xs
xsm
sm
md
lg

ยามภูเก็ตฯยันถูกผู้ไม่หวังดีขนคนกลับ-เชื่อ พปช.ในภูเก็ตรู้เห็นแน่นอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยามเฝ้าแผ่นดินและพันธมิตรฯภูเก็ต ออกแถลงการณ์ยืนยัน ข่าวการขนคนกลับที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวานนี้ เป็นการปั้นแต่งโดยบุคคลที่ไม่หวังดีที่ต้องการให้พลังมวลชนภูเก็ตเข้าใจผิด เชื่อ “พลังประชาชน” ในภูเก็ตอยู่เบื้องหลัง เผยไม่ท้อยืนยันสู้จนกว่า “หมัก” ลาออก พร้อมย้ายสถานที่ชุมนุมจากศาลากลาง ไปยังสะพานหินตั้งแต่คืนพรุ่งนี้เป็นต้นไป

เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันนี้ (7 ก.ย.) ที่สนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดภูเก็ต โดยทางกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินและพันธมิตรฯได้ทำพิธีเผาหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหุ่นที่ทำขึ้นจากโฟมใส่สูทสีแดงที่สื่อให้เห็นว่า นายสมัคร เป็นหัวหน้ากลุ่ม นปก.โดยมีกลุ่มพันธมิตรฯภูเก็ตจำนวนมากรวมพิธีเผาหุ่นดังกล่าว

หลังจากนั้น นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต และนายธวัชชัย วรฐานตระกูล เลขาฯกลุ่มยามฯภูเก็ต พร้อมสมาชิกกลุ่มยามฯภูเก็ต อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ของกลุ่มยามฯและพันธมิตรฯ โดยแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า

สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่ม นปช.ได้เคลื่อนกำลังมาที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนด้วยกัน ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จนรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร

กลุ่มพันธมิตรฯภูเก็ต จึงได้รวมตัวกันปิดล้อมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อกดดันให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองด้วยการยุบสภา เนื่องจากรัฐบาลหมดความชอบธรรมในการบริหารบ้านเมืองแล้ว และขอให้รัฐบาลยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุนเฉินในทันที

ซึ่งระหว่างนี้มีผู้หวังดีมาแจ้งยังกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ว่า มีผู้ไม่ประสงค์ออกนามจัดรถให้มวลชนเดินทางขึ้นไปชุมนุมกับพี่น้องพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯฟรีจำนวน 15 คัน ให้ทางกลุ่มยามฯภูเก็ต ประกาศให้ประชาชนที่ต้องการจะเดินทางไปทราบและมาพร้อมกันที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อขึ้นรถเดินทางไปกรุงเทพฯ วันที่ 2 ก.ย.เวลา 15.00 น.จำนวน 5 คันรถบัส ประมาณ 240 คน

วันต่อมาบุคคลดังกล่าวมีชื่อย่อ “ด” และ “ว” แจ้งจุดมุ่งหมายเดิมให้ทางกลุ่มทราบอีกเรื่องการนำกลุ่มมวลชนขึ้นกรุงเทพฯโดยครั้งนี้จะจัดเครื่องบินให้ ซึ่งมีพี่น้องพันธมิตรฯภูเก็ตจำนวน 136 คน มาลงชื่อและถ่ายสำเนาบัตรประชาชนไว้เป็นหลักฐาน แต่สุดท้ายนาย “ด” ก็แจ้งว่าไม่สามารถจัดเครื่องบินให้ได้ เพราะตั๋วเต็ม ต้องเดินทางโดยรถบัสเช่นเดิมจำนวน 3 คัน รวมผู้โดยสารสองรอบ 350 คน แต่นาย “ด” กลับแจ้งว่า จะส่งมวลชนขึ้นไปอย่างเดียว มวลชนต้องเดินทางกลับเองทั้งที่ก่อนหน้านี้นาย “ด” สัญญาว่าจะดูแลมวลชนฟรีทั้งไปและกลับ คณะกรรมการกลุ่มยามฯภูเก็ตจึงทวงถามสัญญาก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงจากบุคคลทั้งสองด้วยเหตุผลต่างๆ นานา

