“อ้น สราวุธ” โทรเช็คฮอลีวูด ยันไม่มีหนังที่ “นาธาน” เล่น ขอทุกคนเห็นใจอย่าขุดคุ้ยอดีต บอกลวงโลกไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าเรื่องลวงโลกแล้วไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัวของเราก็ไม่ต้องไปสนใจ เผยยินดีให้อภัยนาธาน วอนเจ้าตัวกลับมาขอโทษประชาชน
ยังคงเป็นเรื่องราวที่หลายๆ คนยังคงจับตามอง หลังจากที่มีคนใกล้ชิดออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า “นาธาน โอร์มาน” ไม่ใช่ลูกครึ่งเนปาล หากแต่เป็นคนไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เกิดที่เนปาล ไม่ได้เรียนที่ดาร์จิงลิง เนปาล หากแต่เรียนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นลูกหลานชาวใต้ประเทศไทยแลนด์นี่แหละ ส่วนเรื่องโกฮอลลีวู้ดนั้นยังเป็นที่ลุ้นระทึกว่าจริงหรือหลอก
ล่าสุด “อ้น สราวุธ มาตรทอง” ก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า โดยส่วนตัวตนให้อภัยนาธาน วอนทุกคนอย่าขุดคุ้ยอดีต เผยถึงจะลวงโลกแต่ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของเราก็ไม่ควรไปสนใจ
“ผมไม่ได้ติดต่อกับธานนานแล้วครับ ผมก็ได้ข่าวเรื่องร้านของเขาจากหนังสือพิมพ์ แล้วได้ยินข่าวเรื่องทัวร์จากเพื่อน ก็เลยยังไม่ได้ติดต่อธาน แล้วก็เท่าที่รู้คือพี่ๆ นักข่าวที่เขาสนิทกับธาน นานๆ ก็ได้คุยกันทีเหมือนกัน แล้วผมก็เป็นคนไม่ได้ติดต่อใครบ่อยๆ คือเป็นคนห่างๆ แต่ว่าความรักมีให้ตลอด”
“คือเหมือนเราไม่ได้เจอกันนานๆ พอเจอกันก็แบบเฮ้ยพี่เป็นไง เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นว่าต้องคุยกันตลอดเวลา คือเป็นห่วงมากกว่า และสิ่งที่เรามีคือเราเป็นเพื่อนที่ไม่ค่อยได้ต่อเนื่อง ไม่ค่อยได้สม่ำเสมอมากมาย แต่หวังดี เป็นยังไงบ้าง เจริญก้าวหน้ารึเปล่า ได้ยินว่าเล่นหนัง ดีใจด้วยจะได้มีเงินใช้ เพราะว่าเท่าที่รู้คือธานก็ไม่มีตังค์นะครับตอนนั้น”
“แต่เรื่องหนังตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าสรุปมันเป็นยังไง แต่เท่าที่ได้รู้ความเคลื่อนไหวคือ ตกลงโทรไปเช็คแล้วเขาบอกว่าไม่มี ซึ่งถ้าไม่มีคือไม่มีจริงมั้ย หรือว่ามันเป็นการปิดความลับ เพราะเราไม่รู้กระบวนการทำงานของต่างประเทศนึกออกมั้ยครับ ก็รู้เท่าที่ทุกคนรู้ ผมคิดว่าทุกคนรู้มากกว่าผม ถ้าสัมภาษณ์เสร็จก็ช่วยโทรบอกผมด้วยว่ามันไปถึงไหนแล้ว ก็อยากรู้เหมือนกัน”
เผยว่าหนุ่ม “นาธาน” ที่ตนรู้จักเป็นคนดี และตนก็รักน้องคนนี้มาก พร้อมวอนสื่อว่าอย่าขุดคุ้ยมาก เชื่อทุกคนย่อมผิดพลาดกันได้
“ก็มีพี่นักข่าวโทรหาผม แล้วก็ถามว่าเป็นยังไงในฐานะที่สนิทกัน ก็บอกว่าจริงๆ แล้วผมว่าพี่ๆ น่าจะรู้มากกว่าผมด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้ข่าวที่ออกมาผมไม่ได้ตามตลอด ผมทำงาน ผมก็จะถามจากพี่ๆ นักข่าวนี่แหละว่าข่าวมันไปถึงไหนแล้ว แต่สิ่งที่เขาถามคือสิ่งที่ผมตอบได้ คือธานในมุมที่ผมรู้จักเป็นยังไง ผมก็บอกว่าเท่าที่ผมรู้จัก เขาเป็นน้องที่ใครรู้จักก็จะรักได้ คือมันก็ช่วยเหลือ มันก็เป็นเด็กที่จิตใจดี เป็นเด็กคนนึงน่ารักๆ แล้วก็ดูเป็นเด็กอ้อนๆ ดูแลคนอื่น”
“แต่พอมันเกิดเรื่องนี้ปุ๊บ อันดับแรกเลยคือผมมารู้ทีหลังว่าเกิดอะไรขึ้น จริงรึเปล่า ก็เลยให้พี่ๆ เช็คว่าตกลงอะไรกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่จำได้คือเท่าที่ผมเช็คกับพี่ๆ นักข่าว แต่เนื่องจากผมไม่ได้เจอนักข่าวบ่อยๆ แต่วันนี้ได้เจอก็อยากบอกว่าประเด็นที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธานหรือเป็นใครก็ตามนะครับ ผมมองว่าจะจริงหรือไม่จริงคือเรื่องที่เราต้องพิสูจน์ว่ามันคืออะไรกันแน่”
“แต่อีกสิ่งนึงคือผมฝากมนุษย์คนนึง เพราะว่าตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง แต่เท่าที่เรารู้เขาเป็นเด็กดี แต่ว่าอะไรที่มันเป็นข่าวขึ้นมา เป็นเรื่องของความถูกต้อง เช่นถ้าต้องฟ้องร้องหรือต้องแจ้งความ อันนั้นคงเป็นเรื่องที่ทำตามกฎหมายอะไรกันไป”
“แต่สำหรับอ้นจะฝากไปในเรื่องของว่า ขอให้เป็นเรื่องของที่เราจะต้องคิดว่าอะไรควรไม่ควร เพราะพี่ๆ ทุกคนถือปากกากันหมด ถ้าเกิดสมมติว่าเราไปล้วงลึกมากเกินไปในสิ่งที่บางทีเขาอาจจะไม่อยากเปิดเผยก็ได้ คือผมว่าทุกคนคงมีเรื่องที่เราเองก็ไม่อยากเล่า หรือว่ามีความหลังที่เราอาจจะอยากลืมแต่เขาไม่ได้บอก เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราไปขุดอะไรมากเกินไป ผมฝากว่ามนุษย์คนนึงจะอยู่ยังไง ฝากเรื่องนี้แล้วกัน”
โต้ข่าวที่มีกระแสว่าทั้งคู่มีเหตุให้ทะเลาะกันเรื่องหนังฮอลลีวูดนี้เป็นต้นเหตุ เพราะว่า “อ้น” เองก็มีรายชื่อให้ร่วมแสดงหนังเรื่องนี้ด้วย แต่กลับเป็น “นาธาน” ที่ได้รับเลือก จึงเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ต้องสะบั้นลง
“ไม่ได้ผิดใจอะไรกันเลยครับ เพิ่งรู้ข่าวนี้ก็วันนี้แหละ แต่จำไว้นะ ถ้าเรารักใครคนนึงจริงๆ ถ้าเขาเจริญก้าวหน้าเราดีใจ ไม่ต้องเป็นผมก็ได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ปัญหาคือผมแค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับธาน แล้วมันจะอยู่ยังไง นี่คือที่ห่วง คือผมไม่ได้สนใจเรื่องฮอลลีวูดจะเล่นหรือไม่เล่น คือชีวิตมีความสุขกับปัจจุบันพอแล้ว”
“ส่วนเรื่องลวงโลกเนี่ยผมได้ยินคำนี้นะครับ ผมจะไปห้ามใจคนได้ยังไงใช่มั้ย แต่อยากจะฝากนิดนึงว่า คงต้องดูๆ กันไปครับ ถ้าอะไรที่มันให้อภัยได้ก็ให้อภัยได้มั้ย แต่ถ้าอะไรที่เราไม่อยากจำก็อย่าไปจำครับ ผมว่าคนเราก็คงผิดพลาดกันได้ คงไม่มีใครไปถามธานหรอกตั้งแต่เริ่มต้นของชีวิตว่าอะไรคือจริงไม่จริง ในชีวิตเราบางทีเราก็อยากจะลืมในหลายๆ อย่าง”
“คือผมรู้จักธานจากหนังสือของเขาผมเป็นเด็กหลังเขา ผมว่าเด็กคนนี้น่ารัก แล้วก็สู้ชีวิต ผมชื่นชมคนที่สู้ชีวิต ผมจึงเป็นเพื่อนนาธาน แล้วผมก็รักมัน แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าถามผม ผมไม่โกรธ ผมแค่อยากรู้ว่าตอนนี้มันจะอยู่ยังไง มันก็เป็นเรื่องใหญ่นะสำหรับผม ผมว่ามันเป็นเรื่องใหญ่”
“แต่ก็อย่างที่บอกผมพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ แต่เอาเป็นว่าเท่าที่ผ่านมาที่คุณรู้จักนาธาน เขาทำอะไรดีๆ ให้คุณได้จำบ้างรึเปล่า ถ้าทำก็จำสิ่งนั้น อะไรที่เขาลวงโลก ลวงเราถ้ามันไม่เกี่ยวกับบ้านเรา หรือครอบครัวเรา หรือชีวิตเราก็อย่าไปสนใจมาก คนเรามันผิดพลาดกันได้ อันนี้ผมไม่ได้แก้ว่าเป็นนาธาน สมมติว่านี่คือสัมภาษณ์ผมเกี่ยวกับคนอื่นนะ ถ้าผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนดี และผมเป็นคนดีด้วย ผมชื่นชมนะ ผมจะพูดแบบนี้เหมือนกัน”
ฝากถึง “นาธาน” ว่าถ้าทำผิดก็ให้ออกมาขอโทษ เชื่อสื่อและประชาชนทุกคนพร้อมให้อภัยได้
“จากประสบการณ์ของผมนะ ผมว่าพี่ๆ ให้อภัยได้ คือมีหลายคนที่รักเขา และเขาคงทำสิ่งดีๆ ให้เราได้จดจำเยอะเหมือนกัน มองในความเป็นจริงนะ ถ้าธานจะหันกลับมาขอโทษ ผมว่าทุกคนพร้อมที่จะให้อภัยแหละ ไอ้เรื่องลวงโลกไม่ลวงโลกใช่มันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมันเป็นข่าวใหญ่ เพราะมันเป็นฮอลลีวูด แต่ถามว่าฮอลลีวูดมาให้เรากินมั้ยก็เปล่า เรามีแค่ตัวเรา ชีวิตเป็นของเรา เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้เล่นหนังฮอลลีวูดก็ช่างมัน ถ้าเกิดสมมติว่าไม่ได้เป็นดาราก็ช่างมัน ผมยังไม่คิดอะไรเลย”
“ถ้าวันนึงผมไม่ได้เป็นดารา ผมอาจจะไปขายลูกชิ้นก็ได้ หรืออาจจะไปเปิดบาร์เล็กๆ ริมทะเล มันไม่ใช่สิ่งที่สุดในชีวิตครับ ผมว่าชีวิตเราต้องเดินต่อนะครับ และเมื่อไหร่ที่เราหลุดจากที่เราแขวนตัวเองไว้กับบางสิ่งบางอย่างจนมันแน่นหนา เราจะสบายใจครับ อยากให้น้องสบายใจ แล้วก็อยากให้น้องประพฤติตัวดีๆ อ้นมั่นใจว่าพี่ๆ ทุกคนในนี้ยินดีจะให้โอกาสและก็ให้อภัย อะไรที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของน้องก็ไม่ยุ่ง แต่ถ้าเกิดว่าอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับพี่ๆ หรือว่าแฟนๆ ขอโทษก็น่าจะดี เพราะนี่ประเทศไทยครับ”