กระบี่ -สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จัดโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา และครู จังหวัดกระบี่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัย เกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์
เวลา 10.00 น. วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกุล นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายวรวุฒิ ศรีรัตน์ชัชวาล ที่ปรึกษาด้านพลังงานปรมาณู สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ นายพัชรินทร์ ปลอดฤทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกุลจังหวัดกระบี่ ร่วมแถลงข่าวการการจัดโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ โดยมีนักเรียน นักศึกษา และครูอาจารย์จากโรงเรียนในจังหวัดกระบี่ ประมาณ 100 คนเข้าร่วมโครงการ
นายวรวุฒิ ศรีรัตน์ชัชวาล ที่ปรึกษาด้านพลังงานปรมาณู สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้จัดโครงการนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป เกิดความรู้ความเข้าใจ ด้านพลังงานนิวเคลียร์และรังสีดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์และรังสีของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ โดยโครงการนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ เพื่อขยายความสำเร็จของโครงการ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้ดำเนินโครงการฯโดยยังคงสาระสำคัญของกิจกรรม คือ จัดตั้งแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจัดสัมมนา การจัดค่ายเยาวชนนิวเคลียร์สัมพันธ์และเพิ่มกิจกรรมการประกวดเรียงความและวาดภาพ หัวข้อ อยู่ปลอดภัยกับอะตอม เพื่อสร้างพื้นฐานการเรียนรู้ด้านพลังงานนิวเคลียร์ และสามารถหล่อหลอมรวมจินตนาการของนักเรียน และครูวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้นำข้อมูลต่างๆ ที่สะสมมานานกว่า 40 ปี ซึ่งมีมูลค่าทางความรู้อย่างมหาศาลรวบรวมไว้ในคอมพิวเตอร์ ที่สามารถทำสำเนาได้ง่ายและสามารถนำมาขยายผลให้เข้าใจเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์และรังสี
สำหรับกิจกรรมจะขึ้นทั้ง 6 ภูมิภาค ตามโรงเรียนต่างๆ ได้แก่ ภาคใต้ จังหวัดกระบี่ จัดที่โรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกุล ภาคตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี ภาคกลาง จังหวัดนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแข่น และภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย
นอกจากนี้ ได้มอบคอมพิเตอร์ที่ประกอบด้วยฐานข้อมูลด้านพลังงานิวเคลียร์และรังสีให้แก่โรงเรียนเจ้าภาพ และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
