นครศรีธรรมราช - สำนักงานสาธารณสุขเขต 6 กางแผนฟ้อง รัฐมนตรีสาธารณสุข ซึ่งถูกทอดทิ้งร่วม 20 ปีเร่ง โดยของบกว่าพันล้านบาทหนุนขยายการบริการประชาชนหลังประสบปัญหาอื้อขาดแพทย์ ซึ่งปัจจุบันมีแพทย์อยู่ในภาคใต้ตอนบนเพียง 600 คนเศษ ซึ่งต้องรับภาระดูแลผู้ป่วยแพทย์ 1 คนต่อผู้ป่วย 5,042 คน ขณะที่ทันตแพทย์ 1 คนต่อประชากร 17,000 คน ด้านโรงพยาบาลมีความแออัดเป็นอย่างมากจึงต้องเร่งขยายเพื่อรองรับกับสถานการณ์ และช่วยเหลือในด้านอาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน อาคารผู้ป่วยใน อาคารผู้ป่วยนอกพร้อมกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องรวมทั่งหมดกว่า 1,000 ล้านบาท
ภายหลังจากที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข เดินทางลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช และประชุมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้บริหารหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขนั้น
โดยเฉพาะสำนักงานสาธารณสุขเขต 6 รวม 6 จังหวัดภาคใต้ตอนบน โดย นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ในฐานะเลขาธิการ สาธารณสุขเขต 6 กล่าวสรุปถึงปัญหาของระบบการสาธารณสุขใน 6 จะงหวัดภาคใต้ตอนบนนำเสนอต่อการเตรียมนโยบายและการบริหารราชการของรัฐมนตรีว่า ในส่วนของภาคใต้นั้นถือว่ามีปัญหาสะสมมานาน และค่อนข้างที่จะขาดแคลนในหลายๆ ด้าน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ดำรงอยู่มาอย่างยาวนานบางแห่งเป็นสิบปี บางแห่งถึง 20 ปีที่ไม่ได้รับการสนับสนุน หรือได้รับการสนับสนุนก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เลขาธิการสำนักงานสาธารณสุขเขต 6 กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาใหญ่นั้นคือเรื่องของการขาดแคลนแพทย์และพยาบาลอย่างรุนแรง โดยขณะนี้มีแพทย์อยู่ในภาคใต้ตอนบนเพียง 600 คนเศษ ซึ่งต้องรับภาระดูแลผู้ป่วยแพทย์ 1 คนต่อผู้ป่วย 5,042 คน ทันตแพทย์ซึ่งขาดแคลนอย่างมากเช่นกันมีอัตราแพทย์ 1 คนต่อประชากร 17,000 คน ข้อเท็จจริงนั้นแพทย์ต้องรับภาระมากกว่านี้ถึง 2 เท่าเนื่องจากปัจจัยเบี่ยงเบนเรื่องของประชากรแฝงจากการย้ายถิ่นที่อยู่ และแรงงานต่างด้าว
"สามประเด็นหลักที่ได้มีการนำเสนอผ่านไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้ว คือ 1.ปัญหาการขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในขั้นวิกฤต 2.ขาดโครงสร้างพื้นฐานในหน่วยบริหารและหน่วยบริการสาธารณ สุข และ3.ปัญหาเรื่องไข้เลือดออก ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน"
นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพร กล่าวต่อว่า ในส่วนของสาธารณสุขเขต 6 ได้สรุปข้อเสนอเร่งด่วนคือ 1.ความต้องการของโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลขนาดเล็กต้องใช้งบประมาณ 190 ล้านบาท 2.โรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ รวม 994 ล้านบาท และ 3.โรงพยาบาลพิเศษเช่นโรงพยาบาลเกาะสมุย รวม 110 ล้านบาท ซึ่งในงบประมาณเหล่านี้มีเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนต้องเร่งขยายคืออาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน อาคารผู้ป่วยใน อาคารผู้ป่วยนอกพร้อมกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังจากที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข เดินทางลงพื้นที่นครศรีธรรมราช ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช และประชุมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้บริหารหน่วยงานราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขนั้น
โดยเฉพาะสำนักงานสาธารณสุขเขต 6 รวม 6 จังหวัดภาคใต้ตอนบน โดย นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ในฐานะเลขาธิการ สาธารณสุขเขต 6 กล่าวสรุปถึงปัญหาของระบบการสาธารณสุขใน 6 จะงหวัดภาคใต้ตอนบนนำเสนอต่อการเตรียมนโยบายและการบริหารราชการของรัฐมนตรีว่า ในส่วนของภาคใต้นั้นถือว่ามีปัญหาสะสมมานาน และค่อนข้างที่จะขาดแคลนในหลายๆ ด้าน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ดำรงอยู่มาอย่างยาวนานบางแห่งเป็นสิบปี บางแห่งถึง 20 ปีที่ไม่ได้รับการสนับสนุน หรือได้รับการสนับสนุนก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เลขาธิการสำนักงานสาธารณสุขเขต 6 กล่าวต่ออีกว่า ปัญหาใหญ่นั้นคือเรื่องของการขาดแคลนแพทย์และพยาบาลอย่างรุนแรง โดยขณะนี้มีแพทย์อยู่ในภาคใต้ตอนบนเพียง 600 คนเศษ ซึ่งต้องรับภาระดูแลผู้ป่วยแพทย์ 1 คนต่อผู้ป่วย 5,042 คน ทันตแพทย์ซึ่งขาดแคลนอย่างมากเช่นกันมีอัตราแพทย์ 1 คนต่อประชากร 17,000 คน ข้อเท็จจริงนั้นแพทย์ต้องรับภาระมากกว่านี้ถึง 2 เท่าเนื่องจากปัจจัยเบี่ยงเบนเรื่องของประชากรแฝงจากการย้ายถิ่นที่อยู่ และแรงงานต่างด้าว
"สามประเด็นหลักที่ได้มีการนำเสนอผ่านไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้ว คือ 1.ปัญหาการขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในขั้นวิกฤต 2.ขาดโครงสร้างพื้นฐานในหน่วยบริหารและหน่วยบริการสาธารณ สุข และ3.ปัญหาเรื่องไข้เลือดออก ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่เช่นกัน"
นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพร กล่าวต่อว่า ในส่วนของสาธารณสุขเขต 6 ได้สรุปข้อเสนอเร่งด่วนคือ 1.ความต้องการของโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลขนาดเล็กต้องใช้งบประมาณ 190 ล้านบาท 2.โรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ รวม 994 ล้านบาท และ 3.โรงพยาบาลพิเศษเช่นโรงพยาบาลเกาะสมุย รวม 110 ล้านบาท ซึ่งในงบประมาณเหล่านี้มีเรื่องที่จำเป็นเร่งด่วนต้องเร่งขยายคืออาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน อาคารผู้ป่วยใน อาคารผู้ป่วยนอกพร้อมกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
