xs
xsm
sm
md
lg

สงขลาปูทางเจ้าภาพจัดประชุม IMT-GT รับปีท่องเที่ยว-ดันยอดคนเที่ยว 1 ล้านคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเป็นเจ้าภาพจัดประชุม IMT-GT และจัดงาน IMT-GT International Travel Fair 2008 สนับสนุนความร่วมมือ 3 ฝ่ายที่กำหนดให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว ผู้ว่าฯ สงขลา เผยตั้งเป้ายอดนักท่องเที่ยวเพิ่ม 30% หรือ 1 ล้านคน ให้ได้ภายในปีนี้ และปลุกให้เป็นเมืองหน้าด่านและศูนย์กลางเศรษฐกิจชายแดนใต้อีกครั้ง โดยสานต่อโครงการเมกะโปรเจกต์มอเตอร์เวย์ จากปาดังเบซาร์ สู่เมืองหาดใหญ่ ให้เกิดขึ้นในรัฐบาลหน้า ด้านสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวสงขลาเผยสายการบินต่างประเทศกำลังเจรจาเข้ามาลง เตรียมทวงตำแหน่งเป็นสนามบินนานาชาติ

วันนี้ (11 ม.ค.) ณ โรงแรม เจ.บี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางเป็นประธานเปิดงานประชุมสัมมนา VISIT IMT-GT 2008 ระหว่างวันที่ 11-13 มกราคม ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของโครงการสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) เพื่อเป็นการประสานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง 3 ประเทศ ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้พบปะพูดคุยหาแนวทางการร่วมมือพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศต่อไป

ดร.สนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ภายหลังจากการประชุมของ IMT-GT ระดับนานาชาติได้มีการเสนอสภา 3 ฝ่าย ผู้ว่าราชการจังหวัด และระดับมุขมนตรีรับทราบเห็นชอบให้กำหนดให้ปี 2008 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวในการประชุมเมื่อวันที่ 19 กันยายน ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมพัฒนาขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนประเพณีวัฒนธรรมทั้ง 3 ประเทศให้มากขึ้น โดยมีการแลกเปลี่ยนเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมการท่องเที่ยวของ 3 ประเทศตลอดทั้งปี การออกบูธแสดงสินค้าและบริการ เป็นต้น อันจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ

การจัดงานนี้ แน่นอนที่สุด 14 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.สงขลา ก็จะได้อานิสงส์ในด้านการท่องเที่ยวที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากขึ้น และเรียกความเชื่อมั่นให้ จ.สงขลา ได้กลับมาเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการคมนาคมอีกครั้งหนึ่ง โดย จ.สงขลา ตั้งเป้าว่า จะต้องมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 30% หรือ 1,000,000 ล้านคนในปีนี้ และเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 ในปีถัดไป การจัดงานครั้งนี้ได้แสดงถึงศักยภาพอันเข้มแข็งของภาคเอกชน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ชาวต่างชาติว่ารัฐบาลไทยเองพร้อมให้ความสนับสนุนความร่วมมือในทุกๆ ด้าน

“ทิศทางของสงขลาหลังจากนี้เราต้องร่วมกันยกระดับให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว และศูนย์กลางธุรกิจ การคมนาคมทางอากาศอีกครั้งหนึ่ง โดยมีหาดใหญ่เป็นเมืองหน้าด่าน ร่วมมือกับประเทศมาเลเซียพัฒนาเมืองชายแดนพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของมาเลเซียที่ต้องการส่งเสริมพัฒนารัฐปะลิส ให้เจริญเทียบเท่ากับส่วนอื่นของประเทศ ขณะที่รัฐบาลไทยเอง ไม่ว่าจะเป็นชุดนี้หรือชุดใหม่ก็ต้องสนใจสนับสนุนโครงการมอเตอร์เวย์ เชื่อมปาดังเบซาร์ เส้น อ.สะเดา-คลองหอยโข่ง ซึ่งมีความยาวประมาณ 60 กิโลเมตรอยู่แล้ว เพราะเป็นโครงการที่ให้ประโยชน์มาก และได้เตรียมความพร้อมกันมานานแล้ว แต่ต้องมีการประเมินราคาใหม่อีกครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง” ดร.สนธิ กล่าว

นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ ประธานสภาธุรกิจชายแดนใต้ เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นงานใหญ่ครั้งแรกของทั้ง 3 ประเทศที่ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยน เผยแพร่ และเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละประเทศได้เสนอกิจกรรมหลักในปีแห่งการท่องเที่ยว ประเทศละ 14 แห่ง ร่วม 42 โครงการ และเป็นจังหวะที่การท่องเที่ยวของชายแดนใต้ถดถอยด้วยปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

นอกจากนี้แล้ว ยังมีกิจกรรมงานแสดงสินค้า IMT-GT International Travel Fair 2008 ระหว่างวันที่ 11-20 มกราคม ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวร่วมออกบูธกว่า 63 ราย คาดว่า จะมีผู้เข้าชมทั้งไทยและต่างประเทศกว่าวันละ 10,000 คน

ด้านนายนิมิตร ชัยจีระธิกุล นายกสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวสงขลา เปิดเผยถึงการคมนาคมทางอากาศ ว่า ภายหลังจากสายการบินสุดท้าย คือ สิงคโปร์-หาดใหญ่ ได้หยุดบิน เนื่องจากต้องนำเครื่องบินไปเพิ่มในเส้นอื่นแทน ทำให้สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ไม่มีสายการบินเชื่อมโยงกับนานาชาติอีกเลย แต่ในปีนี้สายการบินชาร์เตอร์ไฟลต์ เส้นทางหาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ จำนวน 45 ที่นั่ง กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองเพื่อจะเปิดเส้นทางบินเชื่อมสู่หาดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวเข้าสู่สงขลาได้มากขึ้นปัญหาดังกล่าวก็ได้มีการรายงานให้ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้รับทราบและจะนำไปสู่การแก้ไขต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะฟื้นตัวจากวิกฤตความไม่สงบได้มากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐที่จะสนับสนุนการจัดกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยว และความเข้มแข็งของภาคเอกชนที่ร่วมช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามลำบาก ซึ่งขณะนี้ถือว่าทุกฝ่ายเข้มแข็งมาก เห็นได้จากมีกิจกรรมจัดทุกเทศกาลตลอดทั้งปี ทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับเห็นได้ชัดในไตรมาส 3 ของปี 2550 ที่ผ่านมา และยิ่งมีความร่วมมือของ IMT-GT ก็จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกฝ่ายทั้งระดับในภูมิภาคและระดับประเทศมากขึ้นด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น