กระบี่ -ภาคเอกชน จี้ อบต.อ่าวนาง สางปัญหาน้ำเสียหลังพบวิกฤต นายกอบต.ระบุปัญหาน้ำเสียอ่าวนางต้องยกเป็นวาระจังหวัด ลำพังอบต.หมดปัญญาแก้ หลังทุ่มงบประมาณ 12 ล้าน สร้างบ่อบำบัดแบบบึงประดิษฐ์แก้แต่ล้มเหลว เหตุภาคธุรกิจให้บริการโรงแรมที่พักโตเร็ว
นายธรรมศักดิ์ ภูพันธ์วิวัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า พื้นที่ตำบลอ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกระบี่ ขณะนี้ได้ประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งปัญหาเรื่องของขยะ ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาหาบเร่แผงลอย และปัญหาการจราจร ซึ่งทุกปัญหามีการพูดคุยและหาวิธีการแก้ไขกันบ้างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้
ปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ คือปัญหาเรื่องน้ำเสียจากสถานประกอบการ รายย่อยไหลลงสู่ชายหาดอ่าวนาง บริเวณคลองยิงเสือ และคลองจาก ไม่มีการบำบัด ปล่อยน้ำเสียลงสู่ชายหาดอ่าวนางเลย เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึงแสดงให้เห็นถึงการขาดจิตสำนึกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัญหาน้ำเสียบนหาดอ่าวนางเป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว และเป็นปัญหาที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรง คือ อบต.อ่าวนาง และผู้ประกอบการ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย เพื่อหาทางออกและการแก้ไขปัญหาน้ำเสียให้เป็นรูปธรรม ซึ่งปัจจุบันนี้จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปริมาณผู้ประกอบการเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งโรงแรม รีสอร์ต บังกะโล ร้านอาหาร แมนชั้น เกสเฮาส์ รวมกันแล้วหลายพันห้อง ทำให้ปริมาณน้ำเสียหรือน้ำที่ไม่ต้องการใช้ต่อมีมากขึ้นกว่าเดิม เข้าขั้นวิกฤต
อบต.อ่างนาง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เป็นผู้ถือกฎหมายจะต้องเข้าไปตรวจสอบ ผู้ประกอบการทุกประเภท ว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ มีการใช้ถังบำบัดน้ำเสียอย่างถูกต้องและเพียงพอหรือไม่ หากพบผู้ประกอบการรายใดกระทำความผิด ไม่มีถังบำบัดน้ำเสีย มีการปล่อยน้ำเสียทิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติก็ควรดำเนินการตามกฎหมายที่ อบต.มีอยู่ในขั้นเด็ดขาด และจะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง เพื่อที่จะไม่ให้ผู้ประกอบการปล่อยปะละเลย แต่ยังเชื่อว่าผู้ถือกฎหมายและผู้ปฎิบัติตามกฎหมาย หากมีจิตสำนึกในการทำหน้าที่ร่วมกัน คิดว่าปัญหาน้ำเสียหาดอ่าวนางก็จะหมดไป
นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง กล่าวว่า ปัญหาน้ำเสียหาดอ่าวนางนั้นเป็นปัญหาที่ทาง อบต.อ่างนาง ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากน้ำเสียไหลลงสู่ทะเล ทำให้สิ่งแวดล้อมเสียไป ก็เท่ากับทำลายแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ด้วย ที่ผ่านมาทาง อบต.ได้ใช้งบประมาณจำนวน 12 ล้านเศษ ในการดำเนินการบำบัดน้ำเสียแบบ บึงประดิษฐ์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเสร็จเนื่องจากปริมาณน้ำเสียเพิ่มปริมาณจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
“สิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำเสียหาดอ่าวนางได้อย่างถาวรนั้น จะโยนภาวระให้ อบต.และผู้ประกอบการอย่างเดียวคงจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในทันทีทันได ซึ่งปัญหาน้ำเสียควรที่จะเป็นปัญหาในระดับจังหวัด ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามาร่วมดูแลและช่วยเหลือ อบต.ในการดำเนินการแกไขปัญหาน้ำเสียในภาพรวมเสียที”
การแก้ไขปัญหาน้ำเสียคงจะต้องดำเนินการในแบบภาพรวมทั้งตำบล เพื่อรองรับน้ำเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ซึ่งที่ผ่านมา อบต.เคยเสนอเรื่องการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียระดับตำบล ให้แก่ทางจังหวัดกระบี่มาหลายผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่มาแล้ว แต่ทุกครั้งก็หายไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ทุกครั้ง ย้ายบ้าง เกษียณอายุราชการไปบ้าง ตามกาลเวลา แผนนโนบายที่จะสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียในระดับตำบลเลยหายไปด้วย และถึงเวลาแล้วที่ทางจังหวัดกระบี่จะต้องผลักดันนโยบายการสร้างบ่อบัดน้ำเสียในระดับตำบล และผลักดันงบประมาณ เพื่อที่จะให้การแก้ไขปัญหาน้ำเสียหาดอ่างนาง และน้ำเสียในตำบลอ่าวนางอย่างเป็นระบบเสียที
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเพียงลำพัง อบต.อ่าวนางอย่างเดียวคงแก้ปัญหาน้ำเสียไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการเจริญเติบโต ด้านภาคธุรกิจการท่องเที่ยวมีการขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว และจำนวนสถานประกอบการเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น ปัญหาน้ำเสียอ่าวนางจะต้องเป็นปัญหาระดับจังหวัดในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ให้เกิดเป็นรูปธรรมเสียที รองรับการเจริญเติบโตและการขยายตัวของภาคธุรกิจในอนาคต รวมทั้งภาคครัวเรือนในอนาคตที่จะต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามความเจริญของเศรษฐกิจด้วย
นายธรรมศักดิ์ ภูพันธ์วิวัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า พื้นที่ตำบลอ่าวนาง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกระบี่ ขณะนี้ได้ประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย ทั้งปัญหาเรื่องของขยะ ปัญหาน้ำเสีย ปัญหาหาบเร่แผงลอย และปัญหาการจราจร ซึ่งทุกปัญหามีการพูดคุยและหาวิธีการแก้ไขกันบ้างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้
ปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ คือปัญหาเรื่องน้ำเสียจากสถานประกอบการ รายย่อยไหลลงสู่ชายหาดอ่าวนาง บริเวณคลองยิงเสือ และคลองจาก ไม่มีการบำบัด ปล่อยน้ำเสียลงสู่ชายหาดอ่าวนางเลย เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ซึงแสดงให้เห็นถึงการขาดจิตสำนึกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
นายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ปัญหาน้ำเสียบนหาดอ่าวนางเป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว และเป็นปัญหาที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรง คือ อบต.อ่าวนาง และผู้ประกอบการ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย เพื่อหาทางออกและการแก้ไขปัญหาน้ำเสียให้เป็นรูปธรรม ซึ่งปัจจุบันนี้จะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากปริมาณผู้ประกอบการเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งโรงแรม รีสอร์ต บังกะโล ร้านอาหาร แมนชั้น เกสเฮาส์ รวมกันแล้วหลายพันห้อง ทำให้ปริมาณน้ำเสียหรือน้ำที่ไม่ต้องการใช้ต่อมีมากขึ้นกว่าเดิม เข้าขั้นวิกฤต
อบต.อ่างนาง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เป็นผู้ถือกฎหมายจะต้องเข้าไปตรวจสอบ ผู้ประกอบการทุกประเภท ว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ มีการใช้ถังบำบัดน้ำเสียอย่างถูกต้องและเพียงพอหรือไม่ หากพบผู้ประกอบการรายใดกระทำความผิด ไม่มีถังบำบัดน้ำเสีย มีการปล่อยน้ำเสียทิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติก็ควรดำเนินการตามกฎหมายที่ อบต.มีอยู่ในขั้นเด็ดขาด และจะต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง เพื่อที่จะไม่ให้ผู้ประกอบการปล่อยปะละเลย แต่ยังเชื่อว่าผู้ถือกฎหมายและผู้ปฎิบัติตามกฎหมาย หากมีจิตสำนึกในการทำหน้าที่ร่วมกัน คิดว่าปัญหาน้ำเสียหาดอ่าวนางก็จะหมดไป
นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง กล่าวว่า ปัญหาน้ำเสียหาดอ่าวนางนั้นเป็นปัญหาที่ทาง อบต.อ่างนาง ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากน้ำเสียไหลลงสู่ทะเล ทำให้สิ่งแวดล้อมเสียไป ก็เท่ากับทำลายแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ด้วย ที่ผ่านมาทาง อบต.ได้ใช้งบประมาณจำนวน 12 ล้านเศษ ในการดำเนินการบำบัดน้ำเสียแบบ บึงประดิษฐ์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเสร็จเนื่องจากปริมาณน้ำเสียเพิ่มปริมาณจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
“สิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำเสียหาดอ่าวนางได้อย่างถาวรนั้น จะโยนภาวระให้ อบต.และผู้ประกอบการอย่างเดียวคงจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ในทันทีทันได ซึ่งปัญหาน้ำเสียควรที่จะเป็นปัญหาในระดับจังหวัด ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามาร่วมดูแลและช่วยเหลือ อบต.ในการดำเนินการแกไขปัญหาน้ำเสียในภาพรวมเสียที”
การแก้ไขปัญหาน้ำเสียคงจะต้องดำเนินการในแบบภาพรวมทั้งตำบล เพื่อรองรับน้ำเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ซึ่งที่ผ่านมา อบต.เคยเสนอเรื่องการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียระดับตำบล ให้แก่ทางจังหวัดกระบี่มาหลายผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่มาแล้ว แต่ทุกครั้งก็หายไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ทุกครั้ง ย้ายบ้าง เกษียณอายุราชการไปบ้าง ตามกาลเวลา แผนนโนบายที่จะสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียในระดับตำบลเลยหายไปด้วย และถึงเวลาแล้วที่ทางจังหวัดกระบี่จะต้องผลักดันนโยบายการสร้างบ่อบัดน้ำเสียในระดับตำบล และผลักดันงบประมาณ เพื่อที่จะให้การแก้ไขปัญหาน้ำเสียหาดอ่างนาง และน้ำเสียในตำบลอ่าวนางอย่างเป็นระบบเสียที
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเพียงลำพัง อบต.อ่าวนางอย่างเดียวคงแก้ปัญหาน้ำเสียไม่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการเจริญเติบโต ด้านภาคธุรกิจการท่องเที่ยวมีการขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว และจำนวนสถานประกอบการเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น ปัญหาน้ำเสียอ่าวนางจะต้องเป็นปัญหาระดับจังหวัดในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ให้เกิดเป็นรูปธรรมเสียที รองรับการเจริญเติบโตและการขยายตัวของภาคธุรกิจในอนาคต รวมทั้งภาคครัวเรือนในอนาคตที่จะต้องมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามความเจริญของเศรษฐกิจด้วย
