ภูเก็ตเสวนาหาทางออกท่องเที่ยวในช่วงตกต่ำ

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จังหวัดภูเก็ตจัดเสวนาแก้วิกฤติการท่องเที่ยวในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

วันนี้ (28 มิ.ย.) เทศบาลนครภูเก็ตร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จัดโครงการเสวนาความคิดเห็นด้านการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต หัวข้อ ”ภูเก็ตกับธุรกิจภาคท่องเที่ยวปีฉลู (ฉลุยจริงหรือ)” โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วยนายสมิทธิ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายทศพร เทพบุตร รองประธานกรรมาธิการท่องเที่ยวและกีฬา นายแพทย์ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และ นายพงษ์ศักดิ์ ชิวรัตน์ อดีตกรรมการผู้จัดการ SME BANK

นางสาวสมใจ สุวรณศุภพนา นายกเทศมนตรีเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวถึงการจัดสัมมนาในครั้งนี้ ว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวระดับโลก แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่สามารถควบคุมได้

ดังนั้น เพื่อร่วมกำหนดแนวทางและทิศทางการท่องเที่ยว การปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาทักษะองค์ความรู้ ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทางเทศบาลนครภูเก็ต จึงได้จัดโครงการเสวนาดังกล่าวขึ้น เพื่อกำหนดแนวทางและทิศทางการท่องเที่ยวให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ระหว่างภาคีที่เกี่ยวข้อง และเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่มีส่วนได้เสียต่อธุรกิจท่องเที่ยวสามารถรองรับปัญหาและผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นางสาวสมใจ กล่าว

นายทศพร เทพบุตร รองประธานกรรมาธิการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 การปิดสนามบินเมื่อปลายปีที่ผ่านมาและปัญหาทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่า จะกระทบไปจนถึงปลายปีนี้ โดยขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกลดลงประมาณ 20% และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตลดลงประมาณ 30%

นายทศพร กล่าวต่อไปว่า ในการพัฒนาการท่องเที่ยวในตัวเมืองภูเก็ตนั้น อยากให้ทางเทศบาลนครภูเก็ตสร้างยิมเนเซียมขนาดใหญ่ มีความจุประมาณ 4 พันที่นั่ง บริเวณศูนย์กีฬาปลายแหลมสะพานหิน เพื่อดึงกิจกรรมการแข่งขันกีฬามาเสริมในช่วงโลว์ซีซัน

ในขณะที่ นายแพทย์ ศิริชัย ศิลปอาชา ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่าอีก 6 เดือนข้างหน้า สถานการณ์การท่องเที่ยวจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะดัชนีการฟื้นตัวทั่วโลกเริ่มกลับมาแล้ว และในปีหน้าก็จะดีขึ้นเช่นเดียวกัน และจะกลับมาแย่อีกครั้งในปีถัดไป ทั้งนี้หากมีการยุบสภา ภายในสิ้นปีเชื่อว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้น แต่หากไม่ยุบสภาฯ สถานการณ์ก็ยังคงเป็นไปเรื่อยๆ

เช่นเดียวกับ นายเมธี ตันมานะตระกูล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า อัตราการเข้าพักนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาทรุดลงต่อเนื่อง แต่เชื่อว่า อีก 6 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซันซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 70% โดยส่วนใหญ่จะเข้ามากับเครื่องบินเช่าเหมาลำ ในขณะที่เที่ยวบินประจำยังไม่มีความชัดเจน

“จากที่พูดคุยกับเอเย่นซึ่งเดิมเคยส่งนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทย โดยเฉพาะภูเก็ต พบว่าในบางตลาดไม่ส่งนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาอีก เช่น ตลาดออสเตรเลีย ซึ่งมองว่าคนไทยเป็นคนที่โอบอ้อมอารี มีอะไรให้ด้วยใจไม่หวังสิ่งใดตอบแทน แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนสงกรานต์ที่ผ่านมา เขาบอกว่า ไม่น่าจะเป็นคนไทย ส่วนการปิดสนามบิน เขาไม่ได้มองว่าเป็นความคิดที่แตกต่าง ที่สำคัญยังไม่เห็นรัฐบาลนำคนที่ก่อเรื่องมาลงโทษ ต่างกับการเกิดเหตุระเบิดที่บาหลีประเทศอินโดนีเซีย ที่รัฐบาลของเขาได้นำคนผิดมาลงโทษ จึงทำให้เขาเกิดความเชื่อมั่นและเดินทางกลับไปเที่ยวอีก”

นายเมธี ยังกล่าวอีกว่า แม้เรายังขายประเทศไทยและภูเก็ตได้ แต่ก็จะต้องทำให้เขามีความมั่นใจ โดยเฉพาะในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ เราจะต้องทำให้เขาเห็นว่า เราเคยเป็นชาติที่เขาเคยนิยมชมชอบ และไว้ใจได้เมื่อมาท่องเที่ยวแล้วมีสบายใจได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เราจะได้แสดงภาพความพร้อม และหวังว่า หลังจากการประชุมดังกล่าวเสร็จสิ้นจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกลับเข้ามาอีกครั้ง

ส่วน นายพงศ์ศักดิ์ ชิวรัตน์ อดีตกรรมการผู้จัดการ SME BANK กล่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ว่า ต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ ในการที่จะดึงดูดการท่องเที่ยว โดยเสนอให้ภาครัฐและภาคเอกชนหันมาชูเรื่องของวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นอีกจุดแข็งหนึ่ง

ขณะที่ นายวินัย เรืองจารุวัฒนา เจ้าของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง ได้เสนอให้มีการทำประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหากต้องการให้ธุรกิจท่องเที่ยวของภูเก็ตเดินหน้าต่อไปได้ แต่ผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจะต้องร่วมมือกันในการประชาสัมพันธ์ และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อแก้ไขวิกฤตด้านการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องรอรัฐบาล ซึ่งการแก้ปัญหานั้นจะต้องร่วมมือกันเองก่อน