ตรัง – เจ้าหน้าที่ตำรวจตรัง เพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาหลังเกิดคดีเพิ่มมากขึ้น โดยการนำ อปพร.และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนประจำตำบล ร่วมปฏิบัติงานในการออกตรวจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งเหตุให้ประชาชนมีความระมัดระวังป้องกันตนเอง
วันนี้ (12 มี.ค.) พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์คดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดตรังเพิ่มมากขึ้น ในระยะนี้นั้น มีแนวโน้มมาจากภาวะเศรษฐกิจที่วิกฤติทั่วโลก โดยเฉพาะราคาพืชผลทางการเกษตร จนทำให้รายได้ต่อบุคคลลดน้อยลง รวมทั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด ที่มีการลักลอบการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น และการจับกุมเป็นไปได้ยาก เนื่องจากผู้ค้าและเครือข่ายยาเสพติดมีการพัฒนาในเรื่องของอุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะ ที่ทุ่มทุนเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนั้น นักเรียน นักศึกษา และวัยรุ่นในจังหวัดตรัง ยังขาดการควบคุมดูแลที่ทั่วถึงของสถานศึกษา และผู้ปกครอง ดังนั้น การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขาดความร่วมมืออย่างจริงจัง ในการปราบปรามการกระทำผิดของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยรุ่นจังหวัดตรัง
โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา มีปริมาณรวมกว่า 108,248 คน จากสถาบันการศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 18 แห่ง ซึ่งปัญหาของวัยรุ่นเหล่านี้ เกิดมาจากสภาแวดล้อม และสื่อเทคโนโลยี โดยเฉพาะการลอกเลียนแบบจากสื่อในรูปแบบต่างๆ
พล.ต.ต.ประเสริฐ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการสืบสวนสอบสวน จะมีการจัดทำข้อมูลข่าวสาร บุคคล สถานที่ และอาวุธ ที่มีการนำมาใช้ในการก่อเหตุ แล้วแจกจ่ายให้แก่ชุดสืบสวนในการติดตามคดี และยังมีการจัดตั้งชุดออกตรวจสอบ หรือเร่งรัดสำนวนการสอบสวน เพื่อติดตามคดีให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็วที่สุด นอกจากนั้นยังมีการวางมาตรการในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ด้วยการจัดตั้งศูนย์รวบรวมข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในทุกพื้นที่สถานีตำรวจภูธรตามความเหมาะสม
ขณะเดียวกันยังมีการจัดชุดปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรม เดือนละ 2 ครั้ง และทุกช่วงเทศกาล พร้อมดำเนินการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อเปิดโอกาสให้กับประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม
โดยการนำเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนประจำตำบล (ตชต.) ร่วมปฏิบัติงานในการออกตรวจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งเหตุให้ประชาชนมีความระมัดระวังป้องกันตนเอง
อย่างไรก็ตาม มาตรการป้องกันที่เข้มงวด คือ การจับกุมรถกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่ดัดแปลงสภาพ และไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน พร้อมเน้นย้ำให้ดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลทุกประเภทในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อการปราบปรามคดีอาชญากรรมให้ลดลงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด