กระบี่ - จังหวัดกระบี่ ตั้งศูนย์ภัยแล้ง แก้ปัญหาขาดน้ำ หลังพบฝนทิ้งช่วงนาน ทำให้หลายหมู่บ้านเริ่มขาดน้ำ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและส่วนราชการตอบรับนำรถบรรทุกน้ำออกช่วยชาวบ้านประสบปัญหาภัยแล้ง คาดมีไม่ต่ำกว่า 30 คัน
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นางสันวณี สุวรรณจูฑะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการการแก้ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดกระบี่ หลังจากที่ฝนได้หยุดตกและทิ้งช่วงเป็นเวลานาน โดยมีนายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ตัวแทนองค์กกรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. เทศบาล และ อบต.และส่วนราชการที่เกี่ยวเข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่กำลังเริ่มประสบกับภาวะขาดน้ำ
โดยชาวบ้านกำลังเดือดร้อน มีจำนวน 10 ตำบล 46 หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอคลองท่อมและปลายพระยา
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดกระบี่ปีนี้คาดว่าค่อนข้างจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณฝนตกน้อย ปริมาณน้ำในแอ่งน้ำลดลงเรื่อยๆ ส่งผลทำให้หลายพื้นที่เริ่มประสบกับความแห้งแล้ง และขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค รวมทั้งน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากฝนทิ้งช่วงเป็นระยะเวลานานกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้ที่ได้รับแจ้งปัญหาภัยแล้งขอความช่วยหลือจำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองท่อม และอำเภอปลายพระยา ส่วนพื้นที่อื่นที่คาดว่าจะแจ้งเข้ามาได้แก่ อำเภอเมือง
นายเถลิงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาฯ ได้มีการจัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งแล้ว โดยมีการออกสำรวจพื้นที่ที่คาดว่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง รวม 8 อำเภอ 46 ตำบล 219 หมู่บ้าน พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ และคาดว่าปัญหาภัยแล้งจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะประสบปัญหาขาดน้ำใช้เพื่อการเกษตร
ในเบื้องต้นทาง ปภ.ก็ได้นำรถบรรทุกน้ำลงพื้นที่แจกจ่ายน้ำให้ราษฎร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน นอกจากรถบรรทุกน้ำของ ปภ.กระบี่เอง ที่มีจำนวน 2 คัน โดยเป็นรถของ ปภ.กระบี่เอง และได้รับการสนับสนุนรถบรรทุกน้ำจากศูนย์ป้องการและบรรเทาสาธารณะภัย เขต18 ภูเก็ต อีก 1 คัน ได้ออกแจกจ่ายน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว
นอกจากนี้จากการประชุมหลายหน่วยงานโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบจ.เทศบาล และ อบต.ก็จะให้ความร่วมมือในการอนุเคราะห์รถบรรทุกน้ำด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีรถออกแจกจ่ายน้ำตามพื้นที่ที่ขาดน้ำไม่น้อยกว่า 30 คัน
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ นางสันวณี สุวรรณจูฑะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการการแก้ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดกระบี่ หลังจากที่ฝนได้หยุดตกและทิ้งช่วงเป็นเวลานาน โดยมีนายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ตัวแทนองค์กกรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. เทศบาล และ อบต.และส่วนราชการที่เกี่ยวเข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่กำลังเริ่มประสบกับภาวะขาดน้ำ
โดยชาวบ้านกำลังเดือดร้อน มีจำนวน 10 ตำบล 46 หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอคลองท่อมและปลายพระยา
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดกระบี่ปีนี้คาดว่าค่อนข้างจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณฝนตกน้อย ปริมาณน้ำในแอ่งน้ำลดลงเรื่อยๆ ส่งผลทำให้หลายพื้นที่เริ่มประสบกับความแห้งแล้ง และขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค รวมทั้งน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากฝนทิ้งช่วงเป็นระยะเวลานานกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยขณะนี้ที่ได้รับแจ้งปัญหาภัยแล้งขอความช่วยหลือจำนวน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอคลองท่อม และอำเภอปลายพระยา ส่วนพื้นที่อื่นที่คาดว่าจะแจ้งเข้ามาได้แก่ อำเภอเมือง
นายเถลิงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาฯ ได้มีการจัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งแล้ว โดยมีการออกสำรวจพื้นที่ที่คาดว่าจะประสบปัญหาภัยแล้ง รวม 8 อำเภอ 46 ตำบล 219 หมู่บ้าน พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้ง ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ และคาดว่าปัญหาภัยแล้งจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะประสบปัญหาขาดน้ำใช้เพื่อการเกษตร
ในเบื้องต้นทาง ปภ.ก็ได้นำรถบรรทุกน้ำลงพื้นที่แจกจ่ายน้ำให้ราษฎร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน นอกจากรถบรรทุกน้ำของ ปภ.กระบี่เอง ที่มีจำนวน 2 คัน โดยเป็นรถของ ปภ.กระบี่เอง และได้รับการสนับสนุนรถบรรทุกน้ำจากศูนย์ป้องการและบรรเทาสาธารณะภัย เขต18 ภูเก็ต อีก 1 คัน ได้ออกแจกจ่ายน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว
นอกจากนี้จากการประชุมหลายหน่วยงานโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบจ.เทศบาล และ อบต.ก็จะให้ความร่วมมือในการอนุเคราะห์รถบรรทุกน้ำด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีรถออกแจกจ่ายน้ำตามพื้นที่ที่ขาดน้ำไม่น้อยกว่า 30 คัน