xs
xsm
sm
md
lg

เลขาฯเจ้าอาวาสตรังแฉ จนท.เรียกเงินตั้งวัดนับหมื่นร้องเรียนแต่ไม่คืบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - เลขาธิการเจ้าอาวาสที่พักสงฆ์ป่าพรหมประทาน ร้องเรียนถูกดองเรื่องขออนุญาตสร้างวัดป่าพรหมประทาน ในสังกัดนิกายธรรมยุต พื้นที่จังหวัดตรัง พร้อมแฉเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งรีดไถเงินสำนักสงฆ์ แห่งละประมาณ 10,000-15,000 บาท

วันนี้ (30 มิ.ย.) นายดลชัย ชุณห์อรรถกิจ เลขาธิการเจ้าอาวาสที่พักสงฆ์ป่าพรหมประทาน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว ว่า ตนได้ดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดป่าพรหมประทาน ในสังกัดนิกายธรรมยุต กับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการดำเนินการขออนุญาตจัดสร้างวัดตามขั้นตอน และตามลำดับขั้นตอนอย่างถูกต้องทุกอย่าง แต่จนถึงขณะนี้เรื่องทั้งหมดก็ยังคงติดอยู่ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง เนื่องจากยังมิได้มีการนำเรื่องนี้เสนอไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง อ้างว่า ไม่สามารถส่งเรื่องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อความสามัคคีในชุมชน และสร้างความแตกแยกให้แก่ประชาชนในท้องที่ จนทำให้เกิดปัญหาแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย

เรื่องดังกล่าวทางผู้ดำเนินการก่อสร้างวัดป่าพรหมประทาน และประชาชนที่มีความนับถือในพระพุทธศาสนา สังกัดนิกายธรรมยุต เชื่อว่า เป็นการกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่บางคน เนื่องจากตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2539 ที่พักสงฆ์ป่าพรหมประทาน ได้ดำเนินกิจกรรมทางศาสนามาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้น การจัดกิจกรรมทางศาสนายังถือว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่ และผู้เคารพนับถือในนิกายธรรมยุตจากจังหวัดต่างๆ ที่ได้เดินทางเข้าร่วมในการปฏิบัติวิปัสสนา จนกระทั่งได้รับการสมทบทุนในการจัดสร้างกุฏิพระ โรงครัว หอฉันท์ และโบสถ์ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความแตกแยกให้แก่ชุมชน เพราะตลอดระยะเวลาในการดำเนินการต่างๆ ประชาชนในพื้นที่และผู้นำท้องถิ่นต่างให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี อีกทั้งในหนังสือขออนุญาตสร้างวัดป่าพรหมประทาน ก็ได้รับการลงชื่ออนุญาตทั้งจากกำนันตำบลในควน ปลัดอำเภอย่านตาขาว และนายอำเภอย่านตาขาว รวมทั้ง นายสุรพล วิชัยดิษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ยังได้อ้างว่า การลงความเห็นและการลงนามของรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ไม่ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนทางราชการ ซึ่งถือเป็นข้ออ้างที่ไม่สามารถยอมรับรับได้ ทั้งๆ ที่การลงนามของรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรังดังกล่าว ถือเป็นการปฏิบัติราชการแทน นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามระบบราชการไทย

ส่วนกรณีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ได้อ้างอีกว่า พระสังฆาธิการที่ลงนามในฐานะเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัด ในสังกัดนิกายธรรมยุตนั้น ไม่ปรากฎในแถลงการคณะสงฆ์ ซึ่งถือว่าไม่เป็นความจริงและสามารถตรวจสอบได้ เพราะอยู่ในข้อบัญัติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกัน การดำเนินการจัดสร้างวัดป่าพรหมประทาน ก็ถูกต้องตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้คือ ทิศเหนือ มีวัดช่องหาย ตั้งอยู่บ้านช่องหาย หมู่ที่ 8 ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว ระยะห่าง 3.8 กิโลเมตร มีพระภิกษุประจำ 3 รูป สามเณร 1 รูป ทิศใต้ มีวัดควนมะนาวศรี ตั้งอยู่บ้านควนมะนาวศรี หมู่ที่ 4 ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว ระยะห่าง 4 กิโลเมตร มีพระภิกษุประจำ 8 รูป สามเณร 1 รูป ทิศตะวันออก มีวัดปากคลอง ตั้งอยู่บ้านปากคลอง หมู่ที่ 6 ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว ระยะห่าง 8.1 กิโลเมตร มีพระภิกษุประจำ 2 รูป สามเณร 1 รูป และทิศตะวันตก มีวัดนิกรรังสฤษฏิ์ ตั้งอยู่บ้านย่านตาขาว หมู่ที่ 1 ตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว ระยะห่าง 2.5 กิโลเมตร มีพระภิกษุประจำ 6 รูป สามเณร 3 รูป

สำหรับกรณีที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ได้ทำหนังสือส่งกลับไปยังนายอำเภอย่านตาขาว เพื่อให้จัดทำเรื่องขออนุญาตสร้างวัดป่าพรหมประทานใหม่ทั้งหมด และในหนังสือจะต้องเว้นช่องให้ผู้ว่าราชการตรัง ลงความเห็นชอบด้วยตนเองนั้น อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใหญ่ในหน่วยงานราชการจังหวัดตรังท่านหนึ่ง ได้ประสานขอเป็นคนกลาง เพื่อเจรจาพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อให้อนุญาตในการดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดต่อไปได้ โดยไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตจัดสร้างวัดใหม่ เพราะการดำเนินการทั้งหมดได้ทำมาอย่างถูกต้องแล้ว

ทั้งนี้ ทางคณะผู้ดำเนินการจัดสร้างวัดป่าพรหมประทาน เห็นว่า หากระยะเวลาผ่านไปแล้วการดำเนินการทุกอย่างไม่มีความคืบหน้า ก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอความยุติธรรม เนื่องจากเคยได้ยินเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านและสำนักสงฆ์หลายแห่ง ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ว่า มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหนึ่ง มีพฤติกรรมรีดไถเงินจากพระภิกษุ โดยอ้างว่าจะช่วยดำเนินการขออนุญาตสร้างวัดให้ ซึ่งจะรีดไถเงินสำนักสงฆ์แห่งละประมาณ 10,000-15,000 บาท จึงอยากจะให้ทางจังหวัดตรังช่วยดำเนินการติดตามพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ไม่ใช้ปล่อยให้ดำเนินตามอำเภอใจ โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่มาหากิน

นายหรีม หลงขาว กำนันตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง กล่าวว่า สำนักสงฆ์ป่าพรหมประทาน เริ่มต้นตั้งขึ้นมาจากการเป็นสำนักวิปัสสนา ในสังกัดนิกายธรรมยุต นับตั้งแต่ปี 2539 โดยที่คนในพื้นที่ไม่ได้แสดงความรังเกลียด หรือแบ่งแยกศาสนาแต่อย่างใด จึงไม่ถือเป็นการสร้างความแตกแยกให้แก่คนในชุมชน ตามข้ออ้างในหนังสือของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง ที่ส่งเรื่องกลับมาให้ดำเนินการขออนุญาตใหม่ หลังจากที่กระทำการตามขั้นตอนมาแล้วตั้งแต่เมื่อปลายปี 2551

ตลอดการตั้งเป็นสำนักสงฆ์ป่าพรหมประทานนั้น ทางคณะผู้ดำเนินการและพระภิกษุในวัด ต่างมีสัมพันธ์กับชาวบ้านในพื้นที่ โดยการเอื้อไมตรีในการให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น การสนับสนุนด้านการศึกษาหรืองบประมาณในการพัฒนาตามโครงการต่างๆ โดยไม่แยกชาวไทยพุทธหรือชาวไทยมุสลิม เนื่องจากในพื้นที่ตำบลในควนมีประชาชนทั้ง 2 ศาสนาอาศัยอยู่ร่วมกัน จึงถือว่าเป็นสำนักสงฆ์หนึ่งที่มีศาสนสัมพันธ์กับชาวบ้านมาโดยตลอด และโดยส่วนตัวมองว่าการที่จะมีวัดขึ้นมาเป็นจำนวนมากนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดีแก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่เพื่อเป็นการที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และไม่ได้เป็นการสร้างความเสียหายให้แก่สังคมแต่อย่างใด

พระครูอรรถธรรมเมธี เจ้าคณะอำเภอจังหวัดพังงา และจังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังจากนี้ไปในการดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างวัด ทางคณะสงฆ์ในนิกายธรรมยุตทั้งหมด จะไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะปล่อยให้ฝ่ายประชาชนเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด

ส่วนแนวทางการดำเนินการต่อไปนั้น คาดว่า น่าจะดำเนินการใน 3 แนวทาง คือ 1.ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้เสนอแนะคือ ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมายังจังหวัดตรัง 2.ทำหนังสือร้องขอความชอบธรรมไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา และ 3.ทำหนังสือร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอความยุติธรรมตามความประสงค์เดิมของประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางคณะสงฆ์มองว่าแนวทางดังกล่าวไม่ควรกระทำ เพราะจะทำให้เรื่องยุ่งยาก แต่เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ก็คงต้องปล่อยให้ประชาชนดำเนินการตามกระบวนการต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น