นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม อยู่ที่ร้อยละ 83 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจากเดือนกรกฎาคม ปี 2551 ที่อยู่ในระดับที่ร้อยละ 76.9 โดยรับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มขึ้น และการบริโภคภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดัชนียอดคำสั่งซื้อ ยอดขายภายในประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกำลังซื้อของประชาชนที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ส่งผลต่อขีดความสามารถการแข่งขัน
สำหรับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่อการดำเนินธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ในระดับที่มั่นใจมากขึ้น และผู้ประกอบการมองว่าตลาดภายในประเทศจะขยายตัวมากกว่าตลาดต่างประเทศ รวมถึงได้รับผลดีจากเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง จะทำให้มียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ที่อาจนำไปสู่การชะลอตัวของการบริโภคอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2552
สำหรับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่อการดำเนินธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ในระดับที่มั่นใจมากขึ้น และผู้ประกอบการมองว่าตลาดภายในประเทศจะขยายตัวมากกว่าตลาดต่างประเทศ รวมถึงได้รับผลดีจากเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง จะทำให้มียอดคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ที่อาจนำไปสู่การชะลอตัวของการบริโภคอีกครั้งหนึ่ง รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2552