ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ส.ส.ภูเก็ตเตือนประชาชนดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง เตรียมรับมือวิกฤตท่องเที่ยวอีกครั้ง พร้อมระดมความเห็นแก้ปัญหาท่องเที่ยว 3 พ.ย.นี้
นายทศพร เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จังหวัดภูเก็ต ในฐานะรองประธานกรรมาธิการท่องเที่ยว เปิดเผยถึง ภาวะวิกฤตการท่องเที่ยวว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกแล้ว เนื่องจากจะเห็นว่านักท่องเที่ยวเกาหลี ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศยกเลิกการเดินทางมาเที่ยวในภูเก็ต จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจล่มที่ประเทศอเมริกา ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประเทศแถบยุโรป ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเดิมที่มาท่องเที่ยวในภูเก็ต ดังนั้น จึงต้องมีมาตราการในการแก้ไขวิกฤตครั้งนี้โดยเร่งด่วน
ในขณะเดียวกันอนุกรรมาธิการท่องเที่ยว ได้มีแนวทางในการระดมความคิดทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้วิกฤตท่องเที่ยวในวันที่ 3 พฤศจิกายนศกนี้ เพื่อหาแนวแก้ไขปัญหา และหาแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อดึงให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังมีกำลังซื้อ เช่น ยุโรปตะวันออก รัสเซีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย อาหรับ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินไม่มากนัก ได้เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เพื่อชดเชยกับกลุ่มตลาดเดิม
“กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ควรมีการส่งเสริมให้มีการฝึกภาษา ศึกษาวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อเตรียมรับมือในฤดูกาลหน้า” นายทศพรกล่าว และกล่าวต่ออีกว่า
สำหรับประชาชน และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว ควรมีการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาทกับการใช้จ่าย หากเราดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต ในฐานะรองประธานกรรมาธิการแรงงาน ได้กล่าวเสริมอีกว่า การผลักดันแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวจะช่วยส่งผลดีให้กับผู้ใช้แรงงานที่เกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากหากมีผลกระทบกับการท่องเที่ยว จนทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ พนักงานต้องประสบกับปัญหาการว่างงาน และทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งขาดความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชาชน
ดังนั้น ภาคเอกชนจะหวังพึ่งรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ภาคเอกชนต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างเช่น จัดงานออกบูธ หรือโรดโชว์ต่างประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และพยายามหาฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ เพื่อชดเชยฐานลูกค้าเดิมที่ได้รับผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องเข้ามาดูแลปัญหานี้อย่างเต็มที่ จึงจะทำให้ทุกภาคส่วน ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
นายทศพร เทพบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จังหวัดภูเก็ต ในฐานะรองประธานกรรมาธิการท่องเที่ยว เปิดเผยถึง ภาวะวิกฤตการท่องเที่ยวว่า ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกแล้ว เนื่องจากจะเห็นว่านักท่องเที่ยวเกาหลี ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศยกเลิกการเดินทางมาเที่ยวในภูเก็ต จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจล่มที่ประเทศอเมริกา ซึ่งจะส่งผลกระทบกับประเทศแถบยุโรป ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเดิมที่มาท่องเที่ยวในภูเก็ต ดังนั้น จึงต้องมีมาตราการในการแก้ไขวิกฤตครั้งนี้โดยเร่งด่วน
ในขณะเดียวกันอนุกรรมาธิการท่องเที่ยว ได้มีแนวทางในการระดมความคิดทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้วิกฤตท่องเที่ยวในวันที่ 3 พฤศจิกายนศกนี้ เพื่อหาแนวแก้ไขปัญหา และหาแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อดึงให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังมีกำลังซื้อ เช่น ยุโรปตะวันออก รัสเซีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย อาหรับ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินไม่มากนัก ได้เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เพื่อชดเชยกับกลุ่มตลาดเดิม
“กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ควรมีการส่งเสริมให้มีการฝึกภาษา ศึกษาวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อเตรียมรับมือในฤดูกาลหน้า” นายทศพรกล่าว และกล่าวต่ออีกว่า
สำหรับประชาชน และพนักงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว ควรมีการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาทกับการใช้จ่าย หากเราดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต ในฐานะรองประธานกรรมาธิการแรงงาน ได้กล่าวเสริมอีกว่า การผลักดันแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวจะช่วยส่งผลดีให้กับผู้ใช้แรงงานที่เกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยว เนื่องจากหากมีผลกระทบกับการท่องเที่ยว จนทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ พนักงานต้องประสบกับปัญหาการว่างงาน และทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่อง ซึ่งขาดความมั่นคงในการดำรงชีวิตของประชาชน
ดังนั้น ภาคเอกชนจะหวังพึ่งรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ภาคเอกชนต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างเช่น จัดงานออกบูธ หรือโรดโชว์ต่างประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และพยายามหาฐานลูกค้ารายใหม่ ๆ เพื่อชดเชยฐานลูกค้าเดิมที่ได้รับผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต้องเข้ามาดูแลปัญหานี้อย่างเต็มที่ จึงจะทำให้ทุกภาคส่วน ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง