ชุมพร-กรมประมงประกาศปิดอ่าว 3 เดือน ห้ามจับปลาในเขตหวงห้าม ช่วงฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อน
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงชุมพร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าประชาชน และชาวประมงในพื้นที่จังหวัดชุมพร ให้การต้อนรับ นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง ซึ่งเดินทางมาประกอบพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ หรือปิดอ่าวในฤดูปลาที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน
โดยศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงทะเลภาคใต้ตอนบน จังหวัดชุมพร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี เพื่อให้สัตว์น้ำหรือปลา ได้มีโอกาสขยายพันธุ์ และเป็นการเพิ่มปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การใช้มาตรการดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 26,400 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 15 ล้านไร่ รวม 3 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูที่สัตว์น้ำฝั่งทะเลอ่าวไทย กำลังมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อน เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่า และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อประเทศ กรมประมง จึงกำหนดให้มีการปิดอ่าวเป็นเวลา 3 เดือน
โดยห้ามชาวประมงใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ได้แก่ เครื่องมืออวนลากทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกล ยกเว้นเครื่องมืออวนลากที่ใช้ประกอบกับเรือกลลำเดียว ที่ความยาวเรือไม่เกิน 16 เมตร ให้ทำการประมงได้เฉพาะเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตก และพระอาทิตย์ขึ้น และเครื่องมืออวนติดตาที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมงด้วยวิธีล้อมติดปลาทู
หรือด้วยวิธีอื่นใด ที่คล้ายคลึงกันทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อน ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดระจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี หากมีชาวประมงรายใดฝ่าฝืน ใช้เครื่องมือต้องห้ามทำการประมงในพื้นที่ ที่ได้ประกาศปิดอ่าวไปแล้วนั้น ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ.
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงชุมพร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ชุมพร นายวรการ ยกยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าประชาชน และชาวประมงในพื้นที่จังหวัดชุมพร ให้การต้อนรับ นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง ซึ่งเดินทางมาประกอบพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ หรือปิดอ่าวในฤดูปลาที่มีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน
โดยศูนย์ป้องกัน และปราบปรามประมงทะเลภาคใต้ตอนบน จังหวัดชุมพร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี เพื่อให้สัตว์น้ำหรือปลา ได้มีโอกาสขยายพันธุ์ และเป็นการเพิ่มปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การใช้มาตรการดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 26,400 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 15 ล้านไร่ รวม 3 จังหวัด คือ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูที่สัตว์น้ำฝั่งทะเลอ่าวไทย กำลังมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อน เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำที่มีคุณค่า และมีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อประเทศ กรมประมง จึงกำหนดให้มีการปิดอ่าวเป็นเวลา 3 เดือน
โดยห้ามชาวประมงใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ได้แก่ เครื่องมืออวนลากทุกชนิดที่ใช้ประกอบกับเรือกล ยกเว้นเครื่องมืออวนลากที่ใช้ประกอบกับเรือกลลำเดียว ที่ความยาวเรือไม่เกิน 16 เมตร ให้ทำการประมงได้เฉพาะเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตก และพระอาทิตย์ขึ้น และเครื่องมืออวนติดตาที่ใช้ประกอบกับเรือกลทำการประมงด้วยวิธีล้อมติดปลาทู
หรือด้วยวิธีอื่นใด ที่คล้ายคลึงกันทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อน ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดระจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี หากมีชาวประมงรายใดฝ่าฝืน ใช้เครื่องมือต้องห้ามทำการประมงในพื้นที่ ที่ได้ประกาศปิดอ่าวไปแล้วนั้น ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ.