กาฬสินธุ์ - ชาวเมืองน้ำดำประกาศจุดยืนสู้ไม่ถ่อย เคียงข้าวพันมิตรฯ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ สำรองแผนสองส่งกำลังพลต่อเนื่อง ส่งผลการค้าในเมืองเงียบเหงา
วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า หลังจากที่ กลุ่มพันธมิตรกาฬสินธุ์ ได้เดินทางถึงสะพานมัฆวานO กรุงเทพฯ เพื่อสมทบกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปรากฏว่าสายข่าวกรองของสันติบาลได้พยายามหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากมีกลุ่มมือที่สามพยายามปลุกปั่นข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรกาฬสินธุ์จะมีการเป่านกหวีดรวมพลเพื่อปิดล้อม ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์
ส่งผลให้ นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และได้มีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลไปยังหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์
จากการติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กาฬสินธุ์ ที่ได้เดินทางไปสมทบที่กรุงเทพฯ ทราบว่าข่าวการเคลื่อนไหวที่ว่าจะมีการเป่านกหวีดไปปิดล้อมศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่เป็นความจริง และเป็นการปล่อยข่าวของบุคคลที่ไม่หวังดีภายในจังหวัด ที่ต้องการสร้างความแต่แยก เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน
ทั้งนี้ เพราะการเคลื่อนไหวของกกลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการต่อเนื่องและผลจากการเป่านกหวีดรวมพลนั้นก็ได้มีการเคลื่อนพลไปก่อนหน้านั้น และได้เดินทางไปสมทบกันที่กรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แหล่งข่าวแจ้งว่า แนวทางการดำเนินการเป็นไปตามความต้องการของประชาชน (กลุ่มพันธมิตรกาฬสินธุ์) ที่ต้องการสนับสนุนแนวทางการต่อสู้ เพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ เพราะรัฐบาลหมดความชอบธรรม ทุกกรณีที่ส่งผลร้ายต่อการบริหารบ้านเมืองประชาชนเกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง มีการทุจริตอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกรณีการยกแผ่นดินไทยในเขตเขาพระวิหารไปให้ประเทศกัมพูชา
การต่อสู้ดังกล่าวเกิดขึ้นตามกระบวนการกฎหมายภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด แต่ก็มีความพยายามของคนที่ต้องการให้เกิดความแตกแยกให้ประชาชนที่ยังไม่เข้าถึงข่าวสารเข้าใจผิดทั้งที่รัฐบาลไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับชอบตามฟรีทีวี จะมีแต่การรับชมในสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีเท่านั้น จึงทำให้ประชาชนเกิดความสับสนวุ่นวาย
ดังนั้น การเคลื่อนไหวในส่วนพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์จะมีการสนับสนุนในทุกวิถีทางโดยจะมีการส่งกำลังลงไปอย่างต่อเนื่อง และหากมีความพยายามที่จะเข้ามาสลายนั้นก็จะดำเนินการในรูปแบบอารยะขัดขืนทันที
สำหรับการเคลื่อนไหวสมทบที่กรุงเทพฯ กลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ เชื่อว่าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทยได้ จึงต้องการให้ประชาชนพี่น้องชาวอีสานได้เปิดหูเปิดตา รับรู้ถึงเหตุและผลของการเคลื่อนไหวทั้งหมด เพราะในการขับไล่นั้นจะไม่มีเหตุผลอื่นเลยหากรัฐบาลสามารถบริหารประเทศได้อย่างเที่ยงธรรม ทำให้ประชาชนมีความสุข เพราะในทางกลับกันนั้น รัฐบาลกลับมีความพยายามที่จะทำให้ ความผิดเป็นความชอบ เกิดปัญหาการทุจริตในทุกเรื่อง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในการขับไล่รัฐบาลในส่วน องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ กลับมีการบริหารงานในเชิงพลาญงบประมาณแผ่นดิน ด้วยการจัดให้มีการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะล่าสุด แหล่งข่าวแจ้งว่า ภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีการจัดทัศนะศึกษา ต่างประเทศที่อ้างว่าเป็นการดูงาน ทั้งที่ปัญหาภายในจังหวัดประชาชนเดือดร้อน แถมยังมีการสมอ้างในการจัดสรรงบประมาณรับเหมาให้กับนักการเมืองในกลุ่มของตนเองอีกด้วย จึงต้องการให้ ป.ป.ช.-สตง.-ปปง. เข้าตรวจสอบการบริหารจัดการภายใน อบจ.กาฬสินธุ์ ในยุคการบริหารงานของ นางชะม้อย วรามิตร นายก อบจ.กาฬสินธุ์ คนนี้ด้วย
วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า หลังจากที่ กลุ่มพันธมิตรกาฬสินธุ์ ได้เดินทางถึงสะพานมัฆวานO กรุงเทพฯ เพื่อสมทบกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปรากฏว่าสายข่าวกรองของสันติบาลได้พยายามหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากมีกลุ่มมือที่สามพยายามปลุกปั่นข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรกาฬสินธุ์จะมีการเป่านกหวีดรวมพลเพื่อปิดล้อม ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์
ส่งผลให้ นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และได้มีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลไปยังหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์
จากการติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวจากแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กาฬสินธุ์ ที่ได้เดินทางไปสมทบที่กรุงเทพฯ ทราบว่าข่าวการเคลื่อนไหวที่ว่าจะมีการเป่านกหวีดไปปิดล้อมศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่เป็นความจริง และเป็นการปล่อยข่าวของบุคคลที่ไม่หวังดีภายในจังหวัด ที่ต้องการสร้างความแต่แยก เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน
ทั้งนี้ เพราะการเคลื่อนไหวของกกลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการต่อเนื่องและผลจากการเป่านกหวีดรวมพลนั้นก็ได้มีการเคลื่อนพลไปก่อนหน้านั้น และได้เดินทางไปสมทบกันที่กรุงเทพฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แหล่งข่าวแจ้งว่า แนวทางการดำเนินการเป็นไปตามความต้องการของประชาชน (กลุ่มพันธมิตรกาฬสินธุ์) ที่ต้องการสนับสนุนแนวทางการต่อสู้ เพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ เพราะรัฐบาลหมดความชอบธรรม ทุกกรณีที่ส่งผลร้ายต่อการบริหารบ้านเมืองประชาชนเกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง มีการทุจริตอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกรณีการยกแผ่นดินไทยในเขตเขาพระวิหารไปให้ประเทศกัมพูชา
การต่อสู้ดังกล่าวเกิดขึ้นตามกระบวนการกฎหมายภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด แต่ก็มีความพยายามของคนที่ต้องการให้เกิดความแตกแยกให้ประชาชนที่ยังไม่เข้าถึงข่าวสารเข้าใจผิดทั้งที่รัฐบาลไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับชอบตามฟรีทีวี จะมีแต่การรับชมในสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีเท่านั้น จึงทำให้ประชาชนเกิดความสับสนวุ่นวาย
ดังนั้น การเคลื่อนไหวในส่วนพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์จะมีการสนับสนุนในทุกวิถีทางโดยจะมีการส่งกำลังลงไปอย่างต่อเนื่อง และหากมีความพยายามที่จะเข้ามาสลายนั้นก็จะดำเนินการในรูปแบบอารยะขัดขืนทันที
สำหรับการเคลื่อนไหวสมทบที่กรุงเทพฯ กลุ่มพันธมิตรฯกาฬสินธุ์ เชื่อว่าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทยได้ จึงต้องการให้ประชาชนพี่น้องชาวอีสานได้เปิดหูเปิดตา รับรู้ถึงเหตุและผลของการเคลื่อนไหวทั้งหมด เพราะในการขับไล่นั้นจะไม่มีเหตุผลอื่นเลยหากรัฐบาลสามารถบริหารประเทศได้อย่างเที่ยงธรรม ทำให้ประชาชนมีความสุข เพราะในทางกลับกันนั้น รัฐบาลกลับมีความพยายามที่จะทำให้ ความผิดเป็นความชอบ เกิดปัญหาการทุจริตในทุกเรื่อง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯในการขับไล่รัฐบาลในส่วน องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ กลับมีการบริหารงานในเชิงพลาญงบประมาณแผ่นดิน ด้วยการจัดให้มีการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะล่าสุด แหล่งข่าวแจ้งว่า ภายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีการจัดทัศนะศึกษา ต่างประเทศที่อ้างว่าเป็นการดูงาน ทั้งที่ปัญหาภายในจังหวัดประชาชนเดือดร้อน แถมยังมีการสมอ้างในการจัดสรรงบประมาณรับเหมาให้กับนักการเมืองในกลุ่มของตนเองอีกด้วย จึงต้องการให้ ป.ป.ช.-สตง.-ปปง. เข้าตรวจสอบการบริหารจัดการภายใน อบจ.กาฬสินธุ์ ในยุคการบริหารงานของ นางชะม้อย วรามิตร นายก อบจ.กาฬสินธุ์ คนนี้ด้วย