xs
xsm
sm
md
lg

เผยแก๊งปล่อยกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหดระบาดใต้-ส่งชายฉกรรจ์ติดตามทวงหนี้แบบโหดครบวงจร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช – เศรษฐกิจตกสะเก็ด!! เผยแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ และคิดอัตราดอกเบี้ยมหาโหดกว่าร้อยละ 20 ได้ออกตระเวนหากินในหลายเมืองของภาคใต้ โดยจัดกองกำลังทวงหนี้ทำหน้าที่ทั้งข่มขู่ ยึดทรัพย์ และใช้มาตรการผิดกฎหมายแบบครบวงจร ด้านศูนย์ดำรงธรรมเมืองคอนรับคำสั่งผู้ว่าฯ ให้ออกช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร้องเรียนว่าถูกแก็งทวงหนี้รังแก ก่อนที่จะติดตามรวบได้ 2 หนุ่มที่กำลังตระเวนข่มขู่เก็บเงินลูกหนี้ เมื่อตรวจสอบถึงกับตะลึงบัญชีรายชื่อลูกหนี้นับหมื่นราย

วันนี้ (11 มิ.ย.) นายจารุมัย นพรัตน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำจนส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพหารายได้ของประชาชนอย่างกว้างขวาง ได้มีกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบจากต่างถิ่นแห่เข้ามาประกอบธุรกิจปล่อยเงินกู้โดยผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างกว้างขวาง โดยเรียกเก็บเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยแบบรายวัน ซึ่งเฉพาะอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ขึ้นไป โดยยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เรียกเก็บด้วย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องการเงินกู้เงินกับแก๊งเงินกู้นอกระบบหลายพันราย เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถจ่ายเงินได้ตามนัดก็จะมีชายฉกรรจ์แก๊งทวงหนี้ตระเวนเรียกเก็บเงิน พร้อมข่มขู่ทำร้ายร่างกาย รวมถึงขู่ฆ่า จับลูกหนี้ที่เป็นผู้หญิงหรือบุตรสาวไปข่มขืนกระทำชำเราขัดดอกเบี้ย และยังตามยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้เป็นประกัน เช่น โทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เป็นต้น สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่เป็นลูกหนี้เงินกู้นอกระบบเป็นอย่างมาก

นายจารุมัย กล่าวว่า กลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบได้ขยายธุรกิจอย่างกว้างขวางเกือบทุกอำเภอ โดยมียอดลูกหนี้ในแต่ละอำเภอนับพันคน ที่ผ่านมามีลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนและอยู่อย่างหวาดกลัวต่อแก๊งทวงหนี้ ซึ่งได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปยัง นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง เช่น ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ปากพนัง อ.ทุ่งสง และล่าสุดเมื่อเย็นวานนี้ (10 มิ.ย.) ลูกหนี้ในเขต อ.สิชล กว่า 10 รายได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือ ซึ่งผู้ว่าฯ ก็ได้สั่งการให้ตนพร้อมด้วย นายอำพล สังข์ทอง รองหัวหน้าชุด ฉก.ศรีวิชัย เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดแล้ว

เมื่อไปถึงพบลูกหนี้ตามที่ร้องเรียน ตนจึงนำลูกหนี้ขึ้นรถตู้ขับตระเวนหาแก๊งทวงนี้ไปทั่วตลาดสิชล และได้พบเห็นพฤติกรรมการทวงหนี้ของชายฉกรรจ์จำนวน 2 คน ที่ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน ตระเวนตามทวงหนี้ โดยการข่มขู่และยึดทรัพย์ลูกหนี้ ตนจึงตัดสินใจลงจากรถเข้าไปเชิญตัวชายฉกรรจ์ทั้งสองคนมาสอบสวน ทราบชื่อคือ นายสิงหา สวนสงค์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/7 หมู่ 4 ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก และนายวิเชียร ทองมุ้ย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ 5 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และจากการตรวจสอบในตัวของทั้งสอง พบเงินสดกว่า 30,000 บาท สมุดบัญชีรายชี้ลูกหนี้ 1 เล่ม ซึ่งมีรายชื่อลูกหนี้กว่า 1,000 ราย โดยมีวงเงินกู้เงินคนละ 3,000-20,000 บาท

“จากการสอบสวนปากคำ นายสิงหา และนายวิเชียร ทั้งสองให้การว่า นายทุนใหญ่ได้เดินทางมาปักหลักทำธรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบในหลายจังหวัดของภาคใต้ โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ซึ่งในพื้นที่ 2 จังหวัดก็มีลูกหนี้กว่า 2 หมื่นราย สำหรับพวกตนจะทำหน้าที่ออกติดตามทวงหนี้บรรดาลูกหนี้ที่ไม่ยอมจ่ายเงินรายวันตามข้อตกลง โดยนายทุนจะเช่าบ้านให้อยู่ และจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถให้ทั้งหมด พร้อมจ่ายเงินเดือนให้พวกตนคนละ 5,000 บาท สำหรับเบี้ยเลี้ยงจะขึ้นอยู่กับยอดการเก็บเงินในแต่ละวัน”

หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นตนได้ให้พนักงานสอบสวน สภ.สิชลทำบันทึกการตรวจยึดรถ จยย.ของนายสิงหาและนายวิเชียร เพราะ จยย.คันดังกล่าวไม่มีหลักฐานใดๆ นอกจากนี้ ได้ทำบันทึกประวัติพร้อมถ่ายรูปนายสิงหาและนายวิเชียรไว้อย่างละเอียด ก่อนปล่อยตัวไปชั่วคราว โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ยังหวาดกลัวว่าจะไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม หากต่อไปทั้งสองมีพฤติกรรมในการตามทวงหนี้ที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย และผู้เสียหายประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็สามารถตรวจสอบหลักฐานและชี้รูปถ่ายของผู้กระทำผิด และเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้ทันที ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสำคัญกับกรณีด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น