กาญจนบุรี - กาญจนบุรีจัดงานท่องเที่ยวครบวงจร งัดกลยุทธ์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ทั้งก่อนและหลังประวัติศาสตร์ และสมัยสงครามมหาบูรพาเอเชีย พร้อมกิจกรรมมากมาย
นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เดินทางมาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี โดยเส้นทางท่องเที่ยวเส้นทางแรกในวันแรกของการท่องเที่ยวเป็นเส้นทางล่องแม่น้ำแคว เริ่มต้นจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว เมื่อมองจากเรือจะเห็นสะพานประวัติศาสตร์โดดเด่นอยู่กลางลำน้ำแควใหญ่ บางช่วงจะเห็นภาพรถไฟแล่นข้ามสะพานสวยงามมาก
โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เรือจะล่องไปตามแม่น้ำแควใหญ่ ผ่านบริเวณหน้าเมือง บรรยากาศคึกคัก มีเรือนแพมากมายเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ ทั้งแพร้านอาหาร แพที่พักและแพท่องเที่ยวให้บริการลากจูงเที่ยวแม่น้ำ ส่วนใหญ่เป็น “แพเธค” สีสันเจิดจ้าเปิดดนตรีให้เต้นรำกันอย่างสนุกสนาน มีเรือเร่ขายของกิน กาแฟ เครื่องดื่มให้นักท่องเที่ยวถึงแพ
จากนั้นเรือจะล่องผ่านจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแควน้อย หรือ “แม่น้ำสองสี” สู่ลำน้ำแควน้อย ที่บริเวณทางเข้าประตูเมืองกาญจน์บรรยากาศเริ่มสงบเงียบ มีบ้านเรือนเป็นระยะ ชาวบ้านบางคนลอยเรือตกปลาอยู่ริมน้ำ บางคนก็นั่งตกปลาอยู่ริมฝั่ง บางบ้านก็เลี้ยงปลาในกระชังหน้าบ้าน ในช่วงล่องเรืออยู่เหนือฝั่งลำน้ำแควน้อยที่บริเวณวัดถ้ำเขาปูนเรือก็จะหยุดแวะเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปเที่ยวชมวัดถ้ำเขาปูน และสุสานทหารสัมพันธมิตร (ช่องไก่)
ต่อจากนั้นจะล่องวกกลับผ่านแม่น้ำสองสี ไปเข้าลำน้ำแม่กลอง จอดแวะให้ขึ้นไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะ และเชลยศึกที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือวัดใต้ จากนั้นจะล่องกลับตามเส้นทางเดิมเพื่อเยี่ยมเยือนสะพานข้ามแม่น้ำแคว นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเดินเที่ยวบนสะพานข้ามแม่น้ำแควได้ โดยเดินเลียบไปตามรางรถไฟบนสะพาน ชมความสวยงามของสะพาน ทิวทัศน์แม่น้ำแคว และบ้านเรือนริมน้ำ
ส่วนบริเวณเชิงสะพานมีหัวรถจักรเก่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งไว้ให้ชม จากนั้นแวะไปเยี่ยมชมหอศิลป์ และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ร่วมรำลึกและคารวะดวงวิญญาณเชลยศึก และกรรมกรรับจ้างที่เสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะที่อนุสาวรีย์ไทยานุสรณ์ สร้างขึ้นโดยทหารญี่ปุ่น ขณะสงครามดำเนินอยู่ ปิดท้ายด้วยการเดินชอปปิ้ง เลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก โดยเฉพาะอัญมณี เครื่องหวายและไม้แกะสลักจากพม่า จากร้านค้ามากมายสองฝั่งถนนริมแม่น้ำ
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า เส้นทางที่ 2 ในวันที่ 2 เส้นทางเลาะเลียบแม่น้ำแคว ตามรอยเส้นทางรถไฟสายมรณะ โดยการเริ่มต้นที่การเลือกนั่งรถไฟจากตัวเมืองกาญจน์ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแคว เลาะเลียบโค้งมรณะริมฝั่งแม่น้ำแควที่บ้านถ้ำกระแซ นักท่องเที่ยวจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อขบวนรถไฟวิ่งผ่านบริเวณนี้ ขบวนรถไฟจะสิ้นสุดปลายทางที่น้ำตกไทรโยคน้อย นักท่องเที่ยวแวะพักเล่นน้ำตกไทรโยคน้อย แล้วไปล่องเรือหรือแพเที่ยวแม่น้ำแควน้อย ชมทิวทัศน์ตระการตาสองฝั่งน้ำ เรือนแพริมน้ำ เล่นน้ำตก เดินเที่ยวในอุทยานแห่งชาติไทรโยค ชมทิวทัศน์บนสะพานแขวน เสร็จแล้วจึงเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม
นายเริงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อมูลการเดินทางโดยการเดินตามถนนเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ สู่กาญจนบุรี ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ผ่านนครปฐม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ทางรถไฟจากสถานีธนบุรี (บางกอกน้อย) ถึงกาญจนบุรี ทั้งขบวนธรรมดาและขบวนรถไฟพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวในวันหยุด อีกหลายรายการทั้งแบบไป-กลับ และพักค้างคืน สุดปลายทางที่สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีรถไฟหัวลำโพง โทร. 0-2225-6964
พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี และประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจุดลงเรือล่องแม่น้ำแควใช้เรือหางยาวที่จอดอยู่ท่าเรือเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ค่าเรือเหมาลำ 400 บาท นั่งได้ 6-8 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่ง ถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้ยังมีแพท่องเที่ยว มีเรือลากจูงล่องไปตามแม่น้ำ หรือจอดพักค้างคืน สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับแพล่องได้ที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี เบอร์โทรศัพท์ 0-3462-5053 ได้ตลอดเวลา
พ.อ.(พิเศษ) สุรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนสินค้า ของฝาก ของที่ระลึก ที่ขึ้นชื่อของกาญจนบุรีมีหลายอย่าง ทั้งของกิน เช่น วุ้นเส้นท่าเรือ วุ้นมะพร้าวอ่อน มะขามกวน น้ำพริก หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ตามแหล่งท่องเที่ยวและร้านขายของฝากริมถนนแสงชูโต ส่วนพืชผัก ผลไม้ เห็ดสดๆ พริกกะเหรี่ยง ต้นไม้ ดอกไม้ หาซื้อได้จากร้านค้าริมถนนกาญจนบุรี-ไทรโยค สำหรับอัญมณีที่มีชื่อเสียงของกาญจนบุรี คือ ไพลินและนิล หาซื้อได้ที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งมีสินค้าจากพม่าจำพวกเครื่องประดับ เครื่องแก้ว พลอยสี ของเด็กเล่น เฟอร์นิเจอร์ ไม้แกะสลัก ผ้าทอ ฯลฯ
โดยเฉพาะของฝากของที่ระลึกที่ขึ้นชื่อ ผลิตภัณฑ์แห่งภูมิปัญญาไทย ซึ่งถูกคัดสรรให้เป็นสินค้าหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลของจังหวัดกาญจนบุรีจำนวนมาก โดยเฉพาะอัญมณีนิล ซึ่งเป็นอัญมณีแห่งเดียวในโลกที่พบที่ จ.กาญจนบุรี นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อได้ที่ร้านของฝากของที่ระลึกตามเส้นทางการเดินทางได้รับรองว่าจะได้ในสิ่งที่ท่านต้องการและถูกใจแน่นอน