นราธิวาส – ราษฎรใน อ.ตากใบได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้ว พื้นที่นาข้าวขาดน้ำทำให้ต้นข้าวที่กำลังแตกกอรวมนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ ด้านอำเภอเร่งขอน้ำจากชลประทานช่วยเหลือเป็นการด่วน
นายสุรพงษ์ เทพพรหมกำนัน ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กล่าวถึงผลกระทบที่เกษตรกรได้รับจากสภาวะภัยแล้งในพื้นที่ว่า ในขณะนี้พื้นที่ ต.พร่อน ซึ่งมี 6 หมู่บ้าน 1,365 ครัวเรือน รวมราษฎร 4,429 คน เริ่มได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งบ้างแล้ว โดยส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้นราษฎรประกอบอาชีพทำนาจึงมีผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 หมู่ บ้านคือ บ้านปลักช้าง หมู่ 1, บ้านโคกม่วง หมู่ 4, บ้านโคกยาง หมู่ 5 และบ้านวัดใหม่ หมู่ 6 ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยแล้งอย่างหนัก
ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่นาข้าวขาดน้ำทำให้ต้นข้าวที่กำลังแตกกอรวมเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ขาดแคลนน้ำ ต้นข้าวเหี่ยวเฉา ผืนนาแห้งแตกเป็นแผ่น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกษตรกรในพื้นที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะไม่สามารถนำข้าวไปจำหน่ายหรือหาใช้รับประทานในครอบครัวได้
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกด้วยว่า ปกติชาวนาจะเริ่มทำนากันในช่วงเดือนมกราคมและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในต้นเดือนมีนาคม แต่ในปีนี้หลังจากชาวนาได้ปักดำต้นกล้าข้าวแล้วเสร็จแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมได้เกิดภาวะน้ำท่วมขึ้นมา 2 ระลอกกระแสน้ำที่ไหลหลากมาจากผืนป่าพรุโต๊ะแดง ได้หลากเข้าท่วมที่นาและพัดพาต้นกล้าข้าวที่เพิ่งปักดำแล้วเสร็จใหม่ๆ ไปตามกระแสน้ำจนหมดทำให้ชาวนาต้องเสียเงินในการซื้อพันธ์ข้าว, จ่ายเงินค่าไถนาและค่าปักดำต้นกล้าข้าวถึง 3 รอบภายในเดือนเดียวแต่พอมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ ได้เกิดภาวะภัยแล้งขึ้นมาอีกทำให้ผืนดินแห้งผาก และต้นข้าวที่เพิ่งแตกกอกำลังจะยืนต้นตายซากดังกล่าว
ด้านนายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอตากใบ กล่าวว่า จากการสำรวจล่าสุดพบว่า นาข้าวของชาวบ้านใน 3 ตำบล คือ ต.พร่อน, ต.นานาค และ ต.โฆษิต กำลังได้รับความเสียหายจากภัยแล้งแล้วคิดเป็นเนื้อที่มากกว่า 2,000 ไร่
ขณะนี้ อำเภอได้เร่งประสานไปยังสำนักชลประทานมูโนะ เพื่อให้ปล่อยน้ำจากชลประทานเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับพื้นที่ดอนซึ่งอยู่ในที่สูง ที่คลองใส้ไก่ยังเข้าไปไม่ถึงนั้น จะมีการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำจากคลองส่งน้ำชลประทานเข้าไปช่วยเหลือควบคู่กันไปด้วย
นายสุรพงษ์ เทพพรหมกำนัน ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กล่าวถึงผลกระทบที่เกษตรกรได้รับจากสภาวะภัยแล้งในพื้นที่ว่า ในขณะนี้พื้นที่ ต.พร่อน ซึ่งมี 6 หมู่บ้าน 1,365 ครัวเรือน รวมราษฎร 4,429 คน เริ่มได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งบ้างแล้ว โดยส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้นราษฎรประกอบอาชีพทำนาจึงมีผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 หมู่ บ้านคือ บ้านปลักช้าง หมู่ 1, บ้านโคกม่วง หมู่ 4, บ้านโคกยาง หมู่ 5 และบ้านวัดใหม่ หมู่ 6 ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยแล้งอย่างหนัก
ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่นาข้าวขาดน้ำทำให้ต้นข้าวที่กำลังแตกกอรวมเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ขาดแคลนน้ำ ต้นข้าวเหี่ยวเฉา ผืนนาแห้งแตกเป็นแผ่น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกษตรกรในพื้นที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะไม่สามารถนำข้าวไปจำหน่ายหรือหาใช้รับประทานในครอบครัวได้
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกด้วยว่า ปกติชาวนาจะเริ่มทำนากันในช่วงเดือนมกราคมและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในต้นเดือนมีนาคม แต่ในปีนี้หลังจากชาวนาได้ปักดำต้นกล้าข้าวแล้วเสร็จแล้ว เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมได้เกิดภาวะน้ำท่วมขึ้นมา 2 ระลอกกระแสน้ำที่ไหลหลากมาจากผืนป่าพรุโต๊ะแดง ได้หลากเข้าท่วมที่นาและพัดพาต้นกล้าข้าวที่เพิ่งปักดำแล้วเสร็จใหม่ๆ ไปตามกระแสน้ำจนหมดทำให้ชาวนาต้องเสียเงินในการซื้อพันธ์ข้าว, จ่ายเงินค่าไถนาและค่าปักดำต้นกล้าข้าวถึง 3 รอบภายในเดือนเดียวแต่พอมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ ได้เกิดภาวะภัยแล้งขึ้นมาอีกทำให้ผืนดินแห้งผาก และต้นข้าวที่เพิ่งแตกกอกำลังจะยืนต้นตายซากดังกล่าว
ด้านนายสายัณห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอตากใบ กล่าวว่า จากการสำรวจล่าสุดพบว่า นาข้าวของชาวบ้านใน 3 ตำบล คือ ต.พร่อน, ต.นานาค และ ต.โฆษิต กำลังได้รับความเสียหายจากภัยแล้งแล้วคิดเป็นเนื้อที่มากกว่า 2,000 ไร่
ขณะนี้ อำเภอได้เร่งประสานไปยังสำนักชลประทานมูโนะ เพื่อให้ปล่อยน้ำจากชลประทานเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนแล้ว สำหรับพื้นที่ดอนซึ่งอยู่ในที่สูง ที่คลองใส้ไก่ยังเข้าไปไม่ถึงนั้น จะมีการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำจากคลองส่งน้ำชลประทานเข้าไปช่วยเหลือควบคู่กันไปด้วย
