กาฬสินธุ์ - ประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์เสนอยุบสภาล้างไผ่จัดการเลือกตั้งใหม่แก้ปัญหาวิกฤตบ้านเมือง แนะเลือกนายกฯ ที่มีความเป็นกลาง ไม่ใช่มากจากการเมือง ระบุหากปล่อยสถานการณ์ต่อไปมีแต่จะเกิดความวุ่นวายและนองเลือดได้
นายเป๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี อาชีพรับราชการคนหนึ่ง กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องคุณสมบัติ และทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญในการจัดรายการชิมไปบ่นไปนั้นถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นความผิดชัดเจน
แต่การพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมัครครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น เพราะทราบข่าวว่าเพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยังชุมนุมประท้วงเหมือนเดิมไม่ยอมฟังใคร ที่สำคัญพรรคพลังประชาชนยังจะมีการเสนอชื่อนายสมัครเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลไม่พอใจและจะชุมนุมประท้องยืดเยื้อต่อไปอีก
ดังนั้น ทางออกในการแก้ปัญหา ส่วนตัวเชื่อว่าการยุบสภาฯ ล้างไพ่จัดการเลือกตั้งใหม่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแต่ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องฟังความเห็นคนส่วนใหญ่ เคารพกติกาบ้านเมือง คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมด้วยไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะเกิดความเสียหายและวุ่นวายเหมือนเดิม
ด้าน นายสุพิณ ไกรทรัพย์สม อายุ 48 ปี พ่อค้าขายข้างแกงภายในตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นนิดหน่อยเพราะสามารถลดแรงต้านทานของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลได้ส่วนหนึ่ง
แต่ขณะนี้ทราบว่ามติของพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอชื่อนายสมัครเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้งเพราะเท่าที่ติดตามข่าวสารกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้นายสมัครลาออกเท่านั้น
นายสุพิณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประชาชนต่างแยกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนทั้งกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและกลุ่มเห็นด้วยกับรัฐบาล ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปแบบนี้ต่อไป ประชาชนชาวไทยยิ่งจะมีความขัดแย้งกันเพิ่มขึ้น และจะนำไปสู่การนองเลือดก็ได้ เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาควรที่จะเลือกคนที่เป็นกลางไม่ใช่มาจากนักการเมืองเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อบริหารประเทศ ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายจะให้การยอมรับ
ขณะที่ นายนิเวศน์ ไหมเตียงกลาง อายุ 32 ปี พ่อค้าขายไข่ไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การที่นายสมัคร สุนทรเวช กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น ในส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะไม่ใช่เป็นความผิดที่ร้ายแรงและเสียหายอะไรมากนัก แต่อยากให้กลุ่มที่กำลังต่อต้านรัฐบาลอยู่ขณะนี้เคารพกฎหมายเห็นแก่เสียงส่วนมาก หันหน้ามาคุยกัน เพื่อที่จะหาทางออกร่วมกันไม่ใช่ไม่ยอมคุยกับใครเลย เอาแต่ชุมนุมขับไล่อย่างเดียว
นายเป๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี อาชีพรับราชการคนหนึ่ง กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องคุณสมบัติ และทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญในการจัดรายการชิมไปบ่นไปนั้นถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะเป็นความผิดชัดเจน
แต่การพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมัครครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น เพราะทราบข่าวว่าเพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยังชุมนุมประท้วงเหมือนเดิมไม่ยอมฟังใคร ที่สำคัญพรรคพลังประชาชนยังจะมีการเสนอชื่อนายสมัครเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งจะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลไม่พอใจและจะชุมนุมประท้องยืดเยื้อต่อไปอีก
ดังนั้น ทางออกในการแก้ปัญหา ส่วนตัวเชื่อว่าการยุบสภาฯ ล้างไพ่จัดการเลือกตั้งใหม่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแต่ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องฟังความเห็นคนส่วนใหญ่ เคารพกติกาบ้านเมือง คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมด้วยไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะเกิดความเสียหายและวุ่นวายเหมือนเดิม
ด้าน นายสุพิณ ไกรทรัพย์สม อายุ 48 ปี พ่อค้าขายข้างแกงภายในตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นนิดหน่อยเพราะสามารถลดแรงต้านทานของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลได้ส่วนหนึ่ง
แต่ขณะนี้ทราบว่ามติของพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอชื่อนายสมัครเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้งเพราะเท่าที่ติดตามข่าวสารกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการให้นายสมัครลาออกเท่านั้น
นายสุพิณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประชาชนต่างแยกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนทั้งกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและกลุ่มเห็นด้วยกับรัฐบาล ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปแบบนี้ต่อไป ประชาชนชาวไทยยิ่งจะมีความขัดแย้งกันเพิ่มขึ้น และจะนำไปสู่การนองเลือดก็ได้ เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาควรที่จะเลือกคนที่เป็นกลางไม่ใช่มาจากนักการเมืองเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อบริหารประเทศ ซึ่งเชื่อว่าทุกฝ่ายจะให้การยอมรับ
ขณะที่ นายนิเวศน์ ไหมเตียงกลาง อายุ 32 ปี พ่อค้าขายไข่ไก่ในตลาดสดเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การที่นายสมัคร สุนทรเวช กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น ในส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะไม่ใช่เป็นความผิดที่ร้ายแรงและเสียหายอะไรมากนัก แต่อยากให้กลุ่มที่กำลังต่อต้านรัฐบาลอยู่ขณะนี้เคารพกฎหมายเห็นแก่เสียงส่วนมาก หันหน้ามาคุยกัน เพื่อที่จะหาทางออกร่วมกันไม่ใช่ไม่ยอมคุยกับใครเลย เอาแต่ชุมนุมขับไล่อย่างเดียว