ยะลา - ผบ.ทบ.ลงพื้นที่จังหวัดยะลาติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจต่างๆ และมอบนโยบายทางการปฏิบัติของหน่วยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุเห็นควรให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปเพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
วันนี้ (13 ก.ค.) ที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ค่ายลูกเสือรามัน หมู่ที่ 1 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการกองทัพบก พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม และติดตามผลการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยเฉพาะกิจต่างๆ ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยมี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสม พลเรือน ตำรวจทหาร นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และ ผู้บังคับหน่วย ถึงระดับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัว ในจังหวัดยะลา ให้การต้อนรับ โดยเนื้อหาในการประชุมห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปรับฟังโดยเด็ดขาด
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ที่ลงมาในพื้นที่ในวันนี้ เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในขณะนี้การแก้ปัญหาในพื้นที่คือการใช้การพัฒนามาแก้ปัญหา เพราะฉะนั้น การประชุมในครั้งนี้ เป็นการมาสอบถามดูว่า หลังจากที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงเรื่องการแก้ปัญหาไว้นั้น ทางกองทัพต้องการเตรียมการในการใช้เงินงบประมาณในปีหน้า เพื่อต้องการให้เงินงบประมาณที่ลงมาในพื้นที่เกิดผลประโยชน์มากที่สุด โดยเน้นการพัฒนาไปแก้ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่วนการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลกับทางรัฐบาลว่ามีความจำเป็นหรือไม่อย่างไร
รวมถึงพื้นที่อื่นๆในประเทศ ส่วนที่จะมีผลกระทบอย่างมากที่สุด ถ้าไม่มีพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.) คือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องไปใช้อำนาจเหมือนปกติ เช่น กรุงเทพมหานครโดยจับผู้กระทำผิดตามปกติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันว่าการปฏิบัติงานคงจะมีความยากลำบากมากยิ่งขึ้น จากการสรุปผลแล้วควรที่จะใช้พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.) ต่อไปอีก ถ้าจะไม่มีการใช้นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางรัฐบาลก็ต้องน้อมรับคงไม่มีปัญหาได้ทั้งนั้น ผู้ที่ถืออำนาจรัฐมีหน้าที่บอกว่าให้ทำอย่างไร ทางเราเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องทำตาม
สำหรับเหตุการณ์ที่มัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ที่สร้างความสะเทือนขวัญแก้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เร่งทำให้เกิดความกระจ่าง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่หายจากความคลางแคลงใจ และทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาปกติสุขอีกครั้งหนึ่ง