xs
xsm
sm
md
lg

สัปดาห์หน้ารูปผล “โครงการมังกี้แลนด์” เกิดได้หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตเผยสัปดาห์หน้า ตัดสินใจเรื่อง “โครงการมังกี้แลนด์” ได้ รอคณะทำงานประมวลข้อมูลทั้งหมด รวมกับข้อมูลจากชาวบ้านก่อนตัดสินใจ

นายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการมังกี้แลนด์ ภูเก็ต ซึ่งจะขอใช้เกาะทะนาน ต.วิชิต และเกาะแอว ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นสถานที่ในการดำเนินว่า ขณะนี้คณะทำงานพิจารณาความเป็นไปได้โครงการมังกี้แลนด์ได้เสนอผลการประชุม และข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้ามายังจังหวัดเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว

ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือกลับไปยังคณะทำงานเพื่อให้ประมวลข้อมูลทั้งหมด รวมกับข้อมูลของกลุ่มเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลองที่ยื่นมาเช่นกัน เพื่อให้จังหวัดพิจารณาเรื่องการติดสินใจเกี่ยวกับโครงการมังกี้แลนด์ ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าก็จะสามารถตอบคำถามได้ว่าจังหวัดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร

ขณะที่ นายองอาจ ชนะชาญมงคล กรทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เลขาคณะทำงานพิจารณาความเป็นไปได้โครงการ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งสรุปข้อมูลผลการประชุมของคณะทำงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว โดยนำเสนอข้อมูลและความคิดเห็นของคณะทำงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อประกอบการตัดสินใจของจังหวัด โดยเสนอหนังสือไปยังจังหวัดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม สำหรับความเห็นนั้นมีทั้งผลดีและผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการดังกล่าว แต่การใช้พื้นที่เกาะ ซึ่งเป็นที่หลวงในการดำเนินการนั้นเป็นเรื่องที่ยาก

ด้าน นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ประธานเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชมรมต่างๆ ซึ่งเป็นเครือข่ายความร่วมมือของเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง ตลอดจนประชาชนรอบอ่าวฉลองว่า มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเสนอขอจัดทำโครงการ มังกี้แลนด์-ภูเก็ต ที่บริเวณเกาะทะนาน ต.วิชิต และเกาะแอว ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ของบริษัทไพรเมทส์ รีสอร์ท จำกัด

จากการที่ทางเครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวฉลอง ได้ศึกษารายละเอียดของโครงการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของชุมชนชายฝั่งบางส่วน ที่เป็นกลุ่มอาสาสมัครเฝ้าระวังอ่าวฉลอง กลุ่มอาชีพประมงที่มีผลกระทบโดยตรง ต่างไม่เห็นด้วยที่จะให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่

สำหรับสาเหตุของความไม่เห็นด้วยพอสรุปได้ดังนี้ เริ่มตั้งแต่การใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งทั้งสองเกาะภาครัฐได้ออกหนังสือสำคัญสำหรับที่แล้ว (นสล.) หากจะมีการใช้ประโยชน์ก็จะต้องมีการถอนสภาพก่อนโดยความเห็นชอบของสภาตำบล แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีถอนสภาพเพื่อประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้น หากจะให้เอกชนเข้าไปใช้ก็จะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์

นอกจากนี้ เกาะดังกล่าวยังเป็นที่สาธารณประโยชน์ ตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 คือ ที่จับสัตว์น้ำ หากอนุญาตก็จะผิดกฎหมาย และยังละเมิดสิทธิประชาชนตามกฎหมายรัฐธรรมนูญด้วย และเนื่องจากตัวโครงการจะมีการสร้างสะพาน ซึ่งก็จะต้องไปขออนุญาตกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี

ขณะเดียวกันยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะลิงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ กังวลในเรื่องของโรคติดต่อร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น การว่ายน้ำข้ามเกาะของลิง เพราะลิงไม่ได้ถูกขังไว้ในกรง

ที่สำคัญยังมีผลกระทบต่อทรัพยากรปะการัง โดยที่ผ่านมาที่บริเวณเกาะทะนาน เครือข่ายฯ มีการจัดทำกิจกรรมการอนุรักษ์มาตลอด มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ อนุบาลปลาการ์ตูน ปล่อยหอยมือเสือ และปลาสวยงาม จึงถือว่าเป็นพื้นที่ซึ่งค่อนข้างที่จะมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเล ซึ่งผู้คนแถบนี้ทราบกันเป็นอย่างดี และบริเวณเกาะทะนานยังมีบริเวณเนินทรายที่เคลื่อนที่ขยับย้ายไปตามกระแสลม กระแสน้ำและกระแสคลื่น แม้จะทำให้ปะการังบริเวณเนินทรายจะตายไปตามธรรมชาติ นอกเหนือจากบริเวณดังกล่าวในละแวกเดียวกันยังมีความสมบูรณ์อยู่ หากมีการก่อสร้างท่าเทียบเรือไปขวางทางน้ำ ทำให้กระน้ำเปลี่ยนทิศ ทำให้การเคลื่อนย้ายของทรายเปลี่ยนทิศด้วย และจะทำให้ฟุ้งกระจายทับแนวปะการังที่สมบูรณ์

ส่วนเกาะแอวเป็นเกาะที่มีปะการังสมบูรณ์ ซึ่งได้มีการขอร้องผู้ประกอบการท่องเที่ยวว่าอย่านำนักท่องเที่ยวไปที่เกาะดังกล่าว เพราะควรจะอนุรักษ์ปะการังไว้เป็นต้นพันธุ์ เพื่อให้แพร่กระจายไปฟื้นฟูแหล่งที่เสื่อมโทรมบริเวณใกล้เคียง เช่น เกาะเฮ เกาะโหลน เป็นต้น ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี และประการสำคัญ เกาะแห่งนี้ได้ออกเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ให้เป็นพื้นที่เขตรักษาพืชพันธุ์

สำหรับผลกระทบต่อบุคคล จะกระทบกับผู้ทำประมง หากมีการอนุญาตให้ใช้เกาะดังกล่าว ก็ทำให้ชาวประมงไม่สามารถเข้าไปหลบคลื่นลมได้ แม้ว่าทางผู้ประกอบการบอกว่าอนุญาตให้ชาวประมงหลบคลื่นลมได้ แต่หากเป็นช่วงกลางคืนก็จะยุ่งยาก อนาคตจะมีปัญหาแน่

นายสุทา กล่าวว่า ข้อมูลที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงบางส่วนที่ต้องการสะท้อนให้ภาครัฐนำไปประกอบการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติให้เกาะดังกล่าวหรือไม่ โดยได้ทำเป็นหนังสือส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้รับเรื่องไว้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น