กระบี่ - แก้ปัญหาราคายางตกต่ำกระบี่เป็นหมัน เหตุขาดรัฐบาลรับเรื่อง เตรียมเสนอมาตรการแก้ปัญหารัฐบาลใหม่ทันที นายกสมาคมชาวสวนยาง ภาวนาอย่าให้ 3 บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ล้ม เหตุกระทบกับชาวสวนยางโดยตรง
นายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว และรุนแรงจนต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาก ทราบว่าราคายางแผ่นดิบ กิโลกรัมละ 32 บาท น้ำยางสด 23 บาท และเศษยางต่ำกว่า 10 บาท ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทางจังหวัดกระบี่ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนายกสมาคมชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ พ่อค้า โรงงานรับซื้อยาง ธนาคารของรัฐ ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคาร ธ.ก.ส.และธนาคารกรุงไทย และหน่วยงานของรัฐ เข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
โดยได้กำหนดมาตรการ ไว้ 5 มาตรการ 1.สนับสนุนส่งเสริมให้สถาบันเกษตกรในจังหวัดรวบรวมยาง โดยใช้วิธีแบบรวมกลุ่มในการขาย เพื่อลดความเสี่ยงด้านราคา และลดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ 2.เร่งรัดระบายสต๊อกยางพาราของสถาบันเกษตรกร โดยขอความร่วมมือโรงงานและผู้ซื้อในจังหวัด เพื่อช่วยเหลือสถาบันเกษตรกร
3.สนับสนุนเงินทุน วงเงิน 30 ล้านบาท เพื่อให้สถาบันเกษตรกร นำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมยางพารา รวมทั้งสนับสนุนเงินทุนเคราะห์เกษตรกร นำไปซื้อปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร 4.เสนอรัฐบาลแทรกแซงตลาดยางพารา 5.เสนอผู้บริหารระดับกระทรวงเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือตามภารกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการผลิต แปรรูป และตลาดยางพารา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับทุกมาตรการที่กำหนดขึ้น เมื่อได้ร่วมถกจากทุกภาคส่วนก็ทราบว่าไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้ เนื่องจากปัญหาราคายางเป็นปัญหาระดับชาติ มีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่สามารถจะแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีเพียงรัฐบาลรักษาการเท่านั้น ก็คงจะไม่สารถแก้ไขได้ ต้องรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เท่านั้น จึงจะสามารถขับเคลื่อนหรือเสนอให้กับทางรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป และในส่วนของสถาบันการเงินเองก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากนัก เพราะนโยบายทุกนโยบายจะต้องรับจากส่วนกลางมาดำเนินการ เมื่อไม่มีคำสั่งไดๆออก มาทางท้องถิ่นก็ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน
ด้านผู้ประกอบการโรงงานรับซื้อยางแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ทางโรงงานเองก็อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำนวนยางที่ค้างอยู่ในสต๊อก ไม่สามารถระบายได้ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ซื้อมาในราคาแพง แต่ราคาลดลงรวดเร็วมากระบายไม่ทัน ส่วนจะให้รับซื้อยางจากเกษตรกรช่วงนี้ในราคาที่แพงกว่าท้องตลาดคงจะทำไม่ได้ เพราะไม่อยากจะเฉือนเนื้อตัวเองให้เจ็บมากไปกว่านี้อีกแล้ว
เมื่อมีรัฐบาลที่เป็นตัวเป็นตนแล้วสิ่งที่รัฐบาลจะช่วยได้ คือ การเร่งระบายยางพาราที่มีอยู่อย่างน้อย 3 แสนตันออกไปก่อน และก็หาตลาดใหม่แทนประเทศจีน อาจจะทำให้ราคายางกระเตื้องขึ้นมาได้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วราคายางคงจะซบเซาต่อไป เพราะปัจจัยหลายอย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ด้านนายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเข้าดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปีหน้า และเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ 3 ยักษ์ใหญ่ ก็คงจะทำให้ราคายางกระเตื้องขึ้นมาด้วยอย่างแน่นอน และขอภาวนาอย่าให้ 3 บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ล้มละลาย เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ราคายางจะทรุดหนักกว่านี้อีก ซึ่งผู้ที่เดือดร้อนก็คือเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ไม่สามารถหนีผลกระทบได้
นายธันวาคม เขมะศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว และรุนแรงจนต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาก ทราบว่าราคายางแผ่นดิบ กิโลกรัมละ 32 บาท น้ำยางสด 23 บาท และเศษยางต่ำกว่า 10 บาท ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทางจังหวัดกระบี่ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนายกสมาคมชาวสวนยางพาราจังหวัดกระบี่ พ่อค้า โรงงานรับซื้อยาง ธนาคารของรัฐ ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคาร ธ.ก.ส.และธนาคารกรุงไทย และหน่วยงานของรัฐ เข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและหาแนวทางการแก้ไขปัญหา
โดยได้กำหนดมาตรการ ไว้ 5 มาตรการ 1.สนับสนุนส่งเสริมให้สถาบันเกษตกรในจังหวัดรวบรวมยาง โดยใช้วิธีแบบรวมกลุ่มในการขาย เพื่อลดความเสี่ยงด้านราคา และลดค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ 2.เร่งรัดระบายสต๊อกยางพาราของสถาบันเกษตรกร โดยขอความร่วมมือโรงงานและผู้ซื้อในจังหวัด เพื่อช่วยเหลือสถาบันเกษตรกร
3.สนับสนุนเงินทุน วงเงิน 30 ล้านบาท เพื่อให้สถาบันเกษตรกร นำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมยางพารา รวมทั้งสนับสนุนเงินทุนเคราะห์เกษตรกร นำไปซื้อปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร 4.เสนอรัฐบาลแทรกแซงตลาดยางพารา 5.เสนอผู้บริหารระดับกระทรวงเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือตามภารกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการผลิต แปรรูป และตลาดยางพารา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า สำหรับทุกมาตรการที่กำหนดขึ้น เมื่อได้ร่วมถกจากทุกภาคส่วนก็ทราบว่าไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้ เนื่องจากปัญหาราคายางเป็นปัญหาระดับชาติ มีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่สามารถจะแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีเพียงรัฐบาลรักษาการเท่านั้น ก็คงจะไม่สารถแก้ไขได้ ต้องรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เท่านั้น จึงจะสามารถขับเคลื่อนหรือเสนอให้กับทางรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป และในส่วนของสถาบันการเงินเองก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้มากนัก เพราะนโยบายทุกนโยบายจะต้องรับจากส่วนกลางมาดำเนินการ เมื่อไม่มีคำสั่งไดๆออก มาทางท้องถิ่นก็ไม่สามารถดำเนินการได้เช่นกัน
ด้านผู้ประกอบการโรงงานรับซื้อยางแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ทางโรงงานเองก็อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำนวนยางที่ค้างอยู่ในสต๊อก ไม่สามารถระบายได้ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ซื้อมาในราคาแพง แต่ราคาลดลงรวดเร็วมากระบายไม่ทัน ส่วนจะให้รับซื้อยางจากเกษตรกรช่วงนี้ในราคาที่แพงกว่าท้องตลาดคงจะทำไม่ได้ เพราะไม่อยากจะเฉือนเนื้อตัวเองให้เจ็บมากไปกว่านี้อีกแล้ว
เมื่อมีรัฐบาลที่เป็นตัวเป็นตนแล้วสิ่งที่รัฐบาลจะช่วยได้ คือ การเร่งระบายยางพาราที่มีอยู่อย่างน้อย 3 แสนตันออกไปก่อน และก็หาตลาดใหม่แทนประเทศจีน อาจจะทำให้ราคายางกระเตื้องขึ้นมาได้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วราคายางคงจะซบเซาต่อไป เพราะปัจจัยหลายอย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ด้านนายบุญส่ง นับทอง นายกสมาคมชาวสวนยางจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า หลังจากที่ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเข้าดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปีหน้า และเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ 3 ยักษ์ใหญ่ ก็คงจะทำให้ราคายางกระเตื้องขึ้นมาด้วยอย่างแน่นอน และขอภาวนาอย่าให้ 3 บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ล้มละลาย เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ราคายางจะทรุดหนักกว่านี้อีก ซึ่งผู้ที่เดือดร้อนก็คือเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ไม่สามารถหนีผลกระทบได้