วันนี้ (29 มิ.ย) ที่สถานีตำรวจภูธรกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม และประธานคระกรรมการติดตามการบังคับใช้กฎหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมหาหรือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สิ่งแวดล้อมจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกมลา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ก่อนมอบหมายให้นายองอาจ ชนะชาญมงคล ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 17 เข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกมลาเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัทเอกชนที่เข้าไปก่อสร้างบ้านพักหรูในพื้นที่ถนน ฮายิ-นาคาเล หมู่ที่ 6 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตจำนวน 2 โครงการ
พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวถึงการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลและแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนที่สร้างบ้านพักหรูบนที่สูงเกิน 80 เมตร และอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวน ว่า จากการที่ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีการกระทำผิดกฎหมายในจังหวัดภูเก็ต และได้มอบหมายให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ตเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับเอกชนที่ทำผิดกฎหมายซึ่งในเบื้องต้นเท่าที่มีการตรวจสอบพบว่ามีจำนวนมาก แต่วันนี้จะมีการดำเนินการในพื้นที่ ต.กมลา อ.กะทู้ ก่อน จำนวน 2 โครงการ ซึ่งนอกจากจะทำผิดกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้วยังพบว่ามีการก่อสร้างบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ซึ่งหลังจากแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมแล้วทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้ก็จะเข้าแจ้งความในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติด้วย เนื่องจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นพื้นที่ สปก. และทางสปก.กันไว้และส่งกลับคืนให้กับทางป่าไม้ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลับเป็นพื้นที่ป่าสงวนเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม สำหรับการดำเนินการแจ้งความต่อผู้ที่กระทำความผิดนั้นจะดำเนินการทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ตำบลกะรน และป่าตอง ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจสอบไว้แล้ว
พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวต่อไปว่า การเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่นั้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต พื้นที่บนภูเขาของจังหวัดภูเก็ตนั้นเป็นดินทรายร่วนลูกรัง ถ้ามีการก่อสร้างบนที่สูงเกินกว่า 80 เมตร และมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ เพราะฉะนั้นการเข้ามาดำเนินการในครั้งนี้ก็เพื่อที่รักษาไว้ซึ่งไข่มุกอันดามันไม่ให้มีปัญหาในอนาคต ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมจึงได้มอบหมายให้คณะทำงานลงมาดำเนินการในครั้งนี้เพื่อรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไว้ไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบนั้นไม่ได้ต้องการสกัดกั้นในเรื่องของการเข้ามาลงทุน และพร้อมที่จะสนับสนุนให้มีการลงทุนถ้าการลงทุนนั้นทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะที่ นายองอาจ ชนะชาญมงคล ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้จะแจ้งความดำเนินคดีกับโครงการที่ขออนุญาตก่อสร้างในเขตพื้นที่ หมู่ที่ 6 อบต.กมลา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างบนพื้นที่สูงเกิน 80 เมตร ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นอยู่ในพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมที่ห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารใดๆบนที่สูงเกิน 8 เมตร สำหรับโครงการที่จะมีการแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้มี 2 โครงการ คือโครงการภาริสา ที่ขออนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นหลังๆ จาก อบต.กมลา ซึ่งโดยปกติแล้วการอนุญาตก่อสร้างบนที่สูงเกิน 80 เมตรนั้นไม่สามารถกระทำได้ ตามประกาศเขตพื้นที่คุ้มครอง ส่วนอีกโครงการคือโครงการแคปโซล โดยจากการเข้าไปตรวจสอบพบว่าขณะนี้ทั้ง 2 โครงการมีการก่อสร้างไปแล้วประมาณ 10 หลัง การแจ้งความร้องทุกข์นั้นจะแจ้งความร้องทุกข์ทุกหลัง โดยใช้หลักฐานการออกใบอนุญาตจากอบต.กมลา เป็นหลังฐานในการแจ้งความดำเนินคดีในครั้งนี้ซึ่งการแจ้งความดำเนินคดีนั้นจะแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัทที่ยื่นขออนุญาต ทั้ง 2 โครงการ หลังจากแจ้งความแล้วจะเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป