ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รวบนักศึกษาวิทยาลัยชื่อดัง ตั้งแก๊งค้ายา ได้ของกลาง กว่า 400 เม็ด สารภาพนำเงินเที่ยวเทศกาลปีใหม่
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (30 ธ.ค.51) ที่ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายวิสุทธิวงศ์ อนันตพงศ์ นายอำเภอเมืองกระบี่ และนายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ (จพง.ปปส.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ประกอบด้วย นายอภิชาต หรือแซม เพชรน้อย อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 297/4 หมู่ที่ 1 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี นายณัฐพล ชัยณรงค์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 200/43 ม.10 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และนายวัชรพงษ์ อยู่เย็น อายุ 21 บ้านเลขที่ 9/2 ม.2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมของยาบ้า จำนวน 460 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ เงินล่อซื้อ จำนวน 3,500 บาท และ โทรศัพท์ จำนวน 3 เครื่อง โดยทั้ง 3 คนเป็นนักศึกษาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีนักศึกษาซึ่งมีบ้านพักเป็นห้องเช่าไม่มีเลขที่ อยู่บริเวณถนนสายภายในวิทยาลัย ซึ่งมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา ทั้งภายในวิทยาลัย และสถานศึกษาใกล้เคียง จึงได้ทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 10 เม็ด โดยนัดหมายกันที่ ห้องเช่าเลขที่ 2 ถนนภายในวิทยาลัย เมื่อสบจังหวะก็ได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม พร้อมกับนำเข้าค้นห้องพัก พบของกลางยาบ้าอีก 50 เม็ด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมเงินล่อซื้อ จำนวน 3,500 บาท
ต่อมาได้ขยายผลเข้าทำการจับกุม นายณัฐพล และนายนายวัชรพงษ์ ได้ที่บ้านเลขที่ 145/18 ต.กระบี่ ใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 400 เม็ด เนื่องจากนายอภิชาต ได้ซัดทอดว่า เป็นคนปล่อยยา จึงแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ พร้อมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นนักศึกษาชั้นปีหนึ่ง และปีสอง ของสถาบันวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งทางผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องออกมารับผิดชอบ หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้สถานศึกษาปลอดจากยาเสพติด เพราะจำนวนยาบ้าที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมได้ มีจำนวน กว่า 400 เม็ด ซึ่งถือว่าเป็นผู้ค้ารายใหญ่
โดยจากการสอบถามนักศึกษาที่ถูกจับกุมก็ยังทราบว่าการซื้อยาบ้าทุกครั้ง จะมีการโอนเงินเข้าบัญชีเอเย่นต์ แล้วก็จะมีผู้นำของมาส่งให้ โดยในแต่ละวัน มีเงินหมุนเวียนภายในบัญชีหลายหมื่นบาท ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ระหว่างวันที่ 20-24 ธันวาคม 51 มียอดเงินหมุนเวียนภายในบัญชีเอเย่นต์ กว่า 80,000 บาท และได้กำชับให้ชุดจับกุมเสนอขอออกหมายจับจากศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อได้ติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
แหล่งข่าวจากชุดจับกุมรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหา 3 คน นอกจากขายยาบ้าให้กับกลุ่มนักศึกษา ในสถาบัน และสถานศึกษาใกล้เคียงแล้ว ก็ยังตระเวนขายตามท่าอากาศยานกระบี่ ซึ่งถูกจับกุมมาแล้วก่อนหน้านี้ ขณะทำการเสพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสงสารเห็นว่ายังเป็นนักศึกษากลัวจะเสียอนาคต จึงได้ทำการตักเตือน พร้อมเรียกผู้บริหารของสถานศึกษามาทำข้อตกลง ให้ทำการควบคุมความประพฤติและห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ไม่ยอมเลิกพฤติกรรม
จนกระทั้งถูกเจ้าหน้าที่ล่อซื้อและทำการจับกุมดั่งกล่าว และผู้ค้าส่วนใหญ่จะฉวยโอกาสช่วงเทศกาลปล่อยยาที่ละมากๆ ซึ่ง 1 ในผู้ต้องหาสารภาพว่าได้ทำการจำหน่ายยาบ้ามานาน เพื่อนำเงินไปเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ และคิดว่าเป็นช่วงปลอดเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้สั่งยามาจำนวนมาก แต่ก็ไม่รอดพ้นจากการจับกุม
