ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – “ดร.สุรชัย จิตภักดีบดินทร์” ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลาเผยเตรียมใช้เวที ประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26 ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย. ผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์แสนล้านเป็นวาระแรกของการพัฒนาภาคใต้ ซึ่งล่าสุดได้ “ดูไบ เวิร์ล” ลงพื้นที่ศึกษาแล้ว โดยเริ่มจากแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล พร้อมเสนอสร้างกาสิโนแห่งแรกของประเทศไทย ที่ อ.นาหม่อม เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวให้ตื่นจากความซบเซา พร้อมรับหน้าเสื่อสื่อสารคนในพื้นที่ให้เข้าใจ โดยได้นักวิชาการจากรั้ว มอ.หาดใหญ่ ศึกษาวิจัยทั้ง 2 เรื่อง ก่อนเตรียมบรรจุในสมุดปกขาวยื่นถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี
วิกฤตปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่งมีผู้บาดเจ็บล้มตายทุกวันนับแต่แต่ปี 2547 เป็นต้นมา โดยในปี 2551 ตั้งแต่เดือน มกราคม –กรกฎาคม มีรายงานผู้บาดเจ็บ 899 ราย และเสียชีวิต 218 ราย ขณะที่การดำรงชีวิตประจำวันยังได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นใจความปลอดภัย ค่าครองชีพสูง ฉุดให้ภาพรวมการลงทุนการเติบโตของเศรษฐกิจในภาคใต้ตอนล่างชะลอตัวเป็นเวลาต่อเนื่อง
ดร.สุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้า จ.สงขลา เปิดเผยว่า แม้ว่าที่ผ่านมาการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่างจะสะดุดด้วยปัญหาทั้งในพื้นที่ และการเมืองที่ไม่นิ่ง ทำให้การผลักดันโครงการเมกะโปรเจกต์ยังเป็นแค่แผ่นกระดาษ ตลอดจนมีการเปลี่ยนคณะรัฐบาลส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาความไม่สงบด้วย แต่ภาคเอกชนก็มิได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าว โดยได้ร่วมหารือแนวทางผลักดันพัฒนาเศรษฐกิจในโอกาสที่ จ.สงขลา เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 26 ประจำปี 2551 ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2551 และยื่นสมุดปกขาวซึ่งมีโครงการพัฒนาและกระตุ้นเศรษฐกิจใต้ให้แก่รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีรับพิจารณาและเร่งดำเนินการ
ในนามของหอการค้าไทยจะร่วมกันผลักดันโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ด เป็นวาระแรกของการพัฒนาภาคใต้ ซึ่งหอการค้าทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ได้มีมติเอกฉันท์ผลักดันให้เกิดแลนด์บริดจ์ (สะพานเศรษฐกิจ) ระหว่าง จ.สงขลา-สตูล ซึ่งเป็นงานโครงสร้างที่ใหญ่ระดับประเทศ ที่จะดึงการลงทุนด้านอุตสาหกรรมต่อจากภาคตะวันออก โดยจะมีการสร้างถนนระยะทาง 150 กิโลเมตรควบคู่ระบบรางรถไฟ และ Underground Pipe Line หรือระบบท่อขนส่งน้ำมันใต้ดินระยะทาง 140 กิโลเมตร เชื่อมการคมนาคมอ่าวไทย-อันดามัน โดยมีท่าเรือน้ำลึกหัว-ท้าย รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขนาดใหญ่ และย่นเส้นทางขนส่งตรงมายังไทยแทนที่จะอ้อมไปยังแหลมมะละกา ประเทศสิงคโปร์
“แม้ว่ายุทธศาสตร์ของโครงการนี้จะคิดกันมานานเป็นสิบๆ ปี เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านเราได้ แต่ความคืบหน้าก็ยังเป็นช้าเป็นเต่าล้านปี ต่อไปนี้หอการค้าจังหวัดสงขลาจะเป็นเจ้าภาพในการผลักดันโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนไป ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ระดมสมองเรื่องนี้เยอะมาก และได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทำวิจัยถึงความเป็นไปได้ ว่าแนวเส้นทาง 5A สงขลา-สตูล เหมาะสมเป็นแลนด์บริดจ์ของภาคใต้ มากที่สุด โดยบริษัท ดูไบ เวิลต์ ให้งบ 100 ล้านมาศึกษาเส้นทางแลนด์บริดจ์นั้น ยืนยันว่าเป็นการให้เปล่าโดยไม่มีข้อผูกพัน เช่นเดียวกับที่เคยช่วยเหลือหลายประเทศ และหากทราบผลการศึกษาแล้วไทยจะให้บริษัทอื่นดำเนินการหรือให้เขาดำเนินการต่อก็ได้” ดร.สุรชัย กล่าวต่อและว่า
นอกจากนี้ ในสมุดปกขาวที่จะส่งถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ยังบรรจุโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว จ.สงขลา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ทำวิจัยถึงความเป็นไปได้ไว้ด้วย คือ โครงการเปิดกาสิโนและเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งประกอบด้วยแหล่งชอปปิ้ง สวนสนุก สปา แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อสร้างจุดขายใหม่ๆ บนพื้นที่ 700 ไร่ อ.นาหม่อม จ.สงขลา ซึ่งเป็นที่ของเทศบาลนครหาดใหญ่ซื้อไว้เพื่อเตรียมเป็นที่ทิ้งขยะแห่งใหม่ แต่มีปัญหามวลชนในพื้นที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้
หอการค้าจังหวัดสงขลา จะขอเป็นผู้ทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งรับฟังการทำประชาพิจารณ์กับคนในพื้นที่ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อโครงการนี้ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของโครงการ ไม่ใช่หยั่งเสียงกับคนทั้งประเทศ เพราะที่นี่มีปัญหาที่แตกต่างจากพื้นที่อื่น ซึ่งหากประชาชนเห็นด้วยก็ต้องมีการศึกษาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม, ด้านสังคมเศรษฐกิจของชุมชน, ทหารที่จะเข้ามาดูแลในพื้นที่, ปัญหาเด็กแว้น และด้านเสนอเกี่ยวกับกฎหมายพิเศษที่รองรับการเปิดบ่อนกาสิโน เพราะจะต้องศึกษาที่ค่อนข้างครอบคลุมและสามารถเตรียมป้องกันปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
“สำหรับการเป็นเจ้าภาพการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ขณะนี้หอการค้าได้เตรียมตัวและสร้างความพร้อมในทุกๆ ด้าน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมและติดตามคณะร่วม 3,000 คน โดยจะเชิญนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ประธานหอการค้าและเลขาธิการหอการค้าทั้ง 76 จังหวัด, และประธานหอการค้าต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกงสุลจีน” ดร.สุรชัยกล่าวทิ้งท้าย