xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภ.8 เด้งฟ้าผ่า “รอง ผกก.ร่อนพิบูลย์” ฐานทำคดีดังส่อหึ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - ผบช.ภ.8 สั่งย้ายด่วน รอง ผกก.ร่อนพิบูลย์ ฐานไม่สั่งฟ้องคดีดัง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ในข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่หลักฐานพิสูจน์ชัด-ผบก.ขอสำนวนกลับจากอัยการสางคดีใหม่

กรณี พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนันนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.8 (รองผู้บังคับการฯ หัวหน้าศูนย์สืบสวนสอบสวน บช.ภ.8) นำหมายศาลและกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ อ.ร่อนพิบูลย์ การตรวจค้นพบอาวุธปืนหลายรายการ ซึ่งเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และยังพบกระสุนปืนเอช.เค.33 จำนวน 59 นัด ในรถยนต์ของ นายวิฑูรย์ ซึ่งจอดอยู่ในบ้าน โดยอ้างว่าเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาฝากไว้ ซึ่งในขณะนั้นกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2551

ในวันเดียวกัน ผบช.ภ.8 จึงสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นายวิฑูรย์ ในข้อหา มีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมส่งกระสุนปืนดังกล่าวไปตรวจสอบที่กองพลาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจาก นายวิฑูรย์ ให้การว่า กระสุนปืนดังกล่าวเป็นของตำรวจนายหนึ่งที่มาติดตามรักษาความปลอดภัยให้ตน แต่ทางกองพลาธิการและส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่า กระสุนปืนดังกล่าวไม่ใช่กระสุนปืนของทางราชการซึ่งมีการยืนยันอย่างเป็นทางการ

ต่อมาทาง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ บช.ภ.8 ได้ทำการตรวจสอบสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว พบว่า พ.ต.ท.พิษณุ ได้สรุปสำนวน ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว โดยมีความเห็นท้ายสำนวนเสนออัยการเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช โดยไม่รอผลการตรวจสอบของกองพลาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และไม่นำผลการตรวจสอบของกองพลาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้ามารวมสำนวนการสอบสวนเพื่อพิจารณาในสำนวนคดี อันเป็นการเสนอความเห็นและสั่งคดีโดยมิชอบ ทาง ผบช.ภ.8 จึงได้ประสานกับทางพนักงานอัยการเพื่อนำสำนวนการสอบสวนมาดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องและรวบรวมพยานหลักฐานที่มีให้มีความสมบูรณ์

และจากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 ได้มีคำสั่ง บช.ภ.8 ด่วนที่สุด ที่ 538/2551 ลงวันที่ 27 ธ.ค.2551 ให้ พ.ต.ท.พิษณุ พูลวงษ์ รองผกก.สส.สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ไปช่วยราชการที่ บก.ภ.จ.ระนอง ภายใน 24 ชั่วโมง ในคำสั่งเดียวกันให้ พ.ต.ท.โกศล ท่าสอน พนักงานสอบสวน (สบ3) สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รักษาการในตำแหน่งรอง ผกก.สส.สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2551 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

นายสุรชัย แซ่ด่าน ตัวแทนกลุ่มรักษ์เมืองคอน ซึ่งได้ติดตามกดดันตรวจสอบการทำคดีนี้มาโดยตลอด กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปพบกับ พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จว.นศ เพื่อถามถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าว และตนได้ทราบว่าทางฝ่ายปกครองได้ทำหนังสือขอคุมคดีเสียเอง วันนี้ ทางฝ่ายปกครองทำอะไรกันอยู่ หากว่าเกิดคดีใหญ่ๆ ในบ้านเมืองนี้แล้วปกครองทำเสียเองตำรวจก็จะได้ไม่ต้องทำคดีกันแล้ว พอคดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีของผู้มีอิทธิพลปกครองเข้ามาอุ้มทันที

“อยากถามว่าทำไมคดีอย่างลักเล็กขโมยน้อยถึงไม่เข้ามาดูแลกันบ้างล่ะ มหาดไทยเองก็มีข้อมูลอยู่เกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล แล้วเข้ามายุ่งทำไม คนตายไปกี่คนแล้วรู้หรือไม่ไม่เคยจับได้เสียทีล้วนเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองผู้มีอิทธิพลทั้งสิ้น อยากเรียกร้องให้ทางจังหวัดออกมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น ปกครองควรวางเฉยให้ตำรวจเร่งทำงานกันบ้าง”

นายสุรชัย กล่าวต่ออีกว่า ตนรู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ปกครองไม่รอผลการพิสูจน์กระสุนทั้ง 50 กว่านัด เท่าที่รู้เป็นกระสุนที่ไม่ถูกต้อง และไม่ใช่ของ สภ.ร่อนพิบูลย์ด้วย ก่อนหน้านี้ตำรวจไม่ทำงานเราชาวนครฯ ก็ต่อว่าต่อขานกัน แต่พอวันนี้ตำรวจทำงานปราบปรามอย่างจริงจังขึ้นมา ปกครองก็เข้ามาอุ้มแบบผิดๆ กลั่นแกล้งตำรวจทุกวิถีทาง อย่าให้กลุ่มรักษ์เมืองคอนเหลืออดเหตุการณ์ในอดีตอาจเกิดขึ้นมาอีกก็ได้

“ผมจะทำหนังสือร้องขอต่อกระทรวงมหาดไทย ให้ฝ่ายปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราชหยุดยุ่งกับตำรวจในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลเสียที ให้ตำรวจเพียงฝ่ายเดียวเป็นผู้ดำเนินการ และว่าเท่าที่ทราบขณะนี้ฝ่ายปกครองมีการออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนให้กับผู้มีอิทธิพลเหล่านี้อีกด้วย ตนสงสัยว่าฝ่ายปกครองคงกลัวว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชจะไม่มีคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญเป็นแน่จึงได้ปล่อยให้มีการพกพาอาวุธกันอีก”

ทางด้าน พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จว.นศ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องร้ายแรงต่อบ้านเมือง มาถึงวันนี้ตนก็ยังยืนยันอยู่ว่าตนจะทำงานเพื่อเมืองนครฯให้สงบสุขเสียที ตนไม่เกรงกลัวอิทธิพลของใครทั้งสิ้น ผิดก็ว่าผิด ถูกก็ไม่ต้องกลัว ขอให้เชื่อใจกันคนผิดก็ต้องถูกทำโทษ และว่าตนไม่เคยคิดที่จะแกล้งใครตามที่มีการปล่อยข่าวออกมาเป็นระยะๆ ตนมาทำงานเพื่อคนนครอย่างแท้จริง
กำลังโหลดความคิดเห็น