สตูล – เกิดเหตุหนุ่มมอญ-พม่า 3 คน ร่วมสังหารโหด ใช้ค้อนทุบหัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษก่อนโยนทิ้งทะเล ขณะที่เมียบาดเจ็บรักษาตัวโรงพยาบาลละงู – ตำรวจส่งกำลังออกติดตามรวบได้ ผู้ต้องหาสารภาพกดดันเพราะถูกขายเป็นลูกเรือประมงนานกว่า 8 เดือนและอยู่อย่างอดอยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สตูล นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษชื่อ LINDA CNNE ROBERTSON อายุ 58 ปีให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนและสามี ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อ.ละงู จ.สตูล หลังมีกลุ่มวัยรุ่นชาวพม่า 2 คนและมอญ 1 คนอายุ 17-19 ปีลอบขึ้นไปบนเรือยอร์ท ขณะที่ตนกับสามีกำลังนำเรือลอยลำบริเวณใก้ลเกาะหลีเป๊ะ-เกาะดง จู่ๆ มีกลุ่มวัยรุ่นสามคนว่ายน้ำขึ้นบนเรือ ทำทีบอกว่าหิวข้าว เพราะไม่ได้กินข้าวมา 2 วันแล้ว แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง โดยคนร้ายทั้งสามคนเข้ามาขอเรือยางแต่ตนและสามีไม่ให้จึงถูกจับมัดมือและเท้า ก่อนนำตัวไปไว้ที่ห้องนอนในเรือยอร์ท
จากนั้นคนร้ายทั้งสามก็นำตัวตนออกมาอีกครั้งโดยให้สอนวิธีการใช้เรือยางแต่ขณะนั้นไม่เห็นสามีแล้วคือ MR.MALCOLM STUART ROBERTSON อายุ 64 ปี เห็นแต่คราบเลือดเชื่อว่าสามีตนคงถูกผลักตกน้ำและตนก็ไม่ทราบว่าสามียังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จากนั้นคนร้ายทั้งสามคนได้ขี่เรือยางหลบหนีไป โดยคนร้ายทั้งสามพยามยามจะบอกกับตนว่าไม่ยากทำอย่างนี้ ซึ่งระหว่างนั้นตนได้ร้องขอชีวิตเป็นระยะ จากนั้นตนได้ใช้ธงโบกไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวประมงว่าถูกทำร้ายร่างกายในที่สุด
ด้าน พ.ต.ท.วรดี มังคสิริ รอง ผบก.ตร.ภูธรจังหวัดสตูล พร้อมพ.ต.อ.วิรัตน์ อ่อนสง ผกก.สภ.ละงู สั่งกำลังออกติดตามจับกุมตัวและสามารถล๊อคตัวนาย แอ๊ก ชาวมอญ อายุ 19 ปี มือสังหาร นายเอ้า ชาวพม่า อายุ 18 ปี และนายโก้ ชาวพม่า อายุ 17 ปี ไว้ได้พร้อมเรือยาง และกระเป๋าสัมภาระของเจ้าทุกข์จำนวน 2 ใบและเงินดอลลาร์จำนวน 10 ปอนด์
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาพบว่า ทั้งสามคนเป็นลูกเรือประมงอวนลากที่มาจาก จ.ตรัง นานกว่า 15 วันแล้ว และก่อนหน้านี้เป็นลูกเรือประมงอยู่ที่ จ.ภูเก็ต โดยตลอดระยะเวลาที่ถูกขายเป็นลูกเรือประมงนาน 8 เดือน ต้องอยู่อย่างอดยาก และ 2 วันนี้ที่ไม่ได้กินข้าวจึงต้องการจะหาข้าวกินเท่านั้นและไม่คิดจะก่อเหตุแต่อย่างใด ส่วนการทำร้ายในครั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสามให้การยอมรับว่าได้ใช้ฆ้อนทุนไม่ยั้งใส่ศีรษะของชายชาวอังกฤษก่อนจะช่วยกันโยนทิ้งน้ำ
ด้านพ.ต.อ.วรดี คารวนันทน์ รองผบก.ตำรวจภูธร จ.สตูล บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นคดีสะเทือนขวัญชาวต่างชาติอย่างมาก และโชคดีที่สามารถปิดคดีในครั้งนี้ได้โดยเร็วจากความร่วมมือของหลายฝ่ายที่ช่วยกันแจ้งเบาะแส พร้อมทั้งทางตำรวจเองก็ต้องมีการมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการตรวจตราผู้ใช้แรงงานต่างด้าวในกลุ่มประมง และขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าวให้ช่วยคัดเลือกและทำประวัติอย่างละเอียดของผู้ใช้แรงงาน สำหรับชาวอังกฤษคู่นี้เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยโดยจ๊อปหนังสือตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. 2007
