โสมแดงอ้างเฉยโซลเองต้องขอโทษเหตุทหารยิงนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ดับ

เอเอฟพี/ซีเอ็นเอ็น - โซลวันนี้ (13) ประณามเหตุทหารโสมแดงยิงนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เสียชีวิต ระบุเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลและเรียกร้องขอเข้าสืบสวนเหตุสุดสลด ขณะที่เปียงยางแสดงความเสียใจ แต่ปฏิเสธขอโทษต่อกรณีหญิงวัย 53 ปี ถูกยิง 2 นัดหลังหลงทางเข้าไปในเขตทหาร ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเกาหลีเหนือ

“ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม มันไม่มีเหตุผลเลย” รัฐบาลเกาหลีใต้ระบุ และเรียกร้องขอเข้าร่วมกับทางการเกาหลีเหนือสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเมื่อวันเสาร์ (12) เปียงยางปฏิเสธคำขอเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

“นี่คือจุดยืนของรัฐบาลและประชาชนของเราว่า เหตุผลและความจริงควรถูกเปิดเผยเพราะนี่คือประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความกังวลต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์” โซล กล่าวในแถลงการณ์ “เราเรียกร้องเกาหลีเหนือก้าวออกมารับผิดชอบ ดังนั้นเหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดซ้ำขึ้น”

เกาหลีใต้ได้ระงับทัวร์ไปยังรีสอร์ตบนเขาคัมกัง ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเช้าชมในปี 1998 และถือเป็นสัญลักษณ์ของความปรองดอง แต่เหตุน่าเศร้านี้ได้ฉุดความตึงเครียดระหว่างสองชาติอยู่ในระดับสูงสุด

ขณะที่เกาหลีเหนือตำหนิการระงับทัวร์ที่สามารถทำรายได้หลายล้านดอลลาร์เมื่อปีที่ผ่านมา ว่าเป็นการดูถูกอย่างเหลือทนและปฏิเสธที่จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้จนกว่าจะได้รับคำขอโทษ

ประธานาธิบดีลีเมียงบัค เมื่อวันเสาร์ ออกมาประณามเหตุฆ่านักท่องเที่ยวหญิงครั้งนี้ ขณะที่ทางเกาหลีเหนือก็กล่าวโทษเกาหลีใต้เช่นกัน

เกาหลีเหนือ อ้างว่า นักท่องเที่ยวหญิง “ได้ข้ามผ่านจุดเขตแดนไปไกล” และบุกรุกเข้าไปยังพื้นที่ควบคุมของทหาร เปียงยางบอกต่อว่าผู้หญิงรายดังกล่าววิ่งหนีเมื่อถูกร้องถามและไม่ยอมหยุดทั้งที่ทหารยิงเตือน ทำให้นายทหารจำเป็นต้องยิงเข้าใส่เธอ

ด้านสำนักงานการท่องเที่ยวเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ แสดงความเสียใจต่อเหตุยิงหญิงชาวเกาหลีใต้ แต่บอกว่าความรับผิดชอบในเหตุการณ์นี้ “นอกนั้นทั้งหมดอยู่ที่ฝั่งเกาหลีใต้” และบอกด้วยว่า ทางโซลควรกล่าวขอโทษ พร้อมกันนั้น เกาหลีเหนือ ยังได้ปฏิเสธคำร้องขอของเกาหลีใต้ที่ต้องการเข้าร่วมสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

อีกด้านหนึ่งในวันนี้ ครอบครัวของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ นางปัก วัง-จา ที่ถูกทหารเกาหลีเหนือยิงเสียชีวิตที่สถานที่ตากอากาศบริเวณภูเขาในเกาหลีเหนือ ได้ไปรวมตัวกันที่ห้องจัดพิธีศพ ในโรงพยาบาลในกรุงโซล เพื่อแสดงความอาลัยต่อการจากไปของเธอ โดยเหยื่อกระสุนของทหารเกาหลีเหนือสังหารก่อนรุ่งสาง หลังจากเธอเข้าไปเขตหวงห้ามที่มีการล้อมรั้วตลอด

สถานีโทรทัศน์ยนฮัพรายงานอ้างการเปิดเผยของอี อิน บ็อก นักท่องเที่ยวที่เป็นนักศึกษาวิทยาลัยวัย 23 ปี ซึ่งกลับมาจากสถานตากอากาศแห่งนี้เมื่อวันศุกร์ว่า เขาเห็นหญิงวัยกลางคน แต่งกายด้วยชุดสีดำ เดินเลียบไปตามชายฝั่ง ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดัง 2 นัด และเสียงกรีดร้องตามมาอีกประมาณ 10 นาที

เขายังบอกด้วยว่า เขาและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ อีก 5 คน เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่อยู่ที่ชายหาดเพื่อเฝ้าดูพระอาทิตย์ขึ้น และอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ซึ่งเขาจำหน้าผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้ แค่เห็นการเคลื่อนไหว และเห็นทหารที่รักษาความปลอดภัย วิ่งไปที่ร่างที่ล้มลงไปนอน มองดูสักพักก่อนจะใช้เท้าเขี่ย

ด้าน บัง แจ-จุง บุตรชายวัย 23 ปี ของนางปัก ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งที่ห้องจัดพิธีศพของโรงพยาบาลอาซานในกรุงโซลว่า เขาไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ว่า มารดาเสียชีวิตและไม่ทราบว่าเมื่อใดจะสามารถทำใจยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นได้ ส่วนนายบัง ยัง-มิน สามีวัย 53 ปี ของนางปัก กล่าวว่า เขารู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง และหวังว่าข้อสงสัยต่างๆ จะคลี่คลาย เพื่อให้ภรรยาผู้ล่วงลับไปสู่สุคติ