ตรัง – ชาวตรังส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยที่จะมีการเลือก “สมัคร” มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก ในขณะที่นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ระบุการชุมนุมของพันธมิตรฯ ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ โล่งใจ “หมัก” พ้นตำแหน่งเชื่อลดความกดดันได้
วันนี้ (10 ก.ย.) หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตัดสินให้ นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ประชาชนชาวจังหวัดตรัง ในหลายสาขาวิชาชีพ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการเมืองของประเทศไทยต่อไป หลังจากที่จะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยประชาชนชาวจังหวัดตรังส่วนใหญ่มีความเห็นว่า คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่พิจารณาให้ นายสมัคร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นนิมิตหมายที่ดีของการเมืองประเทศ เพราะสถานการณ์ความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะได้ยุติลงโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ไม่ควรจะเลือกคนที่มีคดีติดตัวมาดำรงตำแหน่ง โดยเฉพาะ นายสมัคร สุนทรเวช ที่ยังรอการพิจารณาอีก 1 คดี ในวันที่ 25 กันยายน ทั้งนี้ หากฝ่ายรัฐบาลเลือก นายสมัคร มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถือเป็นการหมิ่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะต้องโปรดเกล้าฯ หลายครั้ง ในระยะใกล้เคียงกัน และถือเป็นการเยาะหยันศาลรัฐธรรมนูญ และประชาชนชาวไทย ที่เลือกคนมีคดีติดตัวมาบริหารประเทศ และปล่อยให้การบริหารประเทศเป็นสุญญากาศ
นายสฤษดิ์ ธัญกิจจานุกิจ ผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์ตรัง อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดตรัง และนักวิชาการทางด้านกฎหมาย กล่าวว่า การเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ควรจะมีการใช้กระบวนการของระบบรัฐสภา โดยการเลือกสรรจาก ส.ส.และที่ไม่ควรเป็น นายสมัคร เพราะบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ควรจะมีความสง่างามในทุกด้าน และที่สำคัญจะต้องเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
นายสฤษดิ์ กล่าวอีกว่า หาก นายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ตนมองว่า ไม่เหมาะสม เพราะศาลได้พิจารณาคดีแล้วว่ามีความผิดจริง จึงไม่มีความสง่างามเพียงพอต่อการดำรงตำแหน่งนี้ รวมทั้งถือว่าเป็นบุคคลที่ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการรณรงค์จาก ส.ส.และผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินชี้มูลความผิดของนายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้น แสดงให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมของศาล ในการพิจารณาคดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงมีการชุมนุมโดยที่ยังไม่ยอมสลายการชุมนุมในขณะนี้นั้น มองว่า เป็นการชุมนุมที่ต้องการให้มีสภาพการเมืองใหม่ และต้องการให้ได้มาซึ่ง ส.ส.ที่มีคุณธรรม และจริยธรรม ในการเข้ามาบริหารประเทศ โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง หรือการเข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะต้องคำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักสำคัญ
นายวิชัย รัตตมณี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการที่ นายสมัคร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะสามารถลดแรงกดดันทางการเมืองได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯในหลายเดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก จนทำให้บางประเทศได้มีการประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้มีการขอเลื่อนการท่องเที่ยวออกไป ซึ่งทำให้ประเทศต้องสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า หาก นายสมัคร ตัดสินใจวางมือทางการเมือง โดยยอมที่จะไม่กลับมารับตำแหน่งอีกนั้น ถือเป็นการก่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง มั่นใจว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น และนักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศไทย รวมทั้งจังหวัดตรัง อันจะเป็นผลดีของทิศทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
วันนี้ (10 ก.ย.) หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ ได้ตัดสินให้ นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ประชาชนชาวจังหวัดตรัง ในหลายสาขาวิชาชีพ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางการเมืองของประเทศไทยต่อไป หลังจากที่จะมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยประชาชนชาวจังหวัดตรังส่วนใหญ่มีความเห็นว่า คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ที่พิจารณาให้ นายสมัคร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นนิมิตหมายที่ดีของการเมืองประเทศ เพราะสถานการณ์ความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะได้ยุติลงโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม การเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ไม่ควรจะเลือกคนที่มีคดีติดตัวมาดำรงตำแหน่ง โดยเฉพาะ นายสมัคร สุนทรเวช ที่ยังรอการพิจารณาอีก 1 คดี ในวันที่ 25 กันยายน ทั้งนี้ หากฝ่ายรัฐบาลเลือก นายสมัคร มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ถือเป็นการหมิ่นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะต้องโปรดเกล้าฯ หลายครั้ง ในระยะใกล้เคียงกัน และถือเป็นการเยาะหยันศาลรัฐธรรมนูญ และประชาชนชาวไทย ที่เลือกคนมีคดีติดตัวมาบริหารประเทศ และปล่อยให้การบริหารประเทศเป็นสุญญากาศ
นายสฤษดิ์ ธัญกิจจานุกิจ ผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์ตรัง อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดตรัง และนักวิชาการทางด้านกฎหมาย กล่าวว่า การเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ควรจะมีการใช้กระบวนการของระบบรัฐสภา โดยการเลือกสรรจาก ส.ส.และที่ไม่ควรเป็น นายสมัคร เพราะบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ควรจะมีความสง่างามในทุกด้าน และที่สำคัญจะต้องเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
นายสฤษดิ์ กล่าวอีกว่า หาก นายสมัคร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ตนมองว่า ไม่เหมาะสม เพราะศาลได้พิจารณาคดีแล้วว่ามีความผิดจริง จึงไม่มีความสง่างามเพียงพอต่อการดำรงตำแหน่งนี้ รวมทั้งถือว่าเป็นบุคคลที่ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการรณรงค์จาก ส.ส.และผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งการที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินชี้มูลความผิดของนายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้น แสดงให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมของศาล ในการพิจารณาคดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยังคงมีการชุมนุมโดยที่ยังไม่ยอมสลายการชุมนุมในขณะนี้นั้น มองว่า เป็นการชุมนุมที่ต้องการให้มีสภาพการเมืองใหม่ และต้องการให้ได้มาซึ่ง ส.ส.ที่มีคุณธรรม และจริยธรรม ในการเข้ามาบริหารประเทศ โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวหรือพวกพ้อง หรือการเข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว ซึ่งจะต้องคำนึงถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักสำคัญ
นายวิชัย รัตตมณี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการที่ นายสมัคร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะสามารถลดแรงกดดันทางการเมืองได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯในหลายเดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศเป็นอย่างมาก จนทำให้บางประเทศได้มีการประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้มีการขอเลื่อนการท่องเที่ยวออกไป ซึ่งทำให้ประเทศต้องสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่า หาก นายสมัคร ตัดสินใจวางมือทางการเมือง โดยยอมที่จะไม่กลับมารับตำแหน่งอีกนั้น ถือเป็นการก่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง มั่นใจว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น และนักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวภายในประเทศไทย รวมทั้งจังหวัดตรัง อันจะเป็นผลดีของทิศทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน