต่อไป
รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเกาะสมุยกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เมื่อเร็วๆนี้ เทศบาลเมืองเกาะสมุยกำหนดจัดกิจกรรมโครงการนำร่องธนาคารขยะในโรงเรียนขึ้นที่โรงเรียนเกาะสมุยโดยมีโรงเรียนนำร่อง 10 โรงเรียนในอำเภอเกาะสมุยเข้าร่วมกิจกรรมโดยคาดหวังให้มีการสร้างต้นแบบในการจัดการสิ่งแวดล้อมให้เกิดการเรียนรู้แก่เยาวชนและเผยแพร่สู่ชุมชนต่อไป ทั้งนี้จะมีตัวแทนโรงแรม รีสอร์ท และสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการจัดการสิ่งแวดล้อมมาเป็นต้นแบบในการจัดการขยะและร่วมจัดนิทรรศการด้วย ในส่วนของเมืองเกาะสมุยก่อนหน้านี้ได้รับการคัดเลือกจากสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นพื้นที่ดำเนินงาน 1 ใน 15 แห่งของเทศบาลทั่วประเทศ เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมการจัดการวัสดุรีไซเคิลระดับเทศบาลในปี 2552
