ตรัง – วิกฤตเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อ อุตสาหกรรมไม่ยางพาราตรังอย่างเห็นได้ชัด มีการชะลอตัวของการผลิตหรือซื่อไม้ยางให้ถูกลง ยังมีสภาวการณ์แข่งขันที่ค่อนข้างสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในละแวกเอเชีย ที่หันมาปลูกยางพาราเพื่อการส่งออกเพิ่มมากขึ้น
นายวิชัย วิระพรสวรรค์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยถึงสถานการณ์ธุรกิจไม้ยางพาราที่มีแนวโน้มว่า จะเริ่มมีราคาที่ลดต่ำลงในอีก 2 - 3 เดือนข้างหน้า เพราะปริมาณการซื้อขายไม้ยางพาราในขณะนี้ เริ่มมีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ราคาไม้ยางพารา ก็มีราคาลดลงมากว่าร้อยละ 50 กระทั่งล่าสุดทางโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพาราในจังหวัดตรัง เริ่มมีการชะงักการผลิต ด้วยการรับซื้อไม้ยางพาราให้น้อยลง หรือรับซื้อไม้ยางพาราในราคาที่ต่ำลงมากกว่าช่วงก่อนๆ
ทั้งนี้ สาเหตุใหญ่มาจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังประสบปัญหากันทั่วโลก โดยธุรกิจไม้ยางพาราแปรรูปของประเทศไทย จะมีประเทศคู่ค้า หรือลูกค้าหลักใน 2 ประเทศ คือ ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการสั่งซื้อที่ลดน้อยลงมาก ส่วนยอดการสั่งจองจากเดิม ก็มีการเปลี่ยนแปลง และมีการปรับลดลงเช่นเดียวกัน ในขณะที่การซื้อขาย ทั้งยางพาราแผ่น และไม้ยางพารา ยังมีสภาวการณ์แข่งขันที่ค่อนข้างสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในละแวกเอเชีย ที่หันมาปลูกยางพาราเพื่อการส่งออกเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ยางพารา และไม้ยางพาราเกิดภาวะล้นตลาด
อย่างไรก็ตาม สำหรับทิศทางของไม้ยางพาราที่จะให้เกิดความแน่นอน คงจะต้องรอดูสถานการณ์ของเศรษฐกิจในปี 2552 ว่า จะมีแนวทางที่ชัดเจนอย่างไร นอกจากนั้น ประเทศไทยยังได้เริ่มมองหาตลาดแหล่งใหม่เข้ามาทดแทน โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย และหลายๆ ประเทศแถวอาหรับ แต่สิ่งสำคัญก็คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือในระยะสั้นที่กำลังเผชิญอยู่นั้น เป็นเรื่องที่หลายๆ หน่วยงานจะต้องเร่งนำเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยเร็วที่สุด