กระบี่ - จังหวัดกระบี่ เร่งแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการมีสิทธิลดพนักงาน รวมทั้งนักศึกษาที่จบใหม่มีสิทธิ์ว่างงานในปี 2552 สูงมาก
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ทราบโดยทั่วไปว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2552 การขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้สถานประกอบการหลายแห่ง ต้องยกเลิกกิจการหรือลดจำนวนพนักงาน ลูกจ้าง ส่งผลให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะภาคแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง รัฐบาลได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน เพื่อใช้ป้องกันปัญหาการเลิกจ้างลูกจ้าง เช่น การจัดตั้งกองทุนเพื่อป้องกันแก้ไขช่วยเหลือภาคแรงงาน ที่อาจถูกเลิกจ้างและบางส่วนเดินทางกลับภูมิลำเนา
ดังนั้นทาง จังหวัด อำเภอ จำเป็นต้องการหามาตรการรองรับ เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาภาวะว่างงานให้มีงานรองรับ รวมทั้ง การเฝ้าระวังการถูกหลอกลวงจากการจ้างแรงงาน เพื่อมิให้เป็นการซ้ำเติมปัญหาของผู้ว่างงาน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ เพื่อให้จังหวัดได้ใช้เป็นข้อมูลทางเลือก ( Menu List ) ประกอบการดำเนินการของจังหวัดตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จังหวัดกระบี่ได้มอบหมายให้สำนักงานแรงงานจังหวัดกระบี่ เป็นเจ้าภาพบูรณาการ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่น มาตรการแก้ไขปัญหาการว่างงาน การสำรวจจำนวนสถานประกอบการที่มีแนวโน้มจะเลิกกิจการ การสำรวจแนวโน้มผู้ว่างงาน,ผู้ถูกเลิกจ้างงาน, การดตลาดนัดแรงงาน ,ประสานหน่วยงานภาครัฐ เอกชน, สนับสนุนการจ้างงานในพื้นที่
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับจังหวัด, เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัด ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด, การส่งเสริมการท่องเที่ยว, ตลอดจนการ สร้างความเข้าใจและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, ให้การสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนในพื้นที่ เป็นทุนช่วยเหลือผู้ว่างงานในการประกอบอาชีพ, การประชาสัมพันธ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง ทราบถึงงานต่างๆในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และงานตามโครงการ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เพื่อการจ้างงานในชนบทอีกด้านหนึ่ง เป็นการประกอบการจ้างงานให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มบุคคลและปัญหาอย่างแท้จริง
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ทราบโดยทั่วไปว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2552 การขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้สถานประกอบการหลายแห่ง ต้องยกเลิกกิจการหรือลดจำนวนพนักงาน ลูกจ้าง ส่งผลให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะภาคแรงงานที่ถูกเลิกจ้าง รัฐบาลได้กำหนดมาตรการเร่งด่วน เพื่อใช้ป้องกันปัญหาการเลิกจ้างลูกจ้าง เช่น การจัดตั้งกองทุนเพื่อป้องกันแก้ไขช่วยเหลือภาคแรงงาน ที่อาจถูกเลิกจ้างและบางส่วนเดินทางกลับภูมิลำเนา
ดังนั้นทาง จังหวัด อำเภอ จำเป็นต้องการหามาตรการรองรับ เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาภาวะว่างงานให้มีงานรองรับ รวมทั้ง การเฝ้าระวังการถูกหลอกลวงจากการจ้างแรงงาน เพื่อมิให้เป็นการซ้ำเติมปัญหาของผู้ว่างงาน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ เพื่อให้จังหวัดได้ใช้เป็นข้อมูลทางเลือก ( Menu List ) ประกอบการดำเนินการของจังหวัดตามความเหมาะสม เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จังหวัดกระบี่ได้มอบหมายให้สำนักงานแรงงานจังหวัดกระบี่ เป็นเจ้าภาพบูรณาการ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่น มาตรการแก้ไขปัญหาการว่างงาน การสำรวจจำนวนสถานประกอบการที่มีแนวโน้มจะเลิกกิจการ การสำรวจแนวโน้มผู้ว่างงาน,ผู้ถูกเลิกจ้างงาน, การดตลาดนัดแรงงาน ,ประสานหน่วยงานภาครัฐ เอกชน, สนับสนุนการจ้างงานในพื้นที่
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับจังหวัด, เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัด ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด, การส่งเสริมการท่องเที่ยว, ตลอดจนการ สร้างความเข้าใจและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, ให้การสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนในพื้นที่ เป็นทุนช่วยเหลือผู้ว่างงานในการประกอบอาชีพ, การประชาสัมพันธ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง ทราบถึงงานต่างๆในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และงานตามโครงการ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด เพื่อการจ้างงานในชนบทอีกด้านหนึ่ง เป็นการประกอบการจ้างงานให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มบุคคลและปัญหาอย่างแท้จริง