ยะลา - แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยผู้ช่วย ผบ.ตร.เรียกผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดยะลา กำหนดกรอบหามาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยครู และแนวทางการให้ความช่วยเหลือ หลังจากกลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุบ่อยครั้งขึ้น
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 โรงแรมยะลาชางลี เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.จำลอง คุณสงค์ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการผสม พลเรือน ตำรวจ ทหาร นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ของยะลาทั้งหมด ได้ประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดยะลา จำนวน 291 โรง เพื่อกำหนดกรอบมาตรการในดูแลรักษาความปลอดภัยคณะครู และหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือครูในพื้นที่จังหวัดยะลา หลังจากที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ชุดรักษาความปลอดภัยครู อยู่อย่างบ่อยครั้ง
แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ในขณะนี้นั้นทางกองทัพได้ล้วงลึกลงไปในยุทธวิธีของหน่วยต่างๆ ที่คุ้มครองครู เพื่อให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการตรวจสอบว่าทุกหน่วยได้ปฏิบัติตามที่กำหนด หรือไม่ อย่างไร ส่วนกรณีที่คณะครูส่วนใหญ่ได้เรียกร้องให้มีกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยในระหว่างการเดินทาง โดยขอให้กำลังเจ้าหน้าที่ขับรถนำ และปิดท้ายขบวนการเดินทางเพื่อความปลอดภัยนั้น อยากจะบอกกับคณะผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครูว่าการเดินทางในลักษณะดังกล่าวคณะครูจะไม่ปลอดภัย โดยกลุ่มคนร้ายจ้องที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และครูก็อาจจะตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุได้เหมือนกัน ถ้าหากให้ทหารได้ลงไปคุ้มกันเส้นทางทุกๆ พื้นที่แล้ว คิดว่าน่าจะปลอดภัยมากกว่า ซึ่งในการประชุมในครั้งนี้จะได้มีการพูดคุย และร่วมหาแนวทางร่วมกันในการรักษาความปลอดภัยครู โดยจะได้ปฏิบัติงานร่วมกันทั้งในส่วนของการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อปรับแผนการคุ้มครองครูให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนของการรักษาความปลอดภัยครูนั้น มีการปรับอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมักเปลี่ยนกลยุทธ์ในการปฏิบัติการ ซึ่งหากว่าอะไรที่ทำซ้ำซาก ฝ่ายตรงข้ามมักจะจับทางได้ และจากการประเมินผลการปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยครูในห้วงที่ผ่านมานั้น พบว่าคณะครูในพื้นที่ต่างมีความพึงพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้คณะครูมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม คาดว่าจะผ่านพ้นไปด้วยดี
