xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านคลองนิลผวา อบต.สั่งรื้อบ้านภายใน 30 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระบี่ - ชาวบ้านคลองนิล อำเภอเกาะลันตา นอนผวา ถูกใบสั่ง อบต.เกาะลันตาใหญ่ ให้รื้อบ้าน ภายใน 30 วัน ทั้งที่อาศัยมากว่า 3 ชั่วอายุคน

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายสานันท์ แก้วอินทร์ ตัวแทนชาวบ้าน ในท้องที่ หมู่ที่ 6 บ้านคลองนิน ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ว่า ขณะนี้ชาวบ้านคลองนิน 18 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ได้มีคำสั่งให้ชาวบ้านรื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 (กรณีก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร กระทำผิดไปจากที่ได้รับอนุญาต หรือไม่ได้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น) ให้รื้อถอนอาคารทั้งหมด ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง จนชาวบ้านนอนไม่หลับเพราะไม่ทราบว่าวันใด ทาง อบต.จะมาทำการรื้อถอนบ้านออก ทั้งที่บ้านที่อาศัยอยู่ ปัจจุบันนี้ได้ตกทอดมาถึง 3 ชั่วอายุคน รวมระยะเวลา กว่า 70 ปี

นายสานันท์ กล่าวด้วยว่า จากคำสั่ง อบต.เกาะลันตาใหญ่ ให้รื้อถอนบ้านดังกล่าว ทางชาวบ้านที่เดือดร้อน ได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือขออุทธรณ์คำสั่ง เจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ผ่านนายอารมณ์ เกื้อชาติ นายก อบต.เกาะลันตาใหญ่ ถึงประธานคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 51 ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต.เป็นผู้รับหนังสือแทน ซึ่งสาเหตุที่ต้องยื่นขออุทธรณ์คำสั่ง เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับคำสั่งที่ ทาง อบต.เกาะลันตาใหญ่ ให้รื้อถอนบ้าน ตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะบ้านของชาวบ้านบางรายในจำนวน 18 หลัง ปลูกอยู่ในที่ดินที่เป็นมรดกตกทอด และที่สำคัญ พื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ เป็น ส.ค.1 มีการทำประโยชน์ในที่ดินเรื่อยมา ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานส่วนท้องถิ่นให้รื้อถอนบ้าน โดยมิได้มีการสอบถามมาก่อนจึงเป็นคำสั่งที่ไม่มีเหตุผล และไม่เป็นธรรม

นายบุญเชิญ ชุ่มชื่น ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้กล่าวว่า หลังจากที่ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์ กับ อบต.เกาะลันตาใหญ่ แล้วต่อจากนี้ไปก็คงต้องรอคำสั่งจาก อบต.ว่าจะรับอุทธรณ์หรือไม่ และว่าที่ผ่านมาก่อนที่จะมีคำสั่งให้รื้อถอนบ้าน ทาง อบต.ก็ไม่ได้มีการเข้ามาตรวจสอบ หรือสอบถามชาวบ้านแต่อย่างใด ว่าที่ดินที่อาศัยอยู่ปัจจุบัน เป็นที่บุกรุก หรือว่าเป็นที่ดินมรดก แต่คิดว่า ทาง อบต.คงจะทราบดี เพราะเป็นคนในพื้นที่ แต่ที่ต้องให้ชาวบ้านรื้อถอนอาจจะมีการร้องเรียนจากนายทุนที่มีที่ดินอยู่ใกล้เคียง เพราะบ้านของชาวบ้านทุกหลัง ที่ถูกคำสั่งให้รื้อถอนอยู่ติดชายหาด อาจจะไปบดบังทัศนียภาพของโรงแรมของนายทุนก็เป็นได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหา และถึงแม้ว่าการขออุทธรณ์ ไม่เป็นผล ทางชาวบ้านก็จะไม่รื้อไม่ย้าย เพราะไม่รู้จะย้ายไปไหน

นายดลหมาน รายาศาสตร์ ชาวบ้านที่ถูกอบต.ให้รื้อบ้านอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า ที่ดินที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันเป็นมรดกตกทอดมาจากบิดา โดยมีเอกสารสิทธิ์เป็น ส.ค.1 ต่อมาได้มีถนนถนนตัดผ่าน ทำให้ที่ดินแยกเป็น 2 แปลง ด้านหนึ่งติดทะเล อีกด้านหนึ่งติดที่ดินดอน อยู่มาก็ได้ขายที่ดิน ที่ติดดินดอนไป เหลือแต่ที่ติดทะเล ก็ได้สร้างบ้านอยู่อาศัยเรื่อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.17 และเคยไปขอออกโฉนด แต่ทางราชการบอกว่าไม่ต้องออกก็ได้เพราะเป็นหัวไร่ปลายนา แต่อยู่ๆก็ได้ มีคำสั่งจาก อบต.ให้รื้อถอนบ้าน เมื่อต้อนเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา สิ้นสุด ภายใน 30 วัน ซึ่งก่อนครบกำหนด ทางชาวบ้านที่ถูกคำสั่งให้รื้อถอนก็ได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์ไปแล้ว และว่า อบต.เพิ่งมีไม่กี่ปีที่ผ่านมา ควรจะถามคนอยู่อาศัยก่อน ไม่ใช่อยู่มาติดหนังสือที่ประตูบ้านแล้วบอกว่าให้ย้ายออกภายใน 30 วัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวคงจะต้องสู้ให้ถึงที่สุด

นายหิรัญ ดินแดง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมีคำสั่ง ให้ชาวบ้านรื้อถอนบ้านออกจากที่ดังกล่าว เนื่องจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่ ได้รับแจ้งจากนายอำเภอเกาะลันตาให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ..2525 กับบุคคลที่ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่สาธารณะบริเวณหาดคลองนิน หมู่ที่ 6 ต.เกาะลันตาใหญ่ ตั้งแต่ถนนเลียบชายหาดจากสถานีตรวจอากาศไปยังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งเป็นการก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านอย่างที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น