xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯกระบี่ลุยจับนายทุนรุกป่ากำชับ จนท.ดำเนินคดีถึงที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - ผู้ว่าฯกระบี่ ลุยเองจับนายทุนรุกป่า ยึดของกลางรถแบ็กโฮ 1 คัน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีถึงที่สุด

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (20 พ.ค.) นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายทศพร โชติช่วง รก.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดกระบี่ นายเผชิญ โมฬี นักวิชาการ 7 สำนักจัดการป่าไม้ที่ 17 จังหวัดกระบี่ นายจีรศักดิ์ ชูศรี เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า จังหวัดกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท้องที่หมู่ที่ 5 ตำบลทับปริก ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อ พื้นที่ตำบลเขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ หลังจากที่มีผู้บุกรุกเข้าปรับถนนขึ้นไปบนเนินเขา ระยะทางประมาณ 300 เมตร กว้าง 2 เมตร เพื่อขึ้นปรับพื้นที่ด้านบนเนินเขา เนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน มีการปรับพื้นที่ขึ้นไปแล้วบางส่วน พร้อมตรวจยึดรถแบ็กโฮไว้ 1 คัน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา ประมาณ 21.30 น.ได้มีรถแบ็กโฮคันดังกล่าว เข้าทำการปรับพื้นที่ป่า ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่า ต.ทับปริก และ ป่า ต.เขาคราม หลังรับแจ้ง จึงได้สนธิกำลังกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าทำการจับกุม ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบผู้ต้องหา กำลังขับรถแบ็กโฮเพื่อปรับพื้นที่อยู่บนเนินเขา แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาจึงได้ขับรถแบ็กโฮ ลงมา เพื่อหลบหนี

โดยวิ่งสวนทางมา เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปขวางก็พุ่งเข้าใส่ทันที จากนั้นก็ลงจากรถแล้ว วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดรถแบ็คโฮไว้ ส่วนผู้ต้องหายังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่ข้างรถแบ็คโฮ มี ชื่อเจ้าของรถ เขียนว่า “โกมุ่ง พร้อม เบอร์โทร.” ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายศิวะ ศิริเสาลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวภายหลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีการบุกรุกว่า ในการดำเนินการจับกุมครั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่นั้นมีส่วนช่วยเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น จะต้องมีมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อป้องกันไม่ให้มีการ กลับมาบุกรุกพื้นที่อีก โดยจะมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด และถ้าหากว่าผู้ต้องหาหลุดพ้น คดีความ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ เพราะการที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้นั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ทางจังหวัด ว่ารัดกุมมากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการขั้นเด็ดขาด ทำให้มีการบุกรุกน้อยลงไปมาก โดยเฉพาะรายใหญ่ๆ ก็ไม่ค่อยมี มีเพียงรายเล็กๆ เท่านั้น ส่วนการทำลายผลอาสินในพื้นที่ที่มีการบุกรุกนั้น ถ้าหากตรวจสอบพบว่าอยู่ในเขตป่าไม้ หรือเขตอุทยาน ก็จะต้องดำเนินการทำลายผลอาสินทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น