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (30 ธ.ค.51) ที่ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายวิสุทธิวงศ์ อนันตพงศ์ นายอำเภอเมืองกระบี่ และนายโสภณ สุวรรณคะราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ (จพง.ปปส.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ประกอบด้วย นายอภิชาต หรือแซม เพชรน้อย อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 297/4 หมู่ที่ 1 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี นายณัฐพล ชัยณรงค์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 200/43 ม.10 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี และนายวัชรพงษ์ อยู่เย็น อายุ 21 บ้านเลขที่ 9/2 ม.2 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมของยาบ้า จำนวน 460 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ เงินล่อซื้อ จำนวน 3,500 บาท และ โทรศัพท์ จำนวน 3 เครื่อง โดยทั้ง 3 คนเป็นนักศึกษาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีนักศึกษาซึ่งมีบ้านพักเป็นห้องเช่าไม่มีเลขที่ อยู่บริเวณถนนสายภายในวิทยาลัย ซึ่งมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่นและนักศึกษา ทั้งภายในวิทยาลัย และสถานศึกษาใกล้เคียง จึงได้ทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 10 เม็ด โดยนัดหมายกันที่ ห้องเช่าเลขที่ 2 ถนนภายในวิทยาลัย เมื่อสบจังหวะก็ได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม พร้อมกับนำเข้าค้นห้องพัก พบของกลางยาบ้าอีก 50 เม็ด จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมเงินล่อซื้อ จำนวน 3,500 บาท
ต่อมาได้ขยายผลเข้าทำการจับกุม นายณัฐพล และนายนายวัชรพงษ์ ได้ที่บ้านเลขที่ 145/18 ต.กระบี่ ใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 400 เม็ด เนื่องจากนายอภิชาต ได้ซัดทอดว่า เป็นคนปล่อยยา จึงแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพ พร้อมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นนักศึกษาชั้นปีหนึ่ง และปีสอง ของสถาบันวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งทางผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องออกมารับผิดชอบ หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้สถานศึกษาปลอดจากยาเสพติด เพราะจำนวนยาบ้าที่ทางเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมได้ มีจำนวน กว่า 400 เม็ด ซึ่งถือว่าเป็นผู้ค้ารายใหญ่
โดยจากการสอบถามนักศึกษาที่ถูกจับกุมก็ยังทราบว่าการซื้อยาบ้าทุกครั้ง จะมีการโอนเงินเข้าบัญชีเอเย่นต์ แล้วก็จะมีผู้นำของมาส่งให้ โดยในแต่ละวัน มีเงินหมุนเวียนภายในบัญชีหลายหมื่นบาท ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า ระหว่างวันที่ 20-24 ธันวาคม 51 มียอดเงินหมุนเวียนภายในบัญชีเอเย่นต์ กว่า 80,000 บาท และได้กำชับให้ชุดจับกุมเสนอขอออกหมายจับจากศาลจังหวัดกระบี่ เพื่อได้ติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
แหล่งข่าวจากชุดจับกุมรายงานด้วยว่า สำหรับผู้ต้องหา 3 คน นอกจากขายยาบ้าให้กับกลุ่มนักศึกษา ในสถาบัน และสถานศึกษาใกล้เคียงแล้ว ก็ยังตระเวนขายตามท่าอากาศยานกระบี่ ซึ่งถูกจับกุมมาแล้วก่อนหน้านี้ ขณะทำการเสพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสงสารเห็นว่ายังเป็นนักศึกษากลัวจะเสียอนาคต จึงได้ทำการตักเตือน พร้อมเรียกผู้บริหารของสถานศึกษามาทำข้อตกลง ให้ทำการควบคุมความประพฤติและห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ไม่ยอมเลิกพฤติกรรม
จนกระทั้งถูกเจ้าหน้าที่ล่อซื้อและทำการจับกุมดั่งกล่าว และผู้ค้าส่วนใหญ่จะฉวยโอกาสช่วงเทศกาลปล่อยยาที่ละมากๆ ซึ่ง 1 ในผู้ต้องหาสารภาพว่าได้ทำการจำหน่ายยาบ้ามานาน เพื่อนำเงินไปเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ และคิดว่าเป็นช่วงปลอดเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้สั่งยามาจำนวนมาก แต่ก็ไม่รอดพ้นจากการจับกุม