xs
xsm
sm
md
lg

บุกร้องสภาทนายบุรีรัมย์ขอความเป็นธรรม - รพ.สตึกทำคลอดลูกตายในครรภ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สองสามีภรรยาพร้อมญาติ บุกร้องสภาทนายความบุรีรัมย์ขอความเป็นธรรมให้รพ.สตึก ออกมารับผิดชอบหลังทำคลอดบุตรเสียชีวิตในครรภ์
บุรีรัมย์ - สองสามีภรรยาพร้อมญาติ บุกร้องสภาทนายความบุรีรัมย์ขอความเป็นธรรมให้รพ.สตึก ออกมารับผิดชอบหลังทำคลอดลูกเสียชีวิตในครรภ์ ยืนยันเกิดจากความบกพร่องของทางโรงพยาบาลเอาเรื่องถึงที่สุด ด้านสภาทนายความฯ ส่งเรื่องให้ รมว.สาธารณสุขและ กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ว่า นายประสิทธิ์ ยั่งยืน อายุ 35 ปี และ นางศิริวิมล ทองยุบ อายุ 33 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 26/3 ม.5 บ.สระกอไทร ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อม นางเกา ยั่งยืน อายุ 57 ปี แม่สามี และญาติ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อนายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือ หลังนางศิริวิมล ได้ไปทำคลอดที่โรงพยาบาลอำเภอสตึก เมื่อคืนวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. แต่ทางโรงพยาบาลไม่กระทำการใดๆ อ้างว่าปากมดลูกเปิดแค่ 2 เซนติเมตร ตามปกติต้องให้ปากมดลูกเปิด 10 เซนติเมตร จึงจะสามารถทำคลอดได้ จึงปล่อยให้ นางศิริวิมล นอนรอคลอดด้วยเจ็บปวด

จากนั้นเวลา 04.00 น.วันที่ 7 มี.ค. แพทย์ได้มาตรวจพบว่าคลื่นหัวใจเด็กเต้นเป็นปกติ แต่ ปากมดลูกยังไม่เปิดกว้างแพทย์จึงยังไม่ทำคลอดให้ จนกระทั่งถึงเช้าของวันที่ 7 มี.ค. แพทย์มาตรวจอีกครั้งพบว่าเด็กได้เสียชีวิตอยู่ในครรภ์แล้ว จึงได้ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อนำเอาร่างของเด็กที่เสียชีวิตออกจากครรภ์ เพราะเกรงว่าแม่จะเป็นอันตราย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พ่อแม่และญาติ ไม่พอใจและเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เด็กต้องเสียชีวิต เกิดจากความบกพร่องไม่เอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอ.สตึก ทั้งๆ ที่วันเกิดเหตุในโรงพยาบาลมีผู้รอทำคลอดอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น จึงได้เข้าร้องต่อสภาทนายความ ให้ช่วยดำเนินการเรียกร้องขอความเป็นธรรม ให้ทางโรงพยาบาลออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางศิริวิมล เล่าทั้งน้ำตาว่า ด้วยความเป็นแม่ที่ต้องอุ้มท้องมานานถึง 9 เดือน รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องสูญเสียลูก ทั้งที่ไม่ทันได้ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ ตนเชื่อว่าเกิดจากความไม่เอาใจของแพทย์ พยาบาล เพราะที่ผ่านมาตนได้ไปตรวจครรภ์ตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง และแพทย์ก็ระบุว่าทั้งตนและลูกในครรภ์ มีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ทุกอย่าง ไม่มีอะไรผิดปกติแต่อย่างใด

แม้กระทั่งหลังจากลูกเสียชีวิตที่แพทย์ได้นำออกมาจากครรภ์แล้ว ก็ยังมีน้ำหนักถึง 3,306 กิโลกรัม เป็นเพศชาย และอวัยวะสมบูรณ์เหมือนทารกทั่วไป

นางศิริวิมลยังกล่าวด้วยความน้อยใจอีกว่า ทั้งที่แพทย์ พยาบาลก็รู้ว่าปากมดลูกไม่เปิดกว้าง แต่ก็ไม่ดำเนินการช่วยเหลือใดๆ ทั้งที่ตนและสามีก็ยินยอมที่จะให้ผ่าออก เพื่อรักษาชีวิตลูกไว้ แต่มาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งตนและสามีพร้อมจะเอาเรื่องจนถึงที่สุดเพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นกับผู้อื่นซ้ำอีก

ด้าน นางเกา ยั่งยืน แม่สามีเล่าว่า ตนกับลูกชายได้มานอนเฝ้าลูกสะใภ้อยู่หน้าห้องตลอดทั้งคืน พยายามที่จะไปถามถึงอาการอยู่ตลอดด้วยความเป็นห่วงเพราะลูกสะใภ้ได้ร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นระยะๆ หมอก็ให้แต่เพียงน้ำเกลือไม่มีใครสนใจช่วยเหลือแม้มีผู้มาทำคลอดอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ตนก็ไม่รู้จะพึ่งใคร จนหมอมาตรวจล่าสุดพบว่าคลื่นหัวใจของเด็กในครรภ์อ่อนแรงลงก็ไม่ยอมส่งเข้าผ่าตัด หรือส่งต่อมายังโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ที่มีแพทย์พยาบาล และเครื่องมือพร้อม ทำให้เด็กดิ้นจนรกพันที่คอขาดอาการหายใจเสียชีวิตในครรภ์ กรณีดังกล่าวเชื่อว่าโรงพยาบาลมีความบกพร่อง ไม่สนใจที่จะดูแลจนเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

ด้าน นายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภาทนายความ กล่าวว่า หลังได้รับร้องขอความเป็นธรรม ก็จะบันทึกคำร้อง และรวบรวมหลักฐานต่างๆ จากนางศิริวิมล สามี และญาติ ส่งเรื่องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวงสาธารณสุข ให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตามที่สองสามีภรรยาพร้อมญาติได้เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือ และขอความเป็นธรรมที่สภาทนายความอย่างเร่งด่วน




กำลังโหลดความคิดเห็น