ตรัง - ชาวบ้านในอำเภอห้วยยอก เข้าร้องเรียนต่อสื่อกรณีที่สูตินรีแพทย์โรงพยาบาลตรัง ได้ทำคลอดภรรยาจนทำให้ลูกชายต้องเสียชีวิตหลังจากคลอดมาได้เพียงแค่ 11 วัน
วันนี้ (13 พ.ค.) นายณัฐสิทธิ์ สังข์สุข อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 ม. 7 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานพายเรือของถ้ำเล ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นางสาวจันทร์เพ็ญ สุสิคง อายุ 30 ภรรยา ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว กรณีที่สูตินารีแพทย์โรงพยาบาลตรัง ได้ทำคลอดภรรยาจนทำให้ลูกชายต้องเสียชีวิตหลังจากคลอดมาได้เพียงแค่ 11 วัน
นายณัฐสิทธิ์เล่าว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา นางสาวจันทร์เพ็ญ ภรรยา ซึ่งมีกำหนดคลอดบุตรคนที่ 2 ที่โรงพยาบาลห้วยยอด อ.ห้วยยอด หลังจากที่ได้มีการฝากครรภ์กับสถานีอนามัยใกล้บ้านตามปกติ โดยไม่ได้มีการฝากครรภ์เป็นพิเศษกับแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากเป็นการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 และครรภ์แรกนั้นก็ไม่มีเหตุผิดปกติแต่อย่างใด จากนั้น เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ภรรยาได้เข้าคลอดลูกที่โรงพยาบาลห้วยยอด เนื่องจากมีอาการน้ำคร่ำแตก
กระทั่งแพทย์โรงพยาบาลห้วยยอด ลงความเห็นว่าอาการของภรรยาน่าเป็นห่วง เนื่องจากอยู่ในเกณฑ์อันตราย จึงได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลตรัง พร้อมกับส่งประวัติของคนไข้ทั้งหมด ที่มีการระบุอาการมาอย่างชัดเจน แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาลตรัง ทางทีมพยาบาล และแพทย์ผู้รับไข้ คือ แพทย์หญิงกาญจนา ชุณห์อรรถกิจ ไม่ได้ส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดโดยทันที แต่กลับส่งตัวไปยังห้องรอคลอด ซึ่งในขณะนั้นภรรยาของตนเองหมดเรี่ยวแรงที่จะเบ่งคลอดแล้ว จึงได้สลบไปช่วงขณะหนึ่ง
นายณัฐสิทธิ์เล่าอีกว่า เมื่อภรรยาของตนเองฟื้นขึ้นมาจึงได้ทำการผ่าตัด และลูกที่คลอดออกมาเป็นเพศชาย อย่างไรก็ตาม แพทย์ผู้รับไข้ระบุว่า เนื่องจากเด็กขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง จึงได้นำตัวเข้าตู้อบเพื่อดูแลอาการ แต่หลังจากที่ลูกชายของตนมีอายุได้เพียง 11 วัน ก็ต้องเสียชีวิตลง โดยตนมองว่าการทำงานของแพทย์และพยาบาลในวันนั้น ไม่ได้มีความเอาใจใส่ กับการช่วยเหลือแม่และเด็กให้รอดปลอดภัยอย่างเต็มที่ อีกทั้งตลอดระยะของการเข้ารับการรักษา แพทย์และพยาบาลมีความเฉยเมย ไม่กระตือรือร้นในการช่วยชีวิตผู้ป่วย และยังมีการพูดจาที่ไม่ไพเราะ หรือเหมาะสมต่ออาชีพที่ทำอยู่ เพราะไม่ได้แสดงออกถึงการเต็มใจที่จะรักษาคนไข้เลย
ทั้งนี้ หลังจากที่เกิดเรื่องทั้งหมดขึ้นมา ทางโรงพยาบาลตรังได้แสดงความรับผิดชอบในการจ่ายค่าชดเชยเบื้องต้นให้แล้ว เป็นเงินจำนวน 100,000 กว่าบาท แต่ตนและภรรยาเห็นว่า แพทย์ผู้รับไข้ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญในการรักษาเป็นอย่างดี แต่กลับมีการตัดสินใจล่าช้า จนทำให้ตนและครอบครัวต้องเสียลูกชายไป จึงได้เข้าร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรม
และต้องการให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะแพทย์ผู้ทำคลอดที่ควรจะออกมาแสดงความรับผิดมากกว่านี้ พร้อมทั้งยังต้องการให้ทางโรงพยาบาลหาวิธีการแก้ปัญหาในเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างถาวร เพื่อไม่ให้ต้องมาเกิดขึ้นกับครอบครัวใครได้อีก แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากทางโรงพยาบาลตรัง และแพทย์ผู้ทำคลอดแต่อย่างใด
นายแพทย์สมนึก เชื้อทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง กล่าวว่า ในขณะนี้ได้เร่งดำเนินการให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการในการตรวจสอบเรื่องทั้งหมด เบื้องต้นได้ใช้มาตรา 41 ตาม พ.ร.บ หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามกฏหมายเบื้องต้นแล้ว โดยชดเชยให้คุณแม่เป็นจำนวนเงิน 120,000 บาท และในนามบุตรอีกจำนวน 60,000 บาท ส่วนแพทย์ผู้ทำคลอดได้มีการเรียกให้มาเข้าพบแล้ว และคาดว่าจะสามารถนัดให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุย เพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดต่อไปในเร็วๆ นี้