เมื่อเป็นเช่นกัน คณะกรรมการกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ไม่ได้นิ่งนอนใจ ประสานไปยังคณะกรรมการ ซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯแจ้งผู้โดยสารท่านใดประสงค์จะเดินทางกลับก็แจ้งให้ทราบ ทางกลุ่มจะจัดรถขึ้นไปรับโดยมีค่าใช้จ่ายคนละ 600 บาท แต่ระหว่างนั้นนาย “ด” และนาย “ว” ก็แจ้งกลับมายังคณะกรรมการ ว่า จะจัดรถไปรับผู้โดยสารกลับด้วยตนเอง

จนเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันที่ 6 ก.ย.2551 บุคคลทั้งสองนำกลุ่มมวลชนร่วม 300 คนรวมตัวกันบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อมกับนำนักข่าวจากสำนักต่างๆ มาด้วยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งนาย “ว” ให้ข่าวว่า พันธมิตรฯภูเก็ต กลุ่มนี้ต้องการเดินทางกลับจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากอ่อนล้าและถูกหลอกให้มาร่วมชุมนุมตามคำให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 8 ก.ย.2551 โดย บชน.เป็นผู้สนับสนุนรถให้ จนช่วงเช้าวันนี้น ายสมัคร สุนทรเวช ออกมากล่าวผ่านรายการช่อง NBT ว่า ตนเองเป็นผู้จัดรถให้พันธมิตรฯภูเก็ตเดินทางกลับเองนั้น

กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ถูกปั้นแต่งด้วยฝีมือของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีเข้าก่อกวน หวังให้พลังมวลชนภูเก็ตเกิดความเข้าใจผิด กลุ่มยามฯภูเก็ตด้วยประการใดๆ ผ่านบุคคลที่มีชื่อย่อ นาย “ด” และนาย “ว”

ทั้งนี้ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “พรรคพลังประชาชน” ในพื้นที่ภูเก็ต อาจมีส่วนรู้เห็นด้วย จึงมีการเตรียมการที่ครบถ้วน โดยเฉพาะการนำสื่อมวลชนไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เพราะเป็นสิ่งที่บุคคลทั้งสองไม่น่าจะมีศักยภาพดำเนินการได้ในการประสานงานกับสื่อที่กรุงเทพฯได้ และบุคคลทั้งสองมีกิตติศัพท์ที่กลุ่มคนทั่วไปในภูเก็ตโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรถให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตรู้ดีว่าเป็นอย่างไร

ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันปิดล้อมสนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อวันที่ 29-31 ส.ค.ที่ผ่านมา ย่อมเห็นพฤติกรรมที่แสดงออกก้าวร้าว ข่มขู่ของบุคคลทั้งสองได้เป็นอย่างดี กลุ่มยามฯภูเก็ต ยืนยันอีกครั้งว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของผู้ไม่หวังดีที่ต้องการเข้าก่อกวน และที่สำคัญต้องการแสวงหาผลประโยชน์จากการกระทบที่บริสุทธิ์ใจของพี่น้องประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังอ่านแถลงการณ์เสร็จ นายธวัชชัย ได้นำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่ลงข่าวการให้สัมภาษณ์ของนาย “ด” และนาย “ว” มาอ่านให้พันธมิตรฯที่ภูเก็ตฟัง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มพันธมิตรฯเป็นอย่างมากที่นาย “ด” และนาย “ว” ไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าประชาชนต้องการกลับ แต่จริงแล้วประชาชนต้องการอยู่ต่อจนถึงวันอาทิตย์นั้น และนายธวัชชัย กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้กลุ่มยามฯและกลุ่มพันธมิตรฯภูเก็ตเกิดความย้อท้อแต่อย่างใด ทุกคนจะสุ้จนกว่านายสมัคร และลาออกไป หรือยุบสภา และในคืนนี้จะชุมนุมที่ศาลากลางภูเก็ต เป็นคืนสุดท้าย ตั้งแต่คืนวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) เป็นต้นไป จะย้ายการชุมนุมไปที่ปลายแหลมสะพานหินเหมือนเดิม



















กำลังโหลดความคิดเห็น