กระบี่-หลากหลายความเห็นของคนกระบี่ระบุ ไม่เห็นด้วยรัฐทำประชามติ ชี้ใช้งบประมาณไปละลายโดยไม่ได้ประโยชน์กลับคืน
นายพยุงศักดิ์ ขวดแก้ว อาชีพค้าขาย ในพื้นที่อำเภอเหนือคลอง เปิดเผยว่า จากการที่ทางรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะทำประชามติ นั้นตนเองในฐานคนไทยคนหนึ่งไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการกระทำของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ เพราะการทำประชามติ เป็นการนำงบประมาณของประเทศชาติไปละลายแม่น้ำโดยที่ไม่ได้อะไรกลับคืนมาแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การทำประชามติฝ่ายรัฐบาลก็กลับมาชนะตามเคย เพราะรัฐบาลยังใช้กลยุทธ์แบบประชานิยมอยู่ โดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนับสนุน ได้รู้ความจริงสามารถแยกแยะว่าอะไรผิดอะไรถูก
ประเทศไทยยังมีประชาชนที่มีความรู้ต่ำอยู่มากมาย และตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองหลอกใช้ได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันประชาชนแตกเป็นสองฝ่าย ต่างฝ่ายสนับสนุนกลุ่มที่รัก ซึ่งได้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป รัฐบาลก็ไม่ได้พูดความจริงที่กระทำขัดทางสังคม สังคมกำลังรอคำตอบจากรัฐบาลอยู่
ที่ผ่านมา รัฐบาลทำอะไรไม่เคยโปร่งใส่ ไม่เคยที่จะแก้ปัญหาในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาความไม่สบงทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ การดำเนินคดีกับ นายจักรภพ เพ็ญแข ในคดีหมิ่นเบื้องสูง การจับกุมแกนนำคนรักอุดรที่เข้าไปทำร้ายร่างกายพันธมิตร รวมทั้ง การที่คนร้ายยิงนักศึกษารามคำแหง และหลายเรื่องที่สังคมต้องการให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ การทำประชามติไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหา เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับรัฐบาลมากว่า แต่พฤติกรรมรัฐมนตรีและผู้นำประเทศยังน่าเป็นห่วง เพราะยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่เยอะมาก
นายวิทยา จิวนันทประวัติ อาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว ในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ เปิดเผยว่าการทำประชามติก็เหมือนกับให้ผู้มีอายุใช้สิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายมาลงคะแนนเสียงให้กับรัฐบาล ก็ไม่พ้นการซื้อเสียงอยู่ดีนั้นแหละ ถ้ารัฐบาลหรือนักการเมืองไทยยังคิดที่จะอยู่ในอำนาจที่ได้มาจากประชาชนในทางที่ผิด ส.ส.หรือแม้กระทั่ง ส.ว.บางจำพวก ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว การแก้ไขปัญหาทางการเมืองก็ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯขึ้นมาต่อต้าน ก็ต้องมีกลุ่มที่ต้านรัฐบาลกลุ่มอื่นขึ้นมาอีก มันเป็นธรรมเนียมของนักการเมือง ที่ไม่ได้เข้าไปเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างจริงจัง
แต่กลับต้องการเปิดช่องทางในการทำธุรกิจของตัวเองและพวกพ้อง ซึ่งการกระทำของรัฐบาลชุดนี้กำลังดำเนินกิจการอยู่ โดยใช้ข้าราชและบุคคลภายนอกเข้ามาทำงานในองค์กรบางองค์กร เพื่อควบคุมอำนาจให้อยู่ในมือของฝ่ายรัฐบาล การทำประชามติก็เช่นเดียวกัน เป็นนิทานที่รัฐบาลพยามเล่าให้เด็กๆฟังใครเชื่อรัฐบาลก็ได้คะแนน ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลยที่รัฐบาลพยายามเยื้อเวลาไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหา
การทำประชามติต้องใช้งบประมาณ 1,000 – 2,000 ล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณทิ้งลงทะเล ทั้งที่ตัวปัญหาอยู่ที่รัฐบาล และอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่รัฐบาลกำลังอุ้มชูกันอยู่อย่างออกหน้าออกตา ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอยู่ในขณะนี้
นายสมบรูณ์ หง้าฝา ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การทำประชามติเห็นด้วยแต่ทำแล้วแก้ไขปัญหาที่เกิดอยู่ในปัจจุบันได้ถือว่า ประสบความสำเร็จในการทำประชามติ แต่ถ้าการทำประชามติไม่ประสบความสำเร็จ เท่ากับรัฐบาลนำงบประมาณในการทำประชามติมาทิ้งอย่างไร้ประโยชน์ รัฐบาลมีมาตรฐาน ในการแก้ไขปัญหาและมีความจริงใจในการนำพาประเทศชาติ ไม่ใช่คิดที่จะทำลาย หรือขจัดพวกที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับฝ่ายรัฐบาล มันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวเกินไป นายสมัคร สุนทรเวช ทำอะไรเป็นรูปเป็นร่างบ้างไหมไม่มีเลยแม้แต่ชิ้นเดียว รัฐบาลทำไปเพื่ออะไร
นายพยุงศักดิ์ ขวดแก้ว อาชีพค้าขาย ในพื้นที่อำเภอเหนือคลอง เปิดเผยว่า จากการที่ทางรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะทำประชามติ นั้นตนเองในฐานคนไทยคนหนึ่งไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการกระทำของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ เพราะการทำประชามติ เป็นการนำงบประมาณของประเทศชาติไปละลายแม่น้ำโดยที่ไม่ได้อะไรกลับคืนมาแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน การทำประชามติฝ่ายรัฐบาลก็กลับมาชนะตามเคย เพราะรัฐบาลยังใช้กลยุทธ์แบบประชานิยมอยู่ โดยที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนที่สนับสนุน ได้รู้ความจริงสามารถแยกแยะว่าอะไรผิดอะไรถูก
ประเทศไทยยังมีประชาชนที่มีความรู้ต่ำอยู่มากมาย และตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองหลอกใช้ได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบันประชาชนแตกเป็นสองฝ่าย ต่างฝ่ายสนับสนุนกลุ่มที่รัก ซึ่งได้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป รัฐบาลก็ไม่ได้พูดความจริงที่กระทำขัดทางสังคม สังคมกำลังรอคำตอบจากรัฐบาลอยู่
ที่ผ่านมา รัฐบาลทำอะไรไม่เคยโปร่งใส่ ไม่เคยที่จะแก้ปัญหาในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาความไม่สบงทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ การดำเนินคดีกับ นายจักรภพ เพ็ญแข ในคดีหมิ่นเบื้องสูง การจับกุมแกนนำคนรักอุดรที่เข้าไปทำร้ายร่างกายพันธมิตร รวมทั้ง การที่คนร้ายยิงนักศึกษารามคำแหง และหลายเรื่องที่สังคมต้องการให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ การทำประชามติไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหา เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับรัฐบาลมากว่า แต่พฤติกรรมรัฐมนตรีและผู้นำประเทศยังน่าเป็นห่วง เพราะยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่เยอะมาก
นายวิทยา จิวนันทประวัติ อาชีพประกอบธุรกิจส่วนตัว ในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ เปิดเผยว่าการทำประชามติก็เหมือนกับให้ผู้มีอายุใช้สิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายมาลงคะแนนเสียงให้กับรัฐบาล ก็ไม่พ้นการซื้อเสียงอยู่ดีนั้นแหละ ถ้ารัฐบาลหรือนักการเมืองไทยยังคิดที่จะอยู่ในอำนาจที่ได้มาจากประชาชนในทางที่ผิด ส.ส.หรือแม้กระทั่ง ส.ว.บางจำพวก ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว การแก้ไขปัญหาทางการเมืองก็ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ไม่มีกลุ่มพันธมิตรฯขึ้นมาต่อต้าน ก็ต้องมีกลุ่มที่ต้านรัฐบาลกลุ่มอื่นขึ้นมาอีก มันเป็นธรรมเนียมของนักการเมือง ที่ไม่ได้เข้าไปเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างจริงจัง
แต่กลับต้องการเปิดช่องทางในการทำธุรกิจของตัวเองและพวกพ้อง ซึ่งการกระทำของรัฐบาลชุดนี้กำลังดำเนินกิจการอยู่ โดยใช้ข้าราชและบุคคลภายนอกเข้ามาทำงานในองค์กรบางองค์กร เพื่อควบคุมอำนาจให้อยู่ในมือของฝ่ายรัฐบาล การทำประชามติก็เช่นเดียวกัน เป็นนิทานที่รัฐบาลพยามเล่าให้เด็กๆฟังใครเชื่อรัฐบาลก็ได้คะแนน ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลยที่รัฐบาลพยายามเยื้อเวลาไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหา
การทำประชามติต้องใช้งบประมาณ 1,000 – 2,000 ล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณทิ้งลงทะเล ทั้งที่ตัวปัญหาอยู่ที่รัฐบาล และอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่รัฐบาลกำลังอุ้มชูกันอยู่อย่างออกหน้าออกตา ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอยู่ในขณะนี้
นายสมบรูณ์ หง้าฝา ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การทำประชามติเห็นด้วยแต่ทำแล้วแก้ไขปัญหาที่เกิดอยู่ในปัจจุบันได้ถือว่า ประสบความสำเร็จในการทำประชามติ แต่ถ้าการทำประชามติไม่ประสบความสำเร็จ เท่ากับรัฐบาลนำงบประมาณในการทำประชามติมาทิ้งอย่างไร้ประโยชน์ รัฐบาลมีมาตรฐาน ในการแก้ไขปัญหาและมีความจริงใจในการนำพาประเทศชาติ ไม่ใช่คิดที่จะทำลาย หรือขจัดพวกที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับฝ่ายรัฐบาล มันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวเกินไป นายสมัคร สุนทรเวช ทำอะไรเป็นรูปเป็นร่างบ้างไหมไม่มีเลยแม้แต่ชิ้นเดียว รัฐบาลทำไปเพื่ออะไร