นครศรีธรรมราช - นายก อบจ.นครศรีฯ อุ้มรองนายก มอบตัวฝ่ายปกครอง หลังถูกคดีเรียกค่าคุ้มครองเจ้าของสวนยาง-ขนคนนับร้อยให้กำลังใจ ทหารขนเอชเคซุ่มข้างโรงพัก ตร.ผวาเรียกถามรับถูกนายสั่งตามนายก อบจ.-นายอำเภอชะอวดมาแปลก โดดขอคุมคดีอ้างประชาชนให้ความสนใจ ผบก.มึนไม่เคยร่วมสอบแต่กลับขอคุมคดี
จากกรณีศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 384/2551 ลงวันที่ 3 พ.ย.51 ให้จับกุม นายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช โดยระบุความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสงคราม พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสงคราม ยิงปืนทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ ทำให้เสียทรัพย์ต่อพืชหรือพืชผลของกสิกร และพยายามกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น
จากข้อหาดังกล่าวเกิดจากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงกับคดี นายเจิม เส้งเอียด หรือที่รู้จักในฉายา “จอมโจรไข่หมูก” ได้ก่อคดีเรียกค่าคุ้มครอง นายกชกร แสงรุ่ง อดีตข้าราชการครู อายุ 50 ปี เลขที่ 79/1 ม.5 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของสวนยางรายใหญ่ใน อ.ชะอวด เป็นเงิน 2 ล้านบาท และนายเจิม หรือไข่หมูก ได้ถูกออกหมายจับแล้วเช่นกัน
ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 พ.ย.51 พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำกำลังพร้อมด้วยหมายจับของนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.และหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายเชื่อมโยงรวม 8 จุด สามารถยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 100 นัด รวมทั้งอาวุธปืนชนิดอื่นๆ อีกหลายรายการ ส่วนนายอนันต์นั้นไม่ปรากDตัวที่บ้านพัก และพยายามติดต่อขอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วานนี้
ความคืบหน้าเมื่อ 5 พ.ย.51 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ได้นำตัวนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เข้ามอบตัวกับนายไพศาล บุญล้อม นายอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ต่อมานายอำเภอได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัว บรรยากาศภายนอกนั้นพบว่ามีประชาชนจำนวนราว 100 คนเศษ อ้างว่ามาให้กำลังใจนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.
ขณะเดียวกัน นายไพศาล บุญล้อม นายอำเภอชะอวด ได้แจ้งต่อฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขอใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าเป็นผู้ควบคุมคดีในคดีนี้ โดยอ้างเหตุผลเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและเป็นอำนาจของฝ่ายปกครองที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย
ต่อมา พ.ต.ท.มนตรี ใจแกล้ว รอง ผกก.สส.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ไปรับตัวนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.มาดำเนินการตามขั้นตอน หลังจากบันทึกการรับมอบตัวเรียบร้อยแล้ว โดยนายอนันต์ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ก่อนที่จะยื่นขอประกันตัวผ่านทางนายอำเภอในฐานะผู้คุมคดี ซึ่งได้อนุมัติให้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ มูลค่า 9 แสนบาท โดยนายอนันต์ได้ใช้โฉนดที่ดินมูลค่า 9.5 แสนบาท ยื่นประกันตัวไป
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ขณะที่มีการดำเนินการตามขั้นตอนอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นรถยนต์ตู้สีขาว ทะเบียนกงจักร 6376 ภายในมีทหารในเครื่องแบบถืออาวุธปืนยาวอย่างเห็นได้ชัด จอดอยู่ภายในบริเวณสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าภายในมีทหารในเครื่องแบบ 3 นาย ถืออาวุธปืนเอชเค ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงจุดประสงค์ทหารดังกล่าวมีท่าทีอึกอักและจะออกรถไปจากโรงพัก แต่เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบถาม ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.พสิทธิ์ ญาณแก้ว จ.ส.อ.ณรงค์ ทองเรียง และ ส.อ.ทนงศักดิ์ ท่วงที ทั้งหมดสังกัดค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
ทั้ง 3 ระบุว่าได้รับมอบหมายจาก ผบ.ร้อย คือ ร.อ.ทนงศักดิ์ สร้อยจิต ผบ.ร้อย ให้ติดตามรักษาความปลอดภัยให้แก่นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ. หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่าหากจะพกพาอาวุธปืนร้ายแรงเช่นนี้เข้ามาในบริเวณสถานีตำรวจ ควรแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการเข้ามอบตัวนั้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน ในส่วนของทหารเข้าใจว่าคงจะไม่ทราบต้นสายปลายเหตุและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นคงถูกขอร้องให้มา และก็มาอย่างเรียบร้อยในเครื่องแบบชั้นประทวน ซึ่งเชื่อว่าทหารไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร
“กรณีนายอำเภอเข้ามาควบคุมคดีนี้ เข้าใจว่าเข้ามาคุมการสอบสวน ซึ่งนายอำเภอได้แจ้งให้ทราบแล้วและผมเห็นว่าหากเป็นช่องทางตามกฎหมายสามารถร่วมกันทำงานได้อย่างแน่นอน ซึ่งขั้นตอนการสอบสวนเข้าใจว่า อาจจะมีการส่งผลัดอำเภอหรือฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมในการสอบสวนด้วย แต่สิ่งที่ผมเห็นคือไม่ได้มีการเข้าร่วมสอบสวนตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นห่วงว่าความเกี่ยวเนื่องในคดีนี้ฝ่ายปกครองอาจจะไม่รู้เท่าที่ควร แต่เมื่อเป็นอำนาจหน้าที่ทางตำรวจยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ถูกต้อง” ผบก.นครศรีธรรมราชกล่าว
จากกรณีศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 384/2551 ลงวันที่ 3 พ.ย.51 ให้จับกุม นายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช โดยระบุความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสงคราม พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสงคราม ยิงปืนทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ ทำให้เสียทรัพย์ต่อพืชหรือพืชผลของกสิกร และพยายามกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น
จากข้อหาดังกล่าวเกิดจากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงกับคดี นายเจิม เส้งเอียด หรือที่รู้จักในฉายา “จอมโจรไข่หมูก” ได้ก่อคดีเรียกค่าคุ้มครอง นายกชกร แสงรุ่ง อดีตข้าราชการครู อายุ 50 ปี เลขที่ 79/1 ม.5 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของสวนยางรายใหญ่ใน อ.ชะอวด เป็นเงิน 2 ล้านบาท และนายเจิม หรือไข่หมูก ได้ถูกออกหมายจับแล้วเช่นกัน
ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 พ.ย.51 พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช นำกำลังพร้อมด้วยหมายจับของนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.และหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายเชื่อมโยงรวม 8 จุด สามารถยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 100 นัด รวมทั้งอาวุธปืนชนิดอื่นๆ อีกหลายรายการ ส่วนนายอนันต์นั้นไม่ปรากDตัวที่บ้านพัก และพยายามติดต่อขอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วานนี้
ความคืบหน้าเมื่อ 5 พ.ย.51 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ได้นำตัวนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เข้ามอบตัวกับนายไพศาล บุญล้อม นายอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ต่อมานายอำเภอได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัว บรรยากาศภายนอกนั้นพบว่ามีประชาชนจำนวนราว 100 คนเศษ อ้างว่ามาให้กำลังใจนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.
ขณะเดียวกัน นายไพศาล บุญล้อม นายอำเภอชะอวด ได้แจ้งต่อฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขอใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าเป็นผู้ควบคุมคดีในคดีนี้ โดยอ้างเหตุผลเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจและเป็นอำนาจของฝ่ายปกครองที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย
ต่อมา พ.ต.ท.มนตรี ใจแกล้ว รอง ผกก.สส.พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ไปรับตัวนายอนันต์ คลังจันทร์ รองนายก อบจ.มาดำเนินการตามขั้นตอน หลังจากบันทึกการรับมอบตัวเรียบร้อยแล้ว โดยนายอนันต์ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ก่อนที่จะยื่นขอประกันตัวผ่านทางนายอำเภอในฐานะผู้คุมคดี ซึ่งได้อนุมัติให้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ มูลค่า 9 แสนบาท โดยนายอนันต์ได้ใช้โฉนดที่ดินมูลค่า 9.5 แสนบาท ยื่นประกันตัวไป
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ขณะที่มีการดำเนินการตามขั้นตอนอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสังเกตเห็นรถยนต์ตู้สีขาว ทะเบียนกงจักร 6376 ภายในมีทหารในเครื่องแบบถืออาวุธปืนยาวอย่างเห็นได้ชัด จอดอยู่ภายในบริเวณสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่าภายในมีทหารในเครื่องแบบ 3 นาย ถืออาวุธปืนเอชเค ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงจุดประสงค์ทหารดังกล่าวมีท่าทีอึกอักและจะออกรถไปจากโรงพัก แต่เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบถาม ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.พสิทธิ์ ญาณแก้ว จ.ส.อ.ณรงค์ ทองเรียง และ ส.อ.ทนงศักดิ์ ท่วงที ทั้งหมดสังกัดค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
ทั้ง 3 ระบุว่าได้รับมอบหมายจาก ผบ.ร้อย คือ ร.อ.ทนงศักดิ์ สร้อยจิต ผบ.ร้อย ให้ติดตามรักษาความปลอดภัยให้แก่นายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ. หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่าหากจะพกพาอาวุธปืนร้ายแรงเช่นนี้เข้ามาในบริเวณสถานีตำรวจ ควรแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จากการเข้ามอบตัวนั้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน ในส่วนของทหารเข้าใจว่าคงจะไม่ทราบต้นสายปลายเหตุและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นคงถูกขอร้องให้มา และก็มาอย่างเรียบร้อยในเครื่องแบบชั้นประทวน ซึ่งเชื่อว่าทหารไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร
“กรณีนายอำเภอเข้ามาควบคุมคดีนี้ เข้าใจว่าเข้ามาคุมการสอบสวน ซึ่งนายอำเภอได้แจ้งให้ทราบแล้วและผมเห็นว่าหากเป็นช่องทางตามกฎหมายสามารถร่วมกันทำงานได้อย่างแน่นอน ซึ่งขั้นตอนการสอบสวนเข้าใจว่า อาจจะมีการส่งผลัดอำเภอหรือฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมในการสอบสวนด้วย แต่สิ่งที่ผมเห็นคือไม่ได้มีการเข้าร่วมสอบสวนตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นห่วงว่าความเกี่ยวเนื่องในคดีนี้ฝ่ายปกครองอาจจะไม่รู้เท่าที่ควร แต่เมื่อเป็นอำนาจหน้าที่ทางตำรวจยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ถูกต้อง” ผบก.นครศรีธรรมราชกล่าว