xs
xsm
sm
md
lg

อธิบดีกรมป่าไม้ลงกระบี่ตามคดีนายทุนลอบตัดไม้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - อธิบดีกรมป่าไม้ลงพื้นที่กระบี่ ติดตามคืบหน้าคดีนายทุนรายใหญ่ลอบตัดไม้ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดรักษาป่าในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เผยฤดูแล้งขบวนการทำลายป่าไม้จะเพิ่มมากขึ้น เตรียมจัดซื้อปืนให้เจ้าหน้าที่ป้องกันตัว

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 พ.ย.) นายสัมชัย เพียรสภาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เดินทางตรวจราชการที่สำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 17 จังหวัดกระบี่ เพื่อมอบนโยบายในการทำงาน รวมทั้งการติดตามการทำงานของหน่วยงานในสังกัด มีนายเชิดวิทย์ คงมีสุข ผอ.สำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 17 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยต่างๆในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ให้การต้อนรับ

นายสัมชัย เพียรสภาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เป็นไปตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ที่ต้องการให้อธิบดีเข้ามาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ก็เริ่มเข้าสู่หน้าแล้ง ทางกรมป่าไม้ได้ประเมินสภาการณ์น่าจะมีแนวโน้มในการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าเพิ่มมากขึ้นและค่อนข้างที่จะรุนแรง

นายสมชัย ยังได้กล่าวอีกว่า นอกจากมอบนโยบายแล้ว ยังติดตามในเรื่องความคืบหน้าของคดีที่มีการลักลอบตัดไม้รายใหญ่ซึ่งมีการจับกุมเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา โดยหน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้จังหวัดกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ กบ.5 ปลายพระยา เจ้าหน้าที่ ตชด.426 กระบี่ ในพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติฯ หมู่ที่ 6 ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมของกลางท่อนไม้ซุงทั้งหมด รวม 84 ท่อน ประกอบด้วย ไม้เต็งรัง ไม้ตะเคียนหิน ไม้ช้างแหก และไม้สักภูเขา

พร้อมยึดรถ บรรทุกสิบล้อ 6 คัน รถบรรทุก 6 ล้อ 5 คัน และรถกระบะ 5 คัน รถแบ็กโฮไว้อีก 1 คัน เลื่อยโซ่ยนต์ อีก 3 เครื่อง พร้อมผู้ต้องหารวม 8 คน ซึ่งเป็นการจับกุมขบวนการลักลอบตัดไม้รายใหญ่ที่สุดในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และเป็นที่สนใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นที่จะต้องลงมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่รวมทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติมไว้ประกอบรูปคดี

โดยรัฐมนตรีฯขอให้กรมป่าไม้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะมีข้อมูลมากพอในการเอาผิดกับขบวนการตัดไม้กลุ่มนี้ นอกเหนือจากรายงานที่ส่งไป ก็คงจะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เข้ามาช่วยเหลือดูแลในคดีนี้ด้วย ในส่วนของการขยายผลนั้นเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทุกคน จะต้องดำเนินการขั้นเด็จขาด ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน ก็คงจะต้องทำงานกันเป็นทีม ซึ่งทางกรมป่าไม้ก็จะขอความร่วมมือจากกองทัพภาค 4 เพื่อให้สอบสวนหาผู้บ่งการอยู่เบื้องหลังคดีนี้ด้วย

ต่อไปนี้ทางเจ้าหน้าที่จะประสานการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายทหาร เพราะว่ามีข้อตกลงระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯและกองทับบก ในการทำงานอยู่แล้ว แต่การทำงานของกรมป่าไม้นั้นไม่ได้เน้นการป้องปราบปรามอย่างเดียว ยังเน้นในเรื่องของการติดตามข่าวสารร่วมกับมวลชนและหลายฝ่ายในการทำงานร่วมกัน

อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในอนาคตกรมป่าไม้จะมีการซื้ออาวุธปืนให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งเป็นอาวุธปืนลูกซองซึ่งมีระบบการทำงานที่ทันสมัยกว่าปืนลูกซองที่เคยใช้ แต่ไม่ได้เอามาใช้เป็นอาวุธในการปราบปรามใครทั้งสิ้น แต่เอามาเพื่อป้องกันตัวเองเวลาออกพื้นที่ปฏิบัติงานในตอนกลางคืน
กำลังโหลดความคิดเห็น