ตรัง – เกิดเหตุ 2 คนร้ายบุกปล้นบ้านยายสองพี่น้อง ใช้ไม้หน้าสามติดตาปูตีพี่สาวเสียชีวิตคาที่ ก่อนลงมือตีน้องสาวจนสลบ รื้อข้าวของกระจาย กว่าจะมีคนมาพบผ่านไปเกือบ 20 ชั่วโมง ตำรวจสันนิษฐานเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ เพราะยายสองคนอาศัยกันเพียงลำพัง และมีฐานะขั้นเศรษฐินี ส่วนทรัพย์สินอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
วันนี้ (22 มี.ค.) พ.ต.ท.ปัญจวิทย์ เกื้อกอบ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้าไปฆ่าชิงทรัพย์ ที่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 3 ตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลย่านตาขาว และเจ้าหน้าที่ศูนย์วีอาร์กู้ชีพเทศบาลตำบลย่านตาขาว เมื่อไปถึงพบจุดเกิดเหตุอยู่ลึกจากถนนสายย่านตาขาว-ในควน ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยเป็นบ้านหลังเดี่ยว และตั้งอยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นๆ ซึ่งตัวบ้านเป็นลักษณะครึ่งปูนครึ่งไม้พบไทยมุงเป็นจำนวนมาก
แต่ภาพที่น่าสลดใจ คือ ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบศพหญิงชรานอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด ในสภาพนุ่งผ้าถุงสีเขียว แบบกระโจมอก แต่ผ้าได้หลุดลุ่ยลงมากองที่บริเวณสะเอว มีบาดแผลถูกคนร้ายใช้ของแข็ง เป็นไม้หน้าสามตอกตะปู รวมทั้งค้อน ตีที่บริเวณศีรษะทั้งด้านซ้าย-ขวาจนใบหน้าเละบวมปูดเลือดโทรมร่าง ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวหยี้ น้ำเยื้อน อายุ 69 ปี มีอาชีพกรีดยางพารา และเป็นเจ้าของสวนยางพารา ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 20 ชั่วโมง หรือประมาณช่วงค่ำของวันที่ 21 มีนาคม 2552
ขณะเดียวกัน ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ซึ่งถูกทำร้ายในลักษณะเดียวกันที่บริเวณใบหน้าเลือดโทรมร่าง จึงรีบนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลย่านตาขาว เพื่อเป็นการช่วยเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้อาการปลอดภัย และสามารถให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บ้างแล้ว ทราบชื่อคือ นางสาวท่ามหวั่น น้ำเยื้อน อายุ 66 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน และมีศักดิ์เป็นน้องสาวของผู้ตาย หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบภายในตัวบ้านทั้ง 2 ชั้น พบว่าถูกคนร้ายรื้อค้นข้าวของกระจุยกระจายทั้งหลัง และในที่เกิดเหตุยังพบไม้หน้าสามตอกตะปูเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน และค้อนปอนด์เปื้อนเลือดตกอยู่อีก 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ที่ไปที่บ้านเกิดเหตุเป็นคนแรก คือ นางวรรณา จรเสมอ ซึ่งเป็นหลานของคุณยายทั้งสองคน ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา นายประกาศ จันทรัช ซึ่งเป็นน้องเขยของคุณยายทั้งสองคน ได้โทรศัพท์ไปหาที่บ้านคุณยายนับสิบครั้ง แต่ไม่มีใครรับสาย จนกระทั่งวันเกิดเหตุเห็นผิดสังเกตุจึงโทรศัพท์ไปแจ้งให้ นางวรรณา ซึ่งเป็นญาติอีกคนเข้าไปดูที่บ้าน เพื่อนำขนมไปให้ เนื่องจากคุณยายทั้งสองคนจะอาศัยอยู่ตามลำพัง เพราะยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว แต่เมื่อไปถึงกลับพบ 1 คนกลายเป็นศพ ส่วนอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่ในบ้าน โดยที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือตัวเองได้ จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับ คุณยายท่ามหวั่น ขณะนี้อาการดีขึ้น และสามารถพูดจาได้บ้างแล้วให้การว่า ช่วงเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ใช้ผ้าขาวม้าปิดบังใบหน้า บุกเข้ามาภายในบ้าน แล้วตะโกนให้บอกที่ซ่อนของมีค่าทั้งหมด แต่เมื่อไม่มีใครบอก 1 ในคนร้ายได้ตะโกนว่า ฆ่าให้หมด จากนั้น ได้ลงมือใช้ไม้หน้าสามรุมทุบตีพี่สาวจนเสียชีวิตคาที่ แล้วคนร้ายทั้งคู่ได้ตรงเข้ามาที่ตน ก่อนที่จะใช้ไม้หน้าสามและค้อนทุบตีจนสลบเหมือด ทั้งนี้ คนร้ายคงเข้าใจว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว จึงได้ตรงไปรื้อค้นข้าวของ จนกระทั่งตนเองมารู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อตอนที่หลานสาวเข้าไปในบ้าน และร้องตะโกนเรียกชื่อ จึงได้ฟื้นขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายคงเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้าน และรู้จักคุณยายทั้ง 2 คนเป็นอย่างดี อีกทั้งยังรู้ว่าคุณยายทั้ง 2 คนมีฐานะดีถึงขั้นเศรษฐีนี เนื่องจากมีทรัพย์สินเงินทองเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสืบสวนสอบสวน และติดตามตัวคนร้ายทั้งคู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนทรัพย์สินขณะนี้ยังไม่ทราบว่าได้อะไรไปบ้าง ต้องรอสอบสวนอย่างชัดเจนอีกครั้ง