นครศรีธรรมราช - ผบช.ภ.8 ล้วงรังแตน ขนหน่วยปฏิบัติการพิเศษนับร้อยบุกค้นบ้านนายก อบจ.-อบต.คนดังพร้อมสมุน 9 จุดรวด เจอคลังแสงย่อยๆ ยึดไว้ตรวจสอบ - สั่งตั้ง กก.สอบสวนพบดาบตำรวจเบิกปืนหลวงคุ้มกันนายก อบจ.มั่ว-ประกาศสางบัญชีมือปืนเกือบ 1 พันรายใน ภ.8
วันนี้ (18 ต.ค.) เวลา 05.00 น. พล.ต.ต.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชย์อัตรา รอง ผบช.ภ.8 นายตำรวจระดับสูงจาก บชภ.8 และกำลังพลจาก กก.ศสส.ภ.8 เข้าสนธิกำลังกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษกลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.นครศรีธรรมราช รวมกว่า 200 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ได้แบ่งกำลังออกเป็น 9 ชุดปฏิบัติการโดยมีนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ พร้อมด้วยหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กระจายกำลังเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มบุคคลเป้าหมายรวม 9 จุดภายใน อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ท่าศาลา และ อ.สิชล โดยมีเป้าหมายหลักคือบ้านพักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ใน อ.ร่อนพิบูลย์ นายอภินันท์ เชาวลิต หรือ "นายกเอ" นายก อบต.ท่าศาลา และกลุ่มเครือข่ายคนใกล้ชิดของบุคคลทั้งสอง
ภายหลังจากการตรวจค้นชุดปฏิบัติการทั้ง 9 ชุดได้มีการตรวจยึดอาวุธปืน และเชิญตัวผู้ที่อยู่ภายในบ้านและครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวมาสอบสวนยังห้องประชุม บก.ภ.นครศรีธรรมราช โดยมีการระดมพนักงานสอบสวนจากทั้ง 3 อำเภอมาทำการสอบสวน
ผลจากการตรวจค้นนั้นได้ยึดอาวุธปืนจากบ้านพักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา และจากบ้านพักของคนใกล้ชิดทั้ง 9 จุด ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งอาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ลูกซองยาวออโตเมติค(ฟังค์กี้) อาวุธปืนเอชเค รวม 30 กระบอก เครื่องกระสุน และปลอกอาวุธปืนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มีการตรวจสอบเอกสารประจำปืนอย่างละเอียด
สำหรับนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 ได้เชิญมานั่งพุดคุยอย่างใกล้ชิด และมีการตรวจสอบถึงแมกกาซีนอาวุธปืนเอชเค และเครื่องกระสุนอีก 19 นัด ซึ่งตรวจค้นได้จากรถประจำตำแหน่งของนายวิฑูรย์ ส่วนอาวุธปืนเอชเคนั้น มีการตรวจยึดได้ที่บ้านพักของตำรวจชั้นประทวนคนหนึ่งสังกัด สภ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการตรวจค้นปรากฏว่า เมื่อตรวจสอบอาวุธปืนเอชเคนั้นเป็นปืนของทางราชการอยู่ในความดูแลของ สภ.ร่อนพิบูลย์ พล.ต.ต.สัณฐาน จึงเรียกจ่ากองผู้ให้เบิกอาวุธปืนและเครื่องกระสุน รวมทั้งตำรวจที่ได้เบิกไปปรากฏว่ามีบัญชีเบิกไปจริง แต่เบิกอาวุธปืนเอชเคพร้อมด้วยเครื่องกระสุน 40 นัด แมกกาซีน 1 อัน แต่เมื่อตรวจค้นรถของนายวิฑูรย์พบแมกกาซีนเพิ่ม 1 อันและเครื่องกระสุนเกินไป 19 นัด รวมทั้งตรวจค้นบ้านของนายวิฑูรย์แล้วพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.อีก 1 กระบอกมีทะเบียนเป็นชื่อของคนอื่นแต่อยู่ภายในความครอบครองของนายวิฑูรย์ โดยนายวิฑูรย์ได้เก็บไว้ในตู้เซฟ พล.ต.ท.สัณฐานจึงสั่งให้แจ้งข้อหานายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ทันที
ส่วนตำรวจที่เบิกอาวุธปืนดังกล่าวไปนั้นพบว่าเป็นตำรวจที่ถูกส่งมาช่วยราชการ ดูแลความปลอดภัยให้กับนายวิฑูรย์ ด้วยซึ่ง พล.ต.ท.สัณฐาน ได้สั่งให้กลับที่ตั้งนับเดือนแล้วและเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้ง ภ.8 แต่พบว่า ด.ต.คนดังกล่าวยังอยู่กับนายวิฑูรย์ พล.ต.ท.สัณฐาน ถึงกับออกอาการไม่พอใจสอบถามถึงส่วนเกินของเครื่องกระสุนปืนที่เบิกมานั้นมาจากไหน ด.ต.คนดังกล่าวตอบไม่ได้ พล.ต.ท.สัณฐานจึงให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทันที และหากพบว่ามีการขาดราชการเกิน 15 วันให้กรรมการสอบสวนเสนอให้ออกจากราชการทันทีเช่นกัน
ภายหลัง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า มูลเหตุในการตรวจค้นนั้นเกิดจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าหลายคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับบุคคลหลายคน จึงขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นทั้ง 9 จุดโดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกหน่วยพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งอาวุธปืนทั้งหมดที่ได้มาจากการตรวจค้นจากทั้ง 9 จุดนั้น เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานความเชื่อมโยงเกี่ยวพัน
"ทุกคนที่เราเชิญตัวมาเราจะแจ้งขอหาตามพยานหลักฐานที่ได้มา กระสุนปืนเอชเคนั้นพบว่าไม่ใช่เป็นกระสุนของทางราชการ และตำรวจที่มาอารักขาคุ้มกันนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหลายถูกสั่งให้กลับหมดแล้วแต่รายนี้ยังอยู่จึงสั่งตั้งกรรมการสอบสวน การปฏิบัติการเช่นนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการติดตามบัญชีมือปืนที่อยู่ในข่ายติดตามขณะนี้มีเกือบ 1 พันรายในส่วนของภูธรภาค 8" ผบช.ภ.8กล่าว
วันนี้ (18 ต.ค.) เวลา 05.00 น. พล.ต.ต.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชย์อัตรา รอง ผบช.ภ.8 นายตำรวจระดับสูงจาก บชภ.8 และกำลังพลจาก กก.ศสส.ภ.8 เข้าสนธิกำลังกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษกลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.นครศรีธรรมราช รวมกว่า 200 นาย พร้อมอาวุธครบมือ ได้แบ่งกำลังออกเป็น 9 ชุดปฏิบัติการโดยมีนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ พร้อมด้วยหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กระจายกำลังเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มบุคคลเป้าหมายรวม 9 จุดภายใน อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ท่าศาลา และ อ.สิชล โดยมีเป้าหมายหลักคือบ้านพักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ใน อ.ร่อนพิบูลย์ นายอภินันท์ เชาวลิต หรือ "นายกเอ" นายก อบต.ท่าศาลา และกลุ่มเครือข่ายคนใกล้ชิดของบุคคลทั้งสอง
ภายหลังจากการตรวจค้นชุดปฏิบัติการทั้ง 9 ชุดได้มีการตรวจยึดอาวุธปืน และเชิญตัวผู้ที่อยู่ภายในบ้านและครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวมาสอบสวนยังห้องประชุม บก.ภ.นครศรีธรรมราช โดยมีการระดมพนักงานสอบสวนจากทั้ง 3 อำเภอมาทำการสอบสวน
ผลจากการตรวจค้นนั้นได้ยึดอาวุธปืนจากบ้านพักของนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา และจากบ้านพักของคนใกล้ชิดทั้ง 9 จุด ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งอาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ลูกซองยาวออโตเมติค(ฟังค์กี้) อาวุธปืนเอชเค รวม 30 กระบอก เครื่องกระสุน และปลอกอาวุธปืนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มีการตรวจสอบเอกสารประจำปืนอย่างละเอียด
สำหรับนายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 ได้เชิญมานั่งพุดคุยอย่างใกล้ชิด และมีการตรวจสอบถึงแมกกาซีนอาวุธปืนเอชเค และเครื่องกระสุนอีก 19 นัด ซึ่งตรวจค้นได้จากรถประจำตำแหน่งของนายวิฑูรย์ ส่วนอาวุธปืนเอชเคนั้น มีการตรวจยึดได้ที่บ้านพักของตำรวจชั้นประทวนคนหนึ่งสังกัด สภ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการตรวจค้นปรากฏว่า เมื่อตรวจสอบอาวุธปืนเอชเคนั้นเป็นปืนของทางราชการอยู่ในความดูแลของ สภ.ร่อนพิบูลย์ พล.ต.ต.สัณฐาน จึงเรียกจ่ากองผู้ให้เบิกอาวุธปืนและเครื่องกระสุน รวมทั้งตำรวจที่ได้เบิกไปปรากฏว่ามีบัญชีเบิกไปจริง แต่เบิกอาวุธปืนเอชเคพร้อมด้วยเครื่องกระสุน 40 นัด แมกกาซีน 1 อัน แต่เมื่อตรวจค้นรถของนายวิฑูรย์พบแมกกาซีนเพิ่ม 1 อันและเครื่องกระสุนเกินไป 19 นัด รวมทั้งตรวจค้นบ้านของนายวิฑูรย์แล้วพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.อีก 1 กระบอกมีทะเบียนเป็นชื่อของคนอื่นแต่อยู่ภายในความครอบครองของนายวิฑูรย์ โดยนายวิฑูรย์ได้เก็บไว้ในตู้เซฟ พล.ต.ท.สัณฐานจึงสั่งให้แจ้งข้อหานายวิฑูรย์ เดชเดโช นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ทันที
ส่วนตำรวจที่เบิกอาวุธปืนดังกล่าวไปนั้นพบว่าเป็นตำรวจที่ถูกส่งมาช่วยราชการ ดูแลความปลอดภัยให้กับนายวิฑูรย์ ด้วยซึ่ง พล.ต.ท.สัณฐาน ได้สั่งให้กลับที่ตั้งนับเดือนแล้วและเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้ง ภ.8 แต่พบว่า ด.ต.คนดังกล่าวยังอยู่กับนายวิฑูรย์ พล.ต.ท.สัณฐาน ถึงกับออกอาการไม่พอใจสอบถามถึงส่วนเกินของเครื่องกระสุนปืนที่เบิกมานั้นมาจากไหน ด.ต.คนดังกล่าวตอบไม่ได้ พล.ต.ท.สัณฐานจึงให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทันที และหากพบว่ามีการขาดราชการเกิน 15 วันให้กรรมการสอบสวนเสนอให้ออกจากราชการทันทีเช่นกัน
ภายหลัง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า มูลเหตุในการตรวจค้นนั้นเกิดจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าหลายคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับบุคคลหลายคน จึงขออนุมัติหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นทั้ง 9 จุดโดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกหน่วยพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งอาวุธปืนทั้งหมดที่ได้มาจากการตรวจค้นจากทั้ง 9 จุดนั้น เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานความเชื่อมโยงเกี่ยวพัน
"ทุกคนที่เราเชิญตัวมาเราจะแจ้งขอหาตามพยานหลักฐานที่ได้มา กระสุนปืนเอชเคนั้นพบว่าไม่ใช่เป็นกระสุนของทางราชการ และตำรวจที่มาอารักขาคุ้มกันนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหลายถูกสั่งให้กลับหมดแล้วแต่รายนี้ยังอยู่จึงสั่งตั้งกรรมการสอบสวน การปฏิบัติการเช่นนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการติดตามบัญชีมือปืนที่อยู่ในข่ายติดตามขณะนี้มีเกือบ 1 พันรายในส่วนของภูธรภาค 8" ผบช.ภ.8กล่าว
