นครศรีธรรมราช - ผู้การฯรุกเงียบ จับนักศึกษาคณะวิศวะ-นิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยดัง ค้ายาเสพติดหลังตำรวจได้รับร้องเรียน นักศึกษากลายเป็นทาสยาบ้าอื้อ ก่อนรวบขาใหญ่คนวิ่งยาหน้าห้างใหญ่เมืองคอน กำลังขยายผลเพื่อจับกุมเอเย่นต์รายใหญ่ในจังหวัด
พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งระดมกำลังตำรวจกลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช และกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช แต่งกายนอกเครื่องแบบเดินทางจาก บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ไปสมทบกับกำลังตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทยอยเคลื่อนเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งกำลังชุดเจ้าหน้าที่ ที่นำโดย พล.ต.ต.กระจ่าง ได้เข้าติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากผู้ขายซึ่งเป็นนักศึกษา นัดส่งมอบยากันที่ปากซอยเข้ามหาวิทยาลัยด้านทิศใต้ มีนักศึกษาชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำยาบ้าจำนวน 10 เม็ด บรรจุถุงพลาสติกมาส่งให้กับสายของตำรวจที่ติดต่อล่อซื้อ และรับเงินล่อซื้อ พล.ต.ต.กระจ่าง พร้อมพวกจึงเข้าทำการจับกุมทันที
จากนั้นควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าศาลา ทราบชื่อคือ นายศศิน หรือ ตี๋ คงธนา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 2 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง และ นายกิตติกร หรือ ตั้ม วรกุล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/2 หมู่ 1 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทั้งสองเป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าวชั้นปีที่ 2 ให้การรับสารภาพว่าลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้เพื่อนนักศึกษามาประมาณ 1 ปี มีคนวิ่งยาบ้าเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งนำยาบ้ามาส่งให้
ในขณะที่กำลังอีกชุด นำโดย พ.ต.อ.วิสิทธิ ฤทธิแผลง ผกก.สภ.ท่าศาลา ติดต่อล่อซื้อยาบ้าที่บริเวณปากซอยสวนอิสาน ภายในมหาวิทยาลัย และสามารถจับกุม นายณัฐพร หรือ ป๋อง ศรีสุชาติ อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ขณะนำยาบ้าจำนวน 9 เม็ด มาส่งให้กับตำรวจ จึงได้คุมตัวไปสอบสวนที่โรงพักท่าศาลา สารภาพว่า ค้ายามาประมาณ 2 ปีแล้ว
ด้านกำลังตำรวจอีกชุด นำโดย พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช จับกุม นายธีระวัฒน์ หรือ โอ๋ นุ่นจุ้ย อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 3 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 377/193 หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช และ นายวรวิทย์ หรือแดง หนุมาศ อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่ 4 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 66/4 หมู่ 6 ต.ลานสกา อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมยาบ้าจำนวน 75 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ซองแบ่งบรรจุยาบ้า 93 ซอง โดยจับกุมได้ที่ห้องพักหมายเลข 207/82 ของหอพักชาย ซึ่งเป็นโรงแรมของมหาวิทยาลัย
หลังจากที่ตำรวจให้สายล่อซื้อจากผู้ต้องหาทั้งสอง ผู้ต้องหานัดให้ไปรับที่ประตูห้องพักดังกล่าว ตำรวจจึงรับยาบ้าและใช้สิทธิ จนท.ป.ป.ส.เข้าตรวจค้นห้องพักและจับกุมดังกล่าว ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าศาลา ทั้งสองรับสารภาพว่าค้ายาบ้ามาประมาณ 3 ปี
กำลังตำรวจอีกชุดนำโดย พ.ต.ท.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ล่อซื้อและจับกุม นายศรายุทธ ครุฑกำจร อายุ 25 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด ขณะนำยาบ้ามาส่งให้ตำรวจที่ปากทางเข้ามหาวิทยาลัย ด้านรพ.ท่าศาลา คุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าศาลา
ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนเพื่อขยายผลกลุ่มผู้ต้องหาอยู่ที่ สภ.ท่าศาลา ได้มีโทรศัพท์เข้ามือถือของนายวรวิทย์ หรือ แดง หนุมาศ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ถูกจับกุม สั่งให้ นายวรวิทย์ กับพวกนำเงินค่ายาบ้าไปส่งให้กับพวกตน โดยนัดให้นำเงินไปจ่ายที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ถนนศรีปราชญ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาที่จับกุมได้เดินทางไปที่หน้าห้างสรรพสินค้า ยังจุดนัดหมายในเวลาต่อมา ปรากฏว่า พบชาย 2 คน ซึ่งกลุ่มนักศึกษาที่ถูกจับกุมยืนยันว่าเป็นคนวิ่งยา นำยาบ้ามาส่งให้พวกตนและเป็นคนเก็บเงิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมบุคคลทั้งสอง ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายจักรภพ หรือ จอย แก้วกันทอง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/3 หมู่ 4 ต.ลานสกา อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช และ นายวีระศักดิ์ หรือ หมุ้ย ขุนชนะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/7 หมู่ 4 ต.ลานสกา อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ตรวจค้นในตัวนายจักรภพ พบยาบ้า 10 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกง และค้นพบยาบ้า 15 เม็ด ในกระเป๋าเสื้อของนายวีระศักดิ์ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช การตรวจสอบประวัติพบว่าทั้งสองมีประวัติพัวพันแก๊งมือปืนรับจ้าง
การสอบสวนทั้งสอง ยอมรับว่า เป็นลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังและสังกัดอยู่ในซุ้มมือปืนของนักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าว แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยถึงตัวเอเย่นต์ใหญ่ที่เป็นตัวการค้ายารายใหญ่
พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การเข้าทำการจับกุมยาเสพติดในมหาวิทยาลัยชื่อดังในครั้งนี้ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเงียบที่สุด เนื่องจากได้รับการร้องเรียนเรื่องมียาเสพติดเข้าไปแพร่หลายในหมู่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ประสานขอความร่วมมือจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ในการตรวจค้นหอพักและอาคารต่างๆ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ผู้บริหารเกรงว่ามหาวิทยาลัยจะเสื่อมเสียชื่อเสียง
ทางตำรวจจึงต้องหามาตรการและวิธีการกวาดล้างจับกุมเอง แม้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ถือเป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ มีชื่อเสียงของประเทศ แต่ตำรวจต้องทำตามหน้าที่ แม้จะจับกุมได้ไม่มากนักตามที่ควรจะเป็น แต่ก็สามารถจับกุมได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งพบว่า น่าตกใจ ที่นักศึกษาจำนวนมากกลายเป็นผู้ค้า และนักศึกษาอีกหลายคนเป็นผู้เสพ ทำให้ต้องเสียอนาคต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบขยายผล เพื่อสาวไปถึงตัวผู้ค้ายารายใหญ่ หากนักศึกษาและผู้ต้องหาที่เป็นคนวิ่งยาให้ความร่วมมือกับตำรวจ คาดว่า จะสามารถสาวไปถึงและจับกุมเอเย่นต์ใหญ่ได้แน่
นอกจากนี้ ภายหลังจับกุมนักศึกษาที่ค้ายา ทางตำรวจได้แจ้งให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยทราบ เพื่อขอความร่วมมือในการกวาดล้างใหญ่สิ่งผิดกฎหมายอื่นในมหาวิทยาลัยในเร็วๆ นี้ อีกด้วย รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าว
พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งระดมกำลังตำรวจกลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช และกำลังตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช แต่งกายนอกเครื่องแบบเดินทางจาก บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ไปสมทบกับกำลังตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทยอยเคลื่อนเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งกำลังชุดเจ้าหน้าที่ ที่นำโดย พล.ต.ต.กระจ่าง ได้เข้าติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากผู้ขายซึ่งเป็นนักศึกษา นัดส่งมอบยากันที่ปากซอยเข้ามหาวิทยาลัยด้านทิศใต้ มีนักศึกษาชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำยาบ้าจำนวน 10 เม็ด บรรจุถุงพลาสติกมาส่งให้กับสายของตำรวจที่ติดต่อล่อซื้อ และรับเงินล่อซื้อ พล.ต.ต.กระจ่าง พร้อมพวกจึงเข้าทำการจับกุมทันที
จากนั้นควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าศาลา ทราบชื่อคือ นายศศิน หรือ ตี๋ คงธนา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 2 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง และ นายกิตติกร หรือ ตั้ม วรกุล อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/2 หมู่ 1 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทั้งสองเป็นนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าวชั้นปีที่ 2 ให้การรับสารภาพว่าลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้เพื่อนนักศึกษามาประมาณ 1 ปี มีคนวิ่งยาบ้าเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งนำยาบ้ามาส่งให้
ในขณะที่กำลังอีกชุด นำโดย พ.ต.อ.วิสิทธิ ฤทธิแผลง ผกก.สภ.ท่าศาลา ติดต่อล่อซื้อยาบ้าที่บริเวณปากซอยสวนอิสาน ภายในมหาวิทยาลัย และสามารถจับกุม นายณัฐพร หรือ ป๋อง ศรีสุชาติ อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ขณะนำยาบ้าจำนวน 9 เม็ด มาส่งให้กับตำรวจ จึงได้คุมตัวไปสอบสวนที่โรงพักท่าศาลา สารภาพว่า ค้ายามาประมาณ 2 ปีแล้ว
ด้านกำลังตำรวจอีกชุด นำโดย พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช จับกุม นายธีระวัฒน์ หรือ โอ๋ นุ่นจุ้ย อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 3 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 377/193 หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช และ นายวรวิทย์ หรือแดง หนุมาศ อายุ 24 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่ 4 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 66/4 หมู่ 6 ต.ลานสกา อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พร้อมยาบ้าจำนวน 75 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ซองแบ่งบรรจุยาบ้า 93 ซอง โดยจับกุมได้ที่ห้องพักหมายเลข 207/82 ของหอพักชาย ซึ่งเป็นโรงแรมของมหาวิทยาลัย
หลังจากที่ตำรวจให้สายล่อซื้อจากผู้ต้องหาทั้งสอง ผู้ต้องหานัดให้ไปรับที่ประตูห้องพักดังกล่าว ตำรวจจึงรับยาบ้าและใช้สิทธิ จนท.ป.ป.ส.เข้าตรวจค้นห้องพักและจับกุมดังกล่าว ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าศาลา ทั้งสองรับสารภาพว่าค้ายาบ้ามาประมาณ 3 ปี
กำลังตำรวจอีกชุดนำโดย พ.ต.ท.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ล่อซื้อและจับกุม นายศรายุทธ ครุฑกำจร อายุ 25 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางยาบ้า 10 เม็ด ขณะนำยาบ้ามาส่งให้ตำรวจที่ปากทางเข้ามหาวิทยาลัย ด้านรพ.ท่าศาลา คุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.ท่าศาลา
ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนเพื่อขยายผลกลุ่มผู้ต้องหาอยู่ที่ สภ.ท่าศาลา ได้มีโทรศัพท์เข้ามือถือของนายวรวิทย์ หรือ แดง หนุมาศ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ถูกจับกุม สั่งให้ นายวรวิทย์ กับพวกนำเงินค่ายาบ้าไปส่งให้กับพวกตน โดยนัดให้นำเงินไปจ่ายที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ถนนศรีปราชญ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาที่จับกุมได้เดินทางไปที่หน้าห้างสรรพสินค้า ยังจุดนัดหมายในเวลาต่อมา ปรากฏว่า พบชาย 2 คน ซึ่งกลุ่มนักศึกษาที่ถูกจับกุมยืนยันว่าเป็นคนวิ่งยา นำยาบ้ามาส่งให้พวกตนและเป็นคนเก็บเงิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมบุคคลทั้งสอง ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายจักรภพ หรือ จอย แก้วกันทอง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/3 หมู่ 4 ต.ลานสกา อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช และ นายวีระศักดิ์ หรือ หมุ้ย ขุนชนะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/7 หมู่ 4 ต.ลานสกา อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ตรวจค้นในตัวนายจักรภพ พบยาบ้า 10 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกง และค้นพบยาบ้า 15 เม็ด ในกระเป๋าเสื้อของนายวีระศักดิ์ จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช การตรวจสอบประวัติพบว่าทั้งสองมีประวัติพัวพันแก๊งมือปืนรับจ้าง
การสอบสวนทั้งสอง ยอมรับว่า เป็นลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังและสังกัดอยู่ในซุ้มมือปืนของนักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าว แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยถึงตัวเอเย่นต์ใหญ่ที่เป็นตัวการค้ายารายใหญ่
พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การเข้าทำการจับกุมยาเสพติดในมหาวิทยาลัยชื่อดังในครั้งนี้ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเงียบที่สุด เนื่องจากได้รับการร้องเรียนเรื่องมียาเสพติดเข้าไปแพร่หลายในหมู่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ประสานขอความร่วมมือจากผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ในการตรวจค้นหอพักและอาคารต่างๆ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ผู้บริหารเกรงว่ามหาวิทยาลัยจะเสื่อมเสียชื่อเสียง
ทางตำรวจจึงต้องหามาตรการและวิธีการกวาดล้างจับกุมเอง แม้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ถือเป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ มีชื่อเสียงของประเทศ แต่ตำรวจต้องทำตามหน้าที่ แม้จะจับกุมได้ไม่มากนักตามที่ควรจะเป็น แต่ก็สามารถจับกุมได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งพบว่า น่าตกใจ ที่นักศึกษาจำนวนมากกลายเป็นผู้ค้า และนักศึกษาอีกหลายคนเป็นผู้เสพ ทำให้ต้องเสียอนาคต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบขยายผล เพื่อสาวไปถึงตัวผู้ค้ายารายใหญ่ หากนักศึกษาและผู้ต้องหาที่เป็นคนวิ่งยาให้ความร่วมมือกับตำรวจ คาดว่า จะสามารถสาวไปถึงและจับกุมเอเย่นต์ใหญ่ได้แน่
นอกจากนี้ ภายหลังจับกุมนักศึกษาที่ค้ายา ทางตำรวจได้แจ้งให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยทราบ เพื่อขอความร่วมมือในการกวาดล้างใหญ่สิ่งผิดกฎหมายอื่นในมหาวิทยาลัยในเร็วๆ นี้ อีกด้วย รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าว