xs
xsm
sm
md
lg

5 ปท.อาเซียนเดินหน้าแก้หมอกควันอินโดฯ-สั่งเฝ้าระวังเข้มแม้ ASMC ระบุเกิดน้อยในปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - 5 ประเทศอาเซียน เดินหน้าความร่วมมือแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนจากอินโดฯ เฝ้าระวังและป้องกันอย่างใกล้ชิด แม้ศูนย์เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาแห่งอาเซียนจะพยากรณ์ว่าหมอกควันในปีนี้จะมีปริมาณน้อยกว่าจากปีที่แล้วเพราะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและอากาศชื่นก็ตาม

วันนี้ (22 ต.ค.) ที่โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ท กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม 5 ประเทศ เรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 6 (The MSC) โดยมีรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและผู้แทนจากประเทศสมาชิก ประกอบด้วย บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ผู้แทนจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อกำหนดนโยบายและติดตามการดำเนินงานด้านการแก้ไขปัญหาไฟและหมอกควันในภูมิภาค โดยเฉพาะไฟและหมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าพรุของอินโดนีเซีย

โดยภายหลังการประชุม Mrs. Masnellyarti Hilman รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม อินโดนีเชีย เป็นประธานแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีสิ่งแวลด้อมของทั้ง 5 ประเทศ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น มี นางนิศากร โฆษิตรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วม ว่า

ที่ประชุมได้แสดงความชื่นชมความพยายามร่วมกันของประเทศสมาชิกในการแก้ไขปัญหา และยืนยันที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ ต่อไป

ศูนย์เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมสวิทยาแห่งอาเซียน (ASEAN Specialised Meteorological Centre:ASMC) ประเทศสิงคโปร์ ได้รายงานการพยากรณ์สภาพอุตุนิยมวิทยาในภูมิภาค ว่า ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า จะมีปริมาณน้ำฝนในระดับปกติและสูงกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดไฟและหมอกควันในภูมิภาคได้ ทำให้ปีนี้มั่นใจได้ว่าหมอกควันที่จะเกิดขึ้นน้อยกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีของประเทศสมาชิกมีมติพ้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องยังคงดำเนินการมาตรการเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการเกิดไฟและหมอกควันต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดสถานการณ์มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาค

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ ASMC จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางในการรายงานข้อมูลเกี่ยวข้อง การใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในการติดตามการกระจายตัวของหมอกควัน โดยอาศัยข้อมูลปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นหนึ่งในปัจจัยในการติดตามสถานการณ์ ซึ่งสิงคโปร์กำหนดจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในต้นปี 2009

รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมจากประเทศสมาชิกได้แสดงความชื่นชมประเทศอินโดนีเซียในความสำเร็จของการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแห่งชาติอินโดนีเซีย เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ซึ่งอินโดนีเซียสามารถลดจำนวน Hotspot ลงเหลือต่ำกว่า 50% ของจำนวน Hotspot ในปี 2549 ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการ นอกจากนี้ ยังพบ Hotspot จำนวนมากในบางช่วงเวลา แต่ไม่พบการปกคลุมของหมอกควันแต่อย่างใด ซึ่งเป็นมาจากทั้งสภาพอากาศที่มีความชื้นมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และการดำเนินการในการดับไฟอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงทีก่อนที่จะเกิดหมอกควันหนาแน่นจากไฟดังกล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบแผนงาน/มาตรการที่อินโดนีเซียได้ริเริ่มดำเนินงานเพื่อเพิ่มความพยายามและความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมไฟบนดินและไฟป่า ได้แก่ การสร้างความร่วมมือระหว่างจังหวัดในสุมาตราในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ การเฝ้าระวังสถานการณ์โดยใช้ข้อมูลจุด Hotspot การเฝ้าระวังและติดตามปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก การรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อลดและเลิกเผาในพื้นที่เสี่ยงของการเกิดไฟ การสาธิตและพัฒนาศักยภาพของพนักงานดับไฟ เป็นต้น

รวมทั้งความร่วมมือในลักษณะทวิภาคี ระหว่าง สิงคโปร์-อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย-อินโดนีเซีย เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาไฟและหมอกควันในอินโดนีเซีย โดยทั้งสองประเทศได้เลือกเมืองที่มีปัญหาในอินโดนีเซียเพื่อเข้าไปร่วมวางแผนในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนให้ทุนสนับสนุนในการดำเนินกิจกรรมตามแผน ในลักษณะเมืองตัวอย่างเพื่อใช้เป็นแบบอย่างสำหรับเมืองอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ สิงคโปร์มีแผนในการพัฒนาศักยภาพในการจัดการป่าพรุอย่างยั่งยืน และส่งเสริมอาชีพทางเลือกให้แก่เกษตรกร เช่น การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นต้น ส่วนมาเลเซียมีแผนในการพัฒนาบุคลากรในการฟื้นฟูป่าพรุที่ถูกทำลาย การส่งเสริมเทคนิคการเกษตรปลอดการเผา การสนับสนุนกาติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเพิ่มเติมในอินโดนีเซีย

โดยการประชุม MSC ครั้งต่อไปนั้น ในเบื้องต้นได้กำหนดในเดือนเมษายน หรือพฤษภาคม 2552 นี้ ที่ประเทศบรูไน


กำลังโหลดความคิดเห